“ยอดมนุษย์” เราใช้เรียกผู้ที่มีความสามารถ พละกำลัง และจิตใจ แข็งแกร่งเกินกว่าที่คนทั่วไปจะทำได้ ในการเข้าช่วยค้นหา “ทีมหมูป่า อะคาเดมี” ทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำเขาหลวง-ขุนน้ำนางนอน เราจะเห็นว่ามี “ยอดมนุษย์” เต็มไปหมด มีทั้งยอดมนุษย์ดำน้ำ ยอดมนุษย์ปีนเขา ยอดมนุษย์โรยตัว ยอดมนุษย์ขุดเจาะ ยอดมนุษย์สูบน้ำ ยอดมนุษย์อัดอากาศ ยอดมนุษย์ขนลำเลียง ฯลฯ
ในบรรดายอดมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้น ถูกบริหารจัดการโดย “ยอดคน” ผู้หนึ่ง
ยอดคน เราใช้กล่าวยกย่องคนที่มีความสามารถและอดทน เป็นคนธรรมดาๆ ที่ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของอารมณ์ กิเลส ตัณหา และคำสรรเสริญเยินยอ ผดุงความเป็นคน และรักษาระดับของความ “ธรรมดา” ได้อย่างดี
ยอดคนที่จะกล่าวถึงนี้ คือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
คนทั่วไป รู้จักเขาจากคลิปเจรจากับ “ลูกน้อง” ที่กล่าวว่า “ใครที่บอกว่าไม่เสียสละพอที่จะทำงาน ใครจะกลับบ้านไปนอนกับลูกกับเมีย เชิญเซ็นชื่อ แล้วออกไปเลย ผมจะไม่รายงานใครทั้งสิ้น ใครจะทำงาน วันนี้พร้อมทำงานทุกนาที ให้คิดว่าเขาเป็นลูกเรา เราจะช่วยชีวิตได้ 13 ชีวิตหรือกี่ชีวิตก็ตาม ทุกชีวิตมีค่าหมด เหมือนลูกเราหมด”
นายณรงค์ศักดิ์ย้ำว่า “ใครเหยาะแหยะๆ กลับบ้านไปเลยครับ”
ด้วยน้ำเสียงที่ดี ไม่จิกกัด ไม่ดูถูกดูแคลน แต่สะท้อนความตรงไปตรงมา และชี้ให้เห็นว่า เขาเป็น “ผู้นำ” ที่น่าสนใจ ยิ่งถ้านำมาเทียบกับการสนทนากับลูกน้องของ “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” ด้วยแล้ว ท่านยิ่งดูดี
จากนั้น ทุกคนเห็นท่านทำงานอย่างจดจ่อ เอาจริงเอาจัง ไม่เหวี่ยงวีน ครองสติได้ดี ลำดับความสำคัญของปัญหา และวางระบบการจัดการได้ดีเยี่ยม ท่ามกลางคนหมู่มาก หลากชาติ หลากภาษา หลากที่มา แต่หัวใจเดียวกัน คือ “ช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำให้จงได้”
ลำพังจัดการกับสื่อมวลชน 500 คน ที่อยู่ในสภาวะ “หิวข่าว” ก็ไม่ง่ายแล้ว ยังเจอกับพลเมืองดีที่มุ่งมั่นจะ “มาทำความดี” อีก ไหนจะครอบครัวของเด็กและโค้ช ร่างทรง พระ หมอดู ฯลฯ ท่านครองสติโดย “ไม่บ้า” ได้อย่างไรนะ
พอไปดูพื้นฐาน “การศึกษา” ของท่านแล้ว จึงเข้าใจ ว่าท่านมีความรู้พอที่จะจัดลำดับขั้นตอนการจัดการกับปัญหานี้ได้ ยิ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ กองทัพ อาสาสมัคร กู้ภัย ต่างประเทศ ฯลฯ แล้ว พอมี “แม่ทัพ” ที่รู้จักปัญหาได้ดี การจัดการที่ดีก็ตามมาทันที
ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, นิติศาสตรบัณฑิต และประกาศนียบัตรกฎหมายที่ดินและทรัพย์สิน, เทคโนโลยีบัณฑิต (เทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และจบปริญญาโท Master of Science (Geodetic Sciene and Surveying) จาก Ohio State University ผ่านการทำงานในตำแหน่งน้อยใหญ่ของกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว ทั้งด้านที่ดิน ปกครอง และงานตรวจสอบ
ด้วย “ความรู้” และ “ประสบการณ์” ดังที่กล่าวมา จึงถือเป็นโชคที่ท่านยังเป็นผู้ว่าฯ อยู่ที่จังหวัดเชียงราย ในสถานการณ์นี้
ที่ใช้คำว่า “ยังเป็น” ก็เพราะท่านอยู่ในบัญชีโยกย้าย จากผู้ว่าฯ เชียงราย ไปอยู่พะเยา เพียงแต่ยังไม่ผ่านขั้นตอน “พระราชอำนาจ” ขององค์พระประมุขโปรดเกล้าฯ ลงมา ท่านจึงยังเป็นผู้ว่าฯ เชียงราย และได้เข้ามาบัญชาการสถานการณ์สำคัญนี้
เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการคนนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากโซเชียลมีเดีย เมื่อมีผู้โพสต์ภาพถ่ายทางอากาศที่พบว่า มีการเผาขยะและเผาป่าทั่วภาคเหนือ ยกเว้นจังหวัดเชียงรายเพียงจังหวัดเดียว
เฟซบุ๊คแฟนเพจ DustView ที่ติดตามปัญหาหมอกควันในประเทศไทย ได้เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “ถ้าฝุ่นควันเกิดจากการเผา ขณะนี้หลายจังหวัดภาคเหนือจึงประกาศอยู่ในช่วงห้ามเผา ลองดูจุดความร้อน (Hot Spots) จากภาพถ่ายดาวเทียมสองระบบ ที่แสดงสะสมตั้งแต่ 1 มี.ค. ถึง 18 มี.ค. อยากเข้าไปถาม ผู้ว่าฯ จังหวัดเชียงราย ท่านทำได้อย่างไร ไม่ว่าระบบไหน ก็ตรวจไม่พบ แสดงว่าท่านห้ามเผาได้จริง…กราบ เชียงราย สู้ๆ ครับ”
เดือน มี.ค. มีการรายงานว่า ผู้ว่าราชการคนนี้ ไม่ยอมเซ็นอนุมัติให้เทศบาลนครเชียงรายก่อสร้างอนุสาวรีย์ช้างคู่บารมีพญามังราย ที่ริมแม่น้ำกก เนื่องจากพบว่า พื้นที่ก่อสร้างเป็นพื้นที่ที่รุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำ และมีพิรุธอื่นๆ ที่ส่อแววว่าจะมีการทุจริต อย่างเช่น ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้รับเหมา
“หากยังดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายจะไม่ยอมให้โครงการที่ไม่มีความโปร่งใสหรือส่อไปในทางทุจริตผ่านการพิจารณาอย่างเด็ดขาด เพราะพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่สันดอนทรายรุกลํ้าลำนํ้าธรรมชาติอย่างชัดเจน” โดยหากมีการเซ็นอนุมัติไป จะกลายเป็นคนเซ็นผิดกฎหมายทันที รวมไปถึงงบอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจ 32 ล้านบาทก็เสียเปล่า”
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย มองว่า งบประมาณก้อนนี้สามารถนำไปใช้พัฒนาด้านอื่นๆ ได้ อย่างเช่น ถนน และแหล่งน้ำ
“ผมเป็นผู้ว่าฯ ผมมีหน้าที่คุมทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎกติกา ท่านรู้ไหมเชียงรายที่ผ่านมา ศักยภาพมันควรจะเจริญขนาดไหน เชียงรายได้ 100 บาท มันควรจะลงให้ถึง 100 บาท หรืออย่างน้อย 90 บาท วันนี้ลงได้แค่ 30-40 บาทเขาถึงส่งผมมา วันนี้ 20 กว่าโครงการ ผมเซ็นไม่ได้ เพราะมันผิดกติกาหมด และผมก็โดนขับไล่ เพราะผู้ว่าฯ มาแล้วไม่พัฒนา ตกลงผมยอมไปที่ไหนก็ได้ แต่ผมจะไม่ยอมเซ็นโครงการที่ผิด”
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า นายณรงค์ศักดิ์ เป็นน้ำดีของกระทรวงมหาดไทย และเหลืออายุราชการอีกหลายปีทีเดียว เป็นคนที่ต้องมีความก้าวหน้าและความเจริญเติบโตอย่างแน่นอน เราจึงได้ให้ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนหากในพื้นที่มีการทุจริตประพฤติมิชอบอะไรก็แล้วแต่ กระทรวงมหาดไทยจะยืนเคียงข้างผู้ว่าฯ ที่จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้องทั้งหลายพร้อมให้อำนาจผู้ว่าฯดำเนินการได้เต็มที่ หากสามารถดำเนินการเอาผิดอะไรก็แล้วแต่ แต่ที่ผ่านมาการดำเนินการกับหน่วยงานอื่น ก็จะมีความไม่ราบรื่นบ้าง แม้ว่าขณะนี้จะพอพูดคุยกันรู้เรื่อง แต่การจะทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น เป็นสถานการณ์ที่เกิดไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็คิดว่าท่าน ผวจ.พะเยา มีบ้านเกิดเป็น คนจ.เชียงราย ก็สลับไปก่อน
“แต่นายณรงค์ศักดิ์นั้นก็คงจะเจริญเติบโตดีแน่ ไม่ต้องกังวล เพราะท่านเป็นคนดีอยู่แล้ว เราจึงได้ให้ออกไปจากกรมที่ดินมาเป็นตำแหน่งผู้ตรวจการกระทรวง แล้วไปเป็นผู้ว่าฯ โดยไม่ผ่านตำแหน่งรองผู้ว่าฯ ที่ไหนเลย ท่านเป็นคนพันธุ์ใหม่ มีความเก่ง” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ผู้ว่าราชการรายนี้ได้รับคำชื่นชมจากประชาชนคนไทยเป็นจำนวนมาก โดยหลายคนมองว่าเป็นผู้ที่มีภาวะผู้นำสูง ทำงานจริงจัง และให้ข้อมูลกับสื่อได้กระจ่างและฉะฉาน
คำพูดหนึ่งของนายณรงค์ศักดิ์ที่ตอบสื่อมวลชนว่า “เราสั่งให้เขาไปช่วยชีวิตคนอื่น แต่ไม่ได้สั่งให้เขาเอาชีวิตไปทิ้ง” หลังจากมีนักข่าวถามถึงสาเหตุที่ไม่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำทั้งหมด เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์มองว่าหากทำเช่นนั้น จะทำให้ไฟรั่วและเสี่ยงชีวิตเจ้าหน้าที่ได้ ก็เป็นอีกหนึ่งในความประทับใจและความศรัทธาต่อตัวท่าน
สถานการณ์ “เด็กติดถ้ำ” รอบนี้ สะท้อนให้เห็นเรื่องดีๆ ที่น่าประทับใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือร่วมใจ ความเสียสละ ความห่วงใย ที่ไร้พรมแดน ไร้ภูมิภาค ไร้ศาสนา และความเสียสละทุ่มเทของทุกผู้ทุกคน
แต่ใช่ไหม ที่มันอยู่ภายใต้การ “บริหารจัดการของชายคนนี้”
คนจำนวนมหาศาล เครื่องมือจำนวนมาก ถูกคัดไปใช้ และถูกวางสำรองไว้ด้วยความรู้ ว่าอะไรควรใช้ อะไรยังไม่ใช้ ไม่สะเปะสะปะ แถมคาดการณ์ล่วงหน้า ซักซ้อมแผนการขนย้ายเด็กๆ หากช่วยออกมาได้ นั่นคือการ “คิดไปข้างหน้า” และ “เตรียมการ” ในเวลาที่ทุกคนยังมุ่งแต่สถานการณ์เฉพาะหน้า
ท่านควบคุมการเข้าออกถ้ำ ตำหนินักข่าวโดยไม่เอ่ยชื่อเอ่ยช่อง ว่าเข้าไปในถ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่านไม่ยอมให้ใครมีอภิสิทธิ์ในสถานการณ์ จะเข้านอกออกถ้ำต้องได้รับอนุญาต เพราะเคยเกิดเหตุเข้าไปแล้วติดอยู่ในถ้ำ จนหน่วยซีลต้องเข้าไปช่วยมาแล้ว ท่านไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เฉียบขาด แต่ไม่ก้าวร้าว ยามพักกินก๋วยเตี๋ยว ท่านก็ต่อแถวเหมือนคนอื่นๆ
ท่านจึงอยู่ในใจผู้คน เป็น “ยอดคน” ที่ผู้คนอยากเห็น “ข้าราชการระดับสูง” ของไทยในทุกกระทรวง ทบวง กรม ทำงานได้อย่างนี้บ้าง
และหวังว่าเจ้ากระทรวงจะไม่ผลักท่านออกจากพื้นที่ เพียงเพราะความตงฉิน แทนที่จะหนุนหลังให้จัดการกับ “ความไม่ซื่อ” ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งก็รู้ๆ กันว่า “ใหญ่” และ “เคยตัว” มานาน!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี