nn การระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว ภาคการผลิตก็เริ่มมีปัญหาเพราะว่ากระบวนการขนส่งสินค้าวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบมีปัญหาจากการระบาดครั้งนี้ด้วยเช่นกันทำให้สำนักวิจัยทางเศรษฐกิจทั่วโลกปรับลดการประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลง ขณะที่ประเทศไทยนั้นแน่นอนว่าหลายสำนักทั้งของรัฐและเอกชนมองตรงกันว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ต่ำกว่า 2% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้2.7-3% ซึ่งปัจจัยลบสำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยก็การระบาดของไวรัสโควิด-19
หลายวันมานี้คงจะเห็นข่าวในมุมนี้มาตลอด จนกระทั่งวันก่อนเห็นข่าวอยู่ชิ้นหนึ่งของกระทรวงพาณิชย์ประมาณว่า “ในวิกฤติยังมีโอกาส”....โดย น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพรผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าอี-คอมเมิร์ซ และบริการดิจิทัลคอนเทนต์กำลังมาแรงท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และประเมินว่าการส่งออก-นำเข้า การขนส่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ภายหลังท่าเรือ-ด่านศุลกากรจีนกลับมาเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปที่สาธารณะและใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น การค้าออนไลน์เป็นอีกช่องทางการค้าสำคัญที่จะช่วยเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่จีนมีความต้องการสูงระยะนี้ รวมถึงสินค้าที่ตอบสนองต่อรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้าน อาทิ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งขนาดเล็ก สินค้ากลุ่มอโรมา และผลิตภัณฑ์สปา และด้วยคุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าไทยจะเป็นแต้มต่อให้และช่วยรักษาโอกาสทางการค้าในช่วงความท้าทายนี้ได้
จากรายงาน JD.com ระบุว่ายอดการสั่งซื้อข้าวและผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้นกว่า 154% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เช่นเดียวกับสินค้าอาหารทะเล และเนื้อวัว นอกจากนี้ มีรายงานว่าประชาชนส่วนใหญ่นิยมสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ร้านอาหารหลายแห่งเริ่มปรับตัวและให้บริการร่วมกับแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากขึ้น อาทิ ปรับระยะทางของการส่งอาหารให้ไกลขึ้น จำหน่ายสินค้าอาหารแช่แข็ง อาหารกึ่งสำเร็จรูป และขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังซูเปอร์มาร์เก็ต
นอกจากนี้ ภาคบริการกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพในการเติบโตและขยายโอกาสทางการค้าในภาวะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยพบว่าคนจีนมีสถิติการค้นหากิจกรรมออนไลน์ อาทิ เกมส์ออนไลน์ ออกกำลังกายผ่านแอพพลิเคชั่น และบริการปรึกษาทางการแพทย์โดย สนค. มองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสดีสำหรับไทยในการตีตลาดกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น ละครหรือรายการทีวี ที่เริ่มได้รับความนิยมสูงในจีน และใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยรวมถึงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์เพื่อเพิ่มการรับรู้และกระตุ้นความต้องการต่อสินค้าและบริการไทยมากขึ้น หากสถานการณ์คลี่คลายโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
สนค.ยังระบุอีกว่า องค์กรวิจัยด้านเศรษฐกิจ EIU คาดการณ์ว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในไตรมาสแรก และประเมินว่า
เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวที่ 5.4% และ สนค.คาดว่ารัฐบาลจีนจะมีการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมาหลังจากนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และรักษาโมเมนตัมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศกว่า 62 แห่ง ใน 42 ประเทศทั่วโลกได้รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าต่างๆ มายังกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งให้ผู้ส่งออกทราบสถานการณ์และปรับแผนการส่งออกอย่างทันท่วงที
ปี 2562 การส่งออกจากไทยไปจีนมีมูลค่า 29,172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีนเป็นตลาดหลักสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทย เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ผลไม้สดแช่แข็งและแห้งไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และเมืองส่งออกสำคัญของไทยได้แก่ กวางตุ้ง เซี่ยงไฮ้ และซานตง โดยในปี 2563 กระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนในการทำตลาดจีนอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าศักยภาพที่การส่งออกจากไทยไปจีนมีการขยายตัวสูง โดยเน้นทั้งเมืองใหญ่และการเจาะตลาดลึกในรายมณฑล สินค้าสำคัญที่คาดว่าจะขับเคลื่อนการส่งออกไปจีนในปี 2563 เช่น ผลไม้สดแช่แข็ง และผลไม้แห้งไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องสำอาง รถยนต์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ยาง
โลกการค้า...ต้องขอชื่นชม สนค.ที่มีมุมมองเช่นนี้ไม่ยอมถอดใจง่ายๆ และมองหาโอกาสแม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤติ ทั้งนี้ ล่าสุดทราบมาว่า นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานประชุมร่วมกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก และภาคเอกชน ประกอบด้วย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) สมาคมธนาคารไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าต่างๆ และอุตสาหกรรมสำคัญด้านส่งออก เพื่อรับฟังสถานการณ์และผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด-19เพื่อหาแนวทางและมาตรการช่วยเหลือระยะสั้นและระยะยาว โดยจะนำผลการหารือเข้าเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจปลายสัปดาห์นี้ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และเตรียมนำผลไปหารือในการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกที่จะมีการเดินทางมาประชุมปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อนำเสนอแผนงานและเป้าหมายส่งออกเป็นรายประเทศ
แน่นอนว่าปีนี้ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงซบเซา ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้การส่งออกไทยเติบโตได้ในอัตราสูงมากต่างหากว่าหลายฝ่ายร่วมมือกัน และแม่งานหลักอย่างกระทรวงพาณิชย์ ไม่ถอดใจไปเสียก่อน การส่งออกไทยก็ไม่น่าจะเลวร้ายถึงขั้นติดลบมากกว่าปีก่อน
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี