Integrity คือคำที่คนไทยจำนวนไม่น้อยไม่ยอมรับรู้ และไม่พยายามจะแปลให้ตรงความหมายว่า คำนี้หมายความว่าอย่างไร สาเหตุหนึ่งก็เพราะคนไทยกลุ่มดังกล่าวไม่เคยให้ความสำคัญกับความหมายของคำคำนี้ เมื่อไม่ให้ความสำคัญก็จึงมองข้ามประเด็นนี้ไป
หากจะถามว่า แล้วจะแปลคำนี้ให้ตรงกับภาษาที่มนุษย์ทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่ายที่สุดว่าอย่างไร ก็ขอแปลว่า ความซื่อสัตย์ ความมีคุณธรรม มีจริยธรรม มีจรรยาบรรณ มีความรับผิดชอบต่อการกระทำทุกอย่างในหน้าที่ของตน
แต่หากจะมีใครถามว่าแล้วทำไมจึงต้องมี Integrity ก็ขออนุญาตไม่ตอบคำถามนี้ และขอไม่คุยต่อกับผู้ที่ถามเช่นนี้ เพราะผู้ที่ถามคงจะไม่ต้องการความมี Integrity
มีข้อน่าสังเกตว่า คนจำนวนไม่น้อยขึ้นไปเป็นผู้บริหารองค์กรต่าง ๆ นานาของประเทศไทย โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้เงินจากภาษีอากรของแผ่นดิน ทั้งๆ ที่ผู้บริหารเหล่านั้นไม่น่าจะมี
Integrity ในมโนสำนึกของตนเลยแม้แต่น้อย
ขอพูดถึงกรณีอดีตผู้บริหารกลุ่มหนึ่งของไทยพีบีเอสซื้อหุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เพราะนี่คือกรณีศึกษาสำคัญที่สามารถพูดถึงเรื่อง Integrity ของผู้บริหารองค์กรได้เป็นอย่างดี (อันที่จริงยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งในองค์กรข้ามชาติแห่งหนึ่งของไทยที่ใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น แต่เรื่องนี้ก็เงียบหายไปแล้ว ซึ่งก็คงจะสะท้อนให้เห็นถึงความไร้ Integrity ของคนบางกลุ่มในสังคมไทยได้เป็นอย่างดี ผู้เขียนจะนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันอีกครั้งในอนาคตอันใกล้)
มีข้อสรุปล่าสุดจากกรรมการนโยบายขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือไทยพีบีเอส ลงวันที่ 19 เมษายน 2561 (ตามเอกสารประกอบ) เรื่อง ผลการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีซื้อหุ้นกู้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดยคณะกรรมการสอบสวนของเท็จจริง ซึ่งมีนายวรพันธ์ เย็นทรัพย์ เป็นประธานกรรมการ และมีคณะกรรมการดังต่อไปนี้ นายวิริยะ รามสมภพ ผศ. ณดา จันทร์สมและนางสาวชวนา วิวัฒน์พนชาติ
ข้อสรุปของคณะกรรมการนโยบายไทยพีบีเอสในเอกสารประกอบ ย่อหน้าที่ 3 ระบุว่า บัดนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดดังกล่าวได้รายงานผลการสอบสวน และชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการนโยบาย ตามเอกสารลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 และวันที่ 4 เมษายน 2561 ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเห็นว่า จากข้อมูลที่ได้รับฟังจากผู้เกี่ยวข้องไม่อาจชี้ชัดได้ว่าผู้เกี่ยวข้องคนใดบ้างที่จะต้องรับผิดทางแพ่ง อาญา และวินัย อันเนื่องมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากโครงสร้างการบริหารงานของส.ส.ท. ประกอบกับผู้อำนวยการส.ส.ท. (นายกฤษฎา เรืองอารีย์รัชต์) ได้รับอนุมัติให้ลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว นอกจากนี้เมื่อไทยพีบีเอสได้ขายหุ้นกู้ซีพีเอฟออกไป ปรากฏข้อเท็จจริงว่าไทยพีบีเอสไม่ได้รับความเสียหายทางการเงินแต่อย่างใด
แต่เมื่อพิจารณาจากบันทึกข้อความของนายวรพันธ์ เย็นทรัพย์ ที่เรียนประธานกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 ข้อ 4 มีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า มีความเห็นสอดคล้องตรงกันว่าการอนุมัติซื้อและจ่ายเงินกรณีหุ้นกู้ซีพีเอฟ ผู้อำนวยการส.ส.ท. (นายกฤษฎา) ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการที่กรรมการนโยบายกำหนด และระเบียบองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการเงิน การบัญชี และการงบประมาณ พ.ศ. 2558 จึงไม่มีอำนาจอนุมัติซื้อหุ้นกู้ซีพีเอฟ และสั่งจ่ายเงินเป็นค่าหุ้นดังกล่าว ซึ่งตามสัญญาจ้างกำหนดให้ผู้อำนวยการส.ส.ท. ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี ตลอดจนนโยบาย ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ดังนั้นจึงถือได้ว่านายกฤษฎาไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามสัญญาจ้าง แต่เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่าเมื่อไทยพีบีเอสได้ขายหุ้นกู้ซีพีเอฟออกไป ไทยพีบีเอสไม่ได้รับความเสียหายทางการเงินแต่อย่างใด
โปรดสังเกตให้ดีว่าคำชี้แจงในบันทึกจากนายวรพันธ์ที่มีไปถึงประธานกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส ไม่น่าจะมีตรรกะที่สอดคล้องกันกับความผิดที่นายกฤษฎาได้กระทำลงไปแล้ว ส่วนคำประกาศของไทยพีบีเอสที่ออกโดยคณะกรรมการนโยบายไทยพีบีเอสก็สุดแสนจะประหลาด เพราะหาตรรกะใด ๆ ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ขอวิจารณ์ตามตรงว่าเป็นการเขียนคำบันทึกและคำประกาศที่หาตรรกะที่สมเหตุสมผลมิได้แม้แต่น้อย แต่เป็นเสมือนการเขียนเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น แต่ก็เป็นการเอาตัวรอดที่ดูจะไร้เสียซึ่ง Integrity เป็นที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมีคำถามทิ้งท้ายว่า สรุปว่าจะต้องมีใครรับผิดชอบในการกระทำผิดที่เกิดขึ้นหรือไม่ และขอบอกอีกครั้งว่า การกระทำผิดกับข้ออ้างที่ว่าองค์การฯ มิได้รับความเสียหายเป็นคนละประเด็นกันโดยสิ้นเชิง และขอบอกว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ ที่พบการสรุปที่แสนจะไร้ตรรกะเช่นนี้ ถ้าหากกรรมการนโยบายของไทยพีบีเอสเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ผิด ไม่ต้องมีผู้รับผิดชอบในการกระทำ ก็หมายความว่าในอนาคตจะต้องอนุญาตให้คนอื่นๆ ทำเช่นนี้ได้ด้วย ใช่หรือไม่ กรุณาตอบเรื่องนี้ให้กระจ่างด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี