คุณหนูอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ปล่อยภาพนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ว่ายน้ำกับหลานในสระหน้าระรื่น ภาพนี้เหมือน “บาทา” ที่เหยียบลงไปบนหัวใจคนไทย เหยียบลงไปบนกระบวนการยุติธรรมและการรักษาพยาบาล ว่า ที่ผ่านมา ทักษิณป่วยจริงหรือ “ป่วยทิพย์”
1) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผู้คนจำนวนมากสงสัยอาการป่วยไข้ การได้อยู่ห้อง VVIP โรงพยาบาลตำรวจ และการได้พักโทษของนักโทษเด็ดขาดชาย จนเกิดวาทกรรมป่วยทิพย์ เพราะผู้คนจำนวนมากมีความกังขาและสงสัย เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และหมอต้องพยายามแถลงชี้แจง (หรือแถ-ลง) ท่ามกลางความเคลือบแคลงของประชาชน
แต่การกระทำของครอบครัวนักโทษเด็ดขาดชายกลับตอกย้ำความเคลือบแคลงของประชาชน เกิดความกังขาทั้งอาการป่วยและการได้พักโทษของนักโทษเด็ดขาดชาย
ตลอดเวลา 180 ที่นักโทษเด็ดขาดชายป่วยขั้นวิกฤต ลูกหลานก็ไม่ได้ไปเยี่ยม (ด้วยความห่วงใย) และทำกิจกรรมต่างๆอย่างสนุกนาน ไร้อาการห่วงใยกังวล ครบ 180 วัน ได้รับการพักโทษนอกเรือนจำ (ท่ามกลางความกังขาของประชาชน) ก็รับกลับบ้านทันที อาการป่วยขั้นวิกฤตมา 180 วัน หายทันที เจอยาอะไรเข้า ตอนออกมาจากเรือนจำตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 181 ก็เปิดกระจกรถตู้โชว์ มีอุปกรณ์ประกอบที่เหมือนคนประสบอุบัติเหตุมากกว่าคนป่วยวิกฤต
เมื่อมีคนสงสัยเรื่องอุปกรณ์ประกอบ ก็มีลิ่วล้อออกมาอธิบาย (แบบไม่ตรงกัน) ไม่รู้ใครพูดจริงใครโกหก หรือโกหกทั้งคู่ ผู้คนเขาไม่เชื่อ
ถึงบ้านก็มีการถ่ายรูปอิริยาบถในบริเวณบ้านแล้วก็โพสต์โชว์ เพิ่มความกังขาให้ประชาชนมากขึ้น เพราะไม่มีอาการของคนเพิ่งฟื้นไข้จากการป่วยวิกฤต 180 วัน อยู่บ้าน ต้อนรับแขกได้ กินอาหารร่วมกันได้ พูดคุยกันได้เป็นชั่วโมง จากนั้นก็ไปที่นั่นที่นี่ มีกิจกรรมมากมาย รวมทั้งมีงานเลี้ยง ร่วมร้องเพลงได้
ตรวจโครงการต่างๆ ได้เหมือนคนมีตำแหน่งทางการเมือง ประชุมร่วมกับพรรคการเมืองได้ ไม่มีอาการของคนเพิ่งฟื้นไข้แต่อย่างใด การทำกิจกรรมกับหลานๆ ก็แสดงความเข้มแข็งอย่างสนุกสนาน ทำให้ข้อกังขาป่วยทิพย์ ได้พักโทษทิพย์มีข้อกังขามากขึ้น
ประชาชนมีคำถามมากมาย แต่ก็ไร้คำตอบ ไม่รู้ว่าไม่สนใจที่จะตอบ หรือไม่อาจจะตอบตามความจริงได้ จึงต้องเลี่ยงที่จะตอบ การกระทำทั้งหมดนี้ เกิดจากความอับปัญญาที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำนั้น มันเพิ่มความกังขาให้ประชาชน
หรือจริงๆ รู้ว่า ประชาชนคิดยังไง แต่ไม่สนใจ เพราะคิดว่าไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้ หรือต้องการเย้ยไยไพคนที่ไม่พอใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักโทษคนนี้ อนิจจาประเทศไทย ทำไมจึงเป็นเช่นนี้
2) นายรังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์รูปภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านในอินสตาแกรมส่วนตัว @ingshin21 ซึ่งเป็นภาพขณะที่นายทักษิณ ซึ่งได้รับการพักโทษจากกรมราชทัณฑ์กำลังเล่นน้ำกับหลาน พร้อมยกเวทเล่นฟิตเนส โดยสังคมจับตามองประเด็นอาการป่วยของนายทักษิณ ว่า
ประเด็นนี้ยิ่งตอกย้ำว่ากระบวนการที่ทำให้ นายทักษิณ ได้รับพักโทษนั้น ตกลงมาตรฐานอยู่ตรงไหน ถ้าจะบอกว่ามาตรฐานที่นายทักษิณได้รับ มันจะถูกปรับใช้กับทุกคน เป็นมาตรฐานใหม่ที่ทุกคนจะได้รับ ตนก็โอเค แต่ปัญหาคือ เราต่างก็รู้ดีว่า สิ่งที่คุณทักษิณได้รับ มันอาจจะเป็นสิทธิพิเศษ ผ่านการใช้กลไกของรัฐ รวมถึงกลไกต่างๆ ผ่านกระบวนการยุติธรรม ยิ่งนายทักษิณออกกำลังกายได้ ก็ยิ่งสะท้อนว่า นายทักษิณไม่ได้มีอาการป่วยแบบที่ผลของการประเมินอาการป่วยออกมาแย่ขนาดนั้น
“การที่คุณทักษิณ ได้ผลประเมิน 9 คะแนน นั่นแปลว่ามันต้องแย่มาก เราดูแล้วมันไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่คุณทักษิณ จะได้รับผลการประเมินที่แย่ขนาดนั้นถ้าดูจากสภาพความฟิตความพร้อม” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า ทางกรมราชทัณฑ์คุณจะต้องกลับมาคิดทบทวน เรื่องเกณฑ์การให้พักโทษหรือไม่หรือจะต้องมีความรับผิดชอบใดๆ กับเรื่องนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าถ้าสุดท้ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ก็จะมีกฎหมายที่รองรับอยู่แล้ว โดยการดำเนินการตามกฎหมายที่จะให้สู่จุดนั้น ตนมองว่าจะต้องพิจารณากันว่ามีการทุจริตในขั้นตอนไหน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนหมอ หรือเป็นขั้นตอนของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หรือรัฐมนตรี หรือว่าจริงๆ แล้ว อาจจะเป็นขั้นตอนที่นายทักษิณเอง ที่อาจจะหลอกหมอ ซึ่งตนไม่รู้ว่ามีการทุจริตกันในขั้นตอนไหนแน่
โดยสิ่งที่ตนจะตั้งคำถาม ต่อไปคือองค์กรที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกำลังทำอะไรอยู่ โดยการที่จะตรวจสอบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ต้องมีผู้ร้องก็ได้ บางอย่างถ้าเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะดำเนินการได้ สำหรับพรรคการเมืองก้าวไกลเองเรายังไม่ได้คุยกันในเรื่องที่จะยื่นตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ว่าเบื้องต้นเราพยายามตั้งคำถามว่าขั้นตอนที่มีความผิดปกติอยู่ในขั้นตอนไหนกันแน่ ซึ่งจากที่นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลได้ตั้งคำถามไปกรณีนายทักษิณ เราก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ที่ชัดเจน ดังนั้น ตนมองว่าเรื่องนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมแน่นอน
“ผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องตระหนักถึงผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมแบบนี้ ยิ่งเราสร้างนักโทษชนชั้นนำแบบนี้ สุดท้ายไม่ได้ทำให้กระบวนการยุติธรรมมันเกิดความเท่าเทียมกัน ซึ่งความเท่าเทียมคือเรื่องที่สำคัญที่จะทำให้ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ที่ประชาชนเขารู้สึก ถูกทำลายลงไป ซึ่งไม่ได้ถูกทำลายลงแค่กรมราชทัณฑ์ แต่เป็นลูกโซ่ที่จะส่งผลกระทบให้หน่วยงานที่รับผิดชอบที่ไม่ทำอะไรในเรื่องนี้ ถูกทำลายทั้งหมด ซึ่งจะเกิดความเสียหายที่ฝังรากลึกลงในสังคมไทย”
3) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นำเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเผยแพร่ว่า อาจไม่ได้ป่วยจริงถึงขั้นได้ 9 คะแนนที่ต้องได้รับการพักโทษ ว่า
ไม่ทราบว่า นพ.วรงค์ ได้หลักฐานมาอย่างไร แต่จากการสอบถามแพทย์ที่ทำการรักษา 3 คน แพทย์คนแรกมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนแพทย์อีก 2 คน เป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทั้ง 3 คนบอกว่า ภาพที่ปรากฏเล่นดัมเบลในน้ำ เป็นการฟื้นฟูผู้ป่วยที่ทำกายภาพในน้ำ เป็นดัมเบลโฟมที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยกับผู้ป่วยผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นสภาพร่างกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อไหล่และข้อศอก สำหรับผู้ป่วยที่มีประวัติการผ่าตัดไหล่ และเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์เพื่อกายภาพเสริม
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยืนยันได้หรือไม่ว่านายทักษิณป่วยถึงขั้นได้แค่ 9 คะแนน รมว.ยุติธรรม ตอบว่า เป็นเรื่องของแพทย์ ตนได้สอบถามกับแพทย์แล้ว ภาพที่ปรากฏเป็นการทำกายภาพในน้ำ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนการยกดัมเบลโฟมต้องทำนานหรือไม่ ก็ต้องสอบถามจากแพทย์ แต่ในหน้าที่ของตนหากสงสัย ก็ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง แต่บางคนเวลาสงสัยจะมีวิธีทางการเมือง พูดให้คนเสียหายไปก่อน นี่คือความแตกต่าง ส่วนเอกสารที่ นพ.วรงค์ นำมาเผยแพร่เป็นเอกสารจริงหรือไม่นั้น ตนยังไม่เห็น ยังไม่ได้อ่าน แต่ดูจากข่าวที่มีคนโทรมาถามเท่านั้น
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะนายทักษิณปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำ ส่วนเรื่องนี้จะส่งผลต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่อาจจะเจอข้อหา ม.157 หรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า มันเป็นกระบวนการการทำงาน ไม่ได้ดำเนินการด้วยคนเดียว และทำตามหลักวิชาชีพ ตามหลักฐาน พร้อมออกตัวว่านี่ไม่ใช่ความเห็นของตน แต่เป็นความเห็นของแพทย์
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ได้อ่านเอกสารทางการแพทย์ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องไปสอบถามเจ้าหน้าที่ แต่ในหน้าที่ของรัฐมนตรี ถ้ามีคนสอบถามหรือสงสัย เราไม่ควรไปโกรธคนสงสัย แต่ควรหาข้อเท็จจริงและชี้แจง
สรุป : จนบัดนี้ คนไทยทุกคนล้วนยังไม่อาจทราบได้ว่า ทักษิณป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พอจะมีคำตอบง่ายกว่า คือคำถามที่ว่า เมื่อดูจาก “ระเบียบและหลักเกณฑ์ผู้จะได้รับการพักโทษ” แล้ว ทักษิณเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษได้อย่างไร ลองดูกันครับ ว่านักโทษที่เข้าข่ายได้รับการพักโทษนั้น ต้อง...
1.ป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่รักษาไม่หายขาดอาจเสียชีวิตได้หากอยู่ในเรือนจำต่อ เช่น โรคไตวายระยะสุดท้าย, มะเร็งระยะสุดท้าย, สมองเสื่อม, อัลไซเมอร์ เป็นต้น
2.ชราภาพ อายุเกิน 70 ปี
3.ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตามแบบทดสอบ 10 ข้อคือ กินอาหารด้วยตนเองไม่ได้ ใช้ห้องน้ำด้วยตนเองไม่ได้ ชำระร่างกายด้วยตนเองไม่ได้ สวมเสื้อผ้าด้วยตนเองไม่ได้เดินไปมาภายในบ้านไม่ได้ ลุกจากเตียงไปนั่งเก้าอี้ไม่ได้ ขึ้นบันไดด้วยตนเองไม่ได้ อาบน้ำไม่ได้ กลั้นอุจจาระไม่ได้กลั้นปัสสาวะไม่ได้
4.ต้องโทษมาแล้ว 1 ใน 3
คำถามคือ ดูรายละเอียดเหล่านี้แล้ว ท่านว่าทักษิณผ่านเกณฑ์และมีคุณสมบัติที่ควรได้รับการพักโทษได้อย่างไร?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี