คงกลัวว่าจะถูกยุบพรรค
หรือหลงคิดว่าคนไทยนี่มันเชื่อคนง่าย เราว่าอย่างไร มันก็จะเชื่ออย่างนั้น?
1. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ ระบุถึงกรณีข่าวว่าอดีต สส.-รัฐมนตรี-ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลฎีกาฯ คดีทุจริตหลายคดี และผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี
อ้างว่า เป็นเพียงการพบปะเยี่ยมเยียนบุคคลอันเป็นที่เคารพรัก เป็นเรื่องส่วนบุคคลของสมาชิกพรรค
“พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคลมีหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งทุกท่านล้วนเป็นตัวแทนของพรรคที่ได้รับเลือกตั้งจากสมาชิกพรรคตามกระบวนการทางกฎหมายและเป็นไปตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย คณะกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและคณะกรรมการบริหารแต่ละชุดจึงถือเป็นผู้แทนพรรคการเมืองอย่างถูกต้องและชอบธรรมทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย การตัดสินใจสำคัญใดๆ ของพรรคเพื่อไทย ล้วนดำเนินการและเกิดขึ้นโดยอาศัยกระบวนการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารอย่างมีระบบและแบบแผน
อำนาจการตัดสินใจใดๆ ของคณะผู้บริหารพรรค จำเป็นต้องรับฟังความเห็นจากสาขาพรรค จากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และที่สำคัญต้องอยู่บนพื้นฐานการรับฟังความเห็นอย่างกว้างขวางจากสมาชิกพรรค รวมถึงความต้องการของประชาชน ที่จะเป็นฝ่ายเสนอและตรวจสอบการดำเนินการตามระบบของพรรค จึงไม่สามารถที่จะมีการบงการ สั่งการ หรือโน้มน้าวใดๆ จากปัจเจกบุคคลตามที่ถูกนำมากล่าวอ้างได้
การนำประเด็นความห่วงใยมาบอกกล่าวต่อกันก็เป็นการสื่อสารเชิงบวกที่ผู้ใหญ่มีต่อบุคคลนั้นๆ ด้วยความปรารถนาดี มิใช่การสั่งการ ควบคุม กำหนดเงื่อนไขทางการเมืองต่อพรรค...”
2. นายวัฒนา เมืองสุข โพสต์เฟซบุ๊คแจงทำนองเดียวกันว่า
“... ตรุษจีนที่ผ่านมา มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบท่านนายกฯทักษิณและนายกฯยิ่งลักษณ์ ทำให้ คสช. ฉวยโอกาสสร้างข่าวกลบความล้มเหลวของตัวเองว่า การเดินทางไปพบอดีตนายกฯอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาชี้นำ หรือยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองอันเป็นความผิดถึงขั้นยุบพรรค
ผมเป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปพบท่านนายกฯทักษิณ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเพราะในวันสำคัญตามประเพณี เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน หรือสงกรานต์ พวกเราจะหาโอกาสเดินทางไปพบอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านที่พวกเรารักและเคารพเพื่ออวยพรหรือขอพรจากท่าน ส่วนที่ลือว่าท่านจะให้คนโน้นคนนี้มาเป็นหัวหน้าพรรคก็อ้างเป็นแหล่งข่าวซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะการจะเลือกบุคคลขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นบุคคลที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพรรคและประชาชนหลังการยึดอำนาจ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครยอมรับ ซึ่งต้องรอหลังวันที่ 1 เมษายน แต่จะไม่ผิดหน้าผิดตาไปจากคนที่สื่อเคยเห็นหน้าบ่อยๆ อย่างแน่นอน ไม่มีเซอร์ไพรส์ครับ
ส่วนการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ปัจจุบันพวกเรายังไม่ได้ตกลงจะเลือกใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนที่ต่อสู้เพื่อประชาชนล้วนมีสิทธิได้รับการเสนอชื่อ ขึ้นอยู่กับผลงานและการยอมรับจากประชาชน บุคลากรของพรรค เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ คณจาตุรนต์ คุณโภคิน คุณชัยเกษม และคุณพงศ์เทพ มีโอกาสถูกเสนอชื่อทั้งสิ้น...”
3. ถามจริงๆ สำหรับคนที่ติดตามการเมืองไทย มีสักกี่คนในประเทศนี้(แม้แต่สมาชิกพรรคเพื่อไทยเอง) จะเชื่อด้วยความจริงใจว่า ทักษิณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจสำคัญๆ ของพรรคเพื่อไทย
เชื่อจริงๆ หรือว่า ทักษิณไม่ได้บงการหรือครอบงำกิจการพรรคเพื่อไทย?
ถ้ามีใครท้าไปสาบานวัดพระแก้ว เหมือนกรณีหวย 30 ล้านบาท จะไปไหม?
ถ้าเรื่องแค่นี้ ยังรับความจริงไม่ได้ แล้วจะหวังความจริงใจอะไรอีก?
4. ตั้งแต่สมัยยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์มีภาพลักษณ์ที่สง่างามกว่ายิ่งลักษณ์ ไม่มีอยู่เลยหรือ? แต่ทำไมสุดท้ายให้ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ถ้าไม่ใช่เพราะทักษิณจะสายเลือดชินวัตร เหนือสายพันธุ์อื่นใด
5. ตอนที่ตำแหน่งนายกฯ ของยิ่งลักษณ์เริ่มโงนเงน ก็ไม่ได้นึกถึงคนนอกสายเลือดชินวัตร แต่คนที่ถูกมองเป็นตัวเต็งนายกฯ สำรอง ก็คือนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของทักษิณ
จำได้ว่า ช่วงนั้น ทักษิณถึงขนาดสไกป์เข้ามายังที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ตอกย้ำท่าที “นายกฯ ผู้กุมอำนาจตัวจริง” แล้วบอกว่า “นางสาวยิ่งลักษณ์จะยังไม่ปรับ ครม.ในส่วนของพรรคเพื่อไทย จะปรับเฉพาะตำแหน่งที่ยังว่างอยู่ เพราะการทำงานของรัฐบาลกำลังเดินไปด้วยดี ดังนั้น ขอให้ขยันตั้งใจทำงานกันต่อไป คนที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการสภาก็รีบขยันทำงานจะได้เป็นรัฐมนตรี ส่วนคนที่เป็นกรรมาธิการก็ให้เร่งทำงานแสดงฝีมือจะได้มีโอกาสเป็นประธานกรรมาธิการบ้าง”
ช่วงนั้น กระแสยี้แรง ทักษิณก็พยายามปฏิเสธ โดยอ้างว่า “นางเยาวภาอยากเข้าสู่ระบบเพื่อมาช่วยงานในสภา เป็นคนสันกำแพงก็อยากเข้ามาทำพื้นที่ คุมสส.ให้ขยันเข้าร่วมประชุม ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่านางเยาวภาจะมาเป็นนายกฯ สำรองนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นการกุข่าวบิดเบือนที่แรงมาก”
แต่มีใครในประเทศไทยเชื่อบ้าง?
แม้แต่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เคยได้เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ใช่สามีเจ๊แดง มิใช่เพราะเป็นวงศ์วานว่านเครือของตระกูลชินวัตร หรือถ้าให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยโหวตลับ ผลออกมาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีไหม?
ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในยุคพรรคเพื่อไทยถูกผูกขาดอยู่โดยคนตระกูลชินวัตร หรือคนที่ทักษิณ ชินวัตร ยอมให้เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
คนอื่นๆ แม้แต่คนที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อไม่ใช่คนตระกูลชินวัตร ก็อย่าสะเออะคิดจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ
จากนายใหญ่ สู่ผัวของน้องสาว สู่น้องสาวคนเล็ก แล้วจะไปไหนอีก?
น้องสาวอีกคน...
ชินวัตรคนแล้วคนเล่า...
หรือถ้าไม่อย่างนั้น ก็จะต้องเป็นคนที่ทักษิณสั่งได้?
เหมือนที่นายสมัคร สุนทรเวช เคยประกาศว่า เป็นนายกฯ นอมินีอย่างนั้นหรือ?
6. ขึ้นชื่อว่าพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคชื่อว่าอะไร หากพฤติกรรมจริงเป็นเพียงกลุ่มคนที่มารวมตัวกันเพื่อรับจ้างทำงานให้ใครคนใดคนหนึ่ง
คนคนนั้น จะสั่งให้คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นสมาชิกพรรค หรือ สส. ทำอะไรก็ได้
สั่งให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. หรือลาออกจากตำแหน่ง
สั่งให้เป็นนายกฯ เป็น รมต. รมช. หรือตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ
สั่งให้ออกกฎหมายล้างผิดคดีโกงให้ตนเอง ฯลฯ
ถ้าพฤติกรรมยังเป็นแบบนี้ แล้วจะยังหลอกตัวเองว่าเป็นพรรคการเมืองไปทำไม?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี