กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวชาวต่างประเทศ สังกัดหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฉบับหนึ่งในประเทศไทย และเป็นคลิปวีดีโอแพร่หลายทางอินเตอร์เนต รวมทั้ง YouTube เมื่อเร็วๆ นี้ ได้กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
นายธนาธรได้กล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาลงโทษจำคุก และอีกหลายคดีที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล
นายธนาธรได้แสดงความคิดเห็นว่า คดีอาญาที่นายทักษิณถูกฟ้อง และถูกดำเนินคดีในช่วงที่เป็นรัฐบาลทหาร สมควรที่ต้องคืนความยุติธรรม โดยให้นายทักษิณกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย และดำเนินกระบวนพิจารณาคดีใหม่ โดยผู้พิพากษาที่เป็นกลาง ในอดีตที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมได้ถูกใช้ เพื่อกำจัดนายทักษิณ ดังนั้นนายทักษิณควรมีสิทธิ์ต่อสู้คดีในศาลที่เป็นธรรม
การที่นายธนาธรกล่าวเช่นนั้นย่อมมีความหมายว่า ในความคิดเห็นของนายธนาธร การพิจารณาคดีขององค์คณะผู้พิพากษา 9 ท่าน ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พิจารณาคดี นายทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถูกฟ้องเป็นจำเลยคดีอาญาเกี่ยวกับที่ดินถนนรัชดาภิเษกใกล้ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกนายทักษิณ แต่ได้ยกฟ้องคุณหญิงพจมานภรรยา ไม่เป็นกลางในการพิจารณา
รวมถึงคดีอื่นที่พิพากษาคดีเสร็จแล้ว เกี่ยวกับคดียุบพรรคไทยรักไทยซึ่งมีลักษณะเป็นอย่างเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวกับนายทักษิณ และกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอีก รวมเป็น 6 คดี ด้วยกัน
แทบไม่น่าเชื่อว่า นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีฐานะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีจะขาดวิสัยทัศน์และความรู้เรื่องกฎหมายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการหมิ่นศาลซึ่งเป็นความผิดอาญา มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังเป็นความผิดอาญาในข้อหาละเมิดอำนาจศาล มีโทษจำคุก 6 เดือน
โดยปกติการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาล หากเป็นเรื่องทางวิชาการ จะต้องแสดงความคิดเห็นด้วยความเคารพและสุภาพ ไม่แสดงความคิดเห็นในลักษณะ ต่อว่า ว่ากล่าว หรือเสียดสีโดยปราศจากความเคารพนับถือ และต้องแสดงความคิดเห็นที่มีข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงประกอบ จึงจะถือว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการโดยชอบ
กรณีที่เกิดขึ้นไม่ว่านายธนาธรจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตามว่า ได้กระทำความผิดกฎหมายอาญาในเรื่องสำคัญไปแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ หากศาลท่านไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาดำเนินคดีต้องถือว่า เป็นความเมตตากรุณาอย่างสูง ที่นายธนาธรควรจะได้ สำนึก ตระหนัก และใส่ใจ เพราะอาจเป็นไปได้ว่า ศาลท่านไม่ต้องการให้เสียบรรยากาศทางการเมือง ในระหว่างที่มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แม้จะไม่เต็มใบก็ตาม
การกระทำดังกล่าวทำให้เป็นประเด็นที่เกิดความสงสัยว่า ผู้ที่จะเสนอตัวเพื่อดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ควรจะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสม มีความรู้ความสามารถ มีวัยวุฒิ และคุณวุฒิ ตลอดจนวุฒิภาวะที่เหมาะสม ไม่ใช่เพียงพูดหาเสียง ขายฝัน เพ้อฝัน เพื่อเอามัน โดยที่รู้ว่า อย่างไรเสียก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ดี อย่าพูดเพียงเพื่อให้ ถูกใจ โดนใจ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนเท่านั้นเอง
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 มีสถิติที่น่าสนใจว่า จะมีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งครั้งแรกประมาณ 8,000,000 คน ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขประมาณร้อยละ 30 ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด
จึงดูมีความเป็นไปได้ที่นักการเมืองพยายามจะสร้างพรรคการเมืองขึ้นใหม่ เปรียบเสมือนสร้างผลิตภัณฑ์หรือสินค้าตัวใหม่ ให้ถูกใจ โดนใจ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งใหม่ ที่เปรียบเสมือนผู้บริโภคหน้าใหม่อีกกลุ่มหนึ่ง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง และเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในกระดานที่ถูกวางแผนไว้ โดยผู้ที่มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง
ดังนั้น การพิจารณาเลือกนักการเมือง จึงต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ ดูให้ถึงภูมิหลัง และแนวความคิด อย่าเพียงพิจารณาเปลือกภายนอกแต่เพียงอย่างเดียว จึงจะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นผู้แทนที่แท้จริงของประชาชน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี