วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
จะพยุงเศรษฐกิจให้รอด COVID-19 มาตรการของรัฐต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด

ดูทั้งหมด

  •  

nn สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกขณะนี้ทำลายเศรษฐกิจของโลกและไทยอย่างหนัก...สำหรับประเทศไทยคงได้เห็นการปรับลดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยไปแล้วจากหลายสำนัก เริ่มจากของธนาคารแห่งประเทศไทย และสักนักวิจัยของธนาคารพาณิชหลายๆ แห่ง ตัวเลขเฉลี่ยก็ประมาณ 5.6-6.8%

ทั้งนี้ เหตุที่ภาวะเศรษฐกิจไทยติดลบได้ลงลึกมากขนาดนี้ ก็เพราะว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจให้หดตัวแบบลงลึกและยาวนาน เพราะในหลายประเทศ ใช้มาตรการปิดเมือง และ social distancing ที่เข้มข้นขึ้น ขณะที่รัฐบาลไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ มาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศ การประกาศปิดร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ต่างๆ จนส่งผลกระทบต่อการบริโภคสินค้าและบริการภายในประเทศอย่างมาก รวมทั้งการประกาศปิดการเข้า-ออกระหว่างประเทศ และปิดเมืองในหลายจังหวัด ได้ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและภายในประเทศได้รับผลกระทบหนักขึ้น


สิ่งที่น่ากังวลขณะนี้คือ เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก COVID-19 นี้จะทำให้เกิดภาวะการว่างงานหลายแสนตำแหน่งกระจายออกไปเป็นวงกว้าง ภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ โรงแรมและร้านอาหาร ภาคการค้า
และภาคการขนส่ง มีการจ้างงานรวมถึง 10.1 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของการจ้างงานรวมทั้งประเทศ และในจำนวนนี้เป็นการจ้างงานนอกระบบถึง 5.6 ล้านคน หรือ 55% สำนักวิจัยของธนาคารเกียรตินาคิน ประเมินว่าอาจมีการว่างงานสูงถึง 5 ล้านคน หรือคิด เป็นอัตราการว่างงาน 13% ในช่วงกลางปีนี้ นอกจากนี้ภาคธุรกิจอื่นๆ เช่น ภาคการผลิต ภาคการก่อสร้าง และบริการอื่นๆ ก็จะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงด้วยเช่นกัน

หลายคนอาจจะบอกว่าถ้าดูจากตัวเลขการติดลบของจีดีพี เหตุการณ์อาจจะไม่เลวร้ายนักเพราะเราเคยเจอภาวะจีดีพี ติดลบระดับ 10% มาแล้วในช่วงปี 2540 (ต้มยำกุ้ง ไครซีส)...แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเมื่อครั้งต้มยำกุ้ง ไครซีส คนที่ได้รับผลกระทบคือ สถาบันการเงินและบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีการกู้เงินจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่อยู่ในภาคการเกษตรยังรอดยังมีข้าวกิน และแรงงานในภาคการท่องเที่ยวยังไม่ตกงาน ขณะที่ภาคการส่งออก ก็ได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาท แรงงานในภาคส่งออกก็ยังมีงานทำ

ขณะที่วิกฤติครั้งนี้ ผลกระทบที่รุนแรงกลับเป็นด้านการท่องเที่ยว แรงงานในธุรกิจนี้ว่างงานเกือบ 4 ล้านคน การบริโภคภายในประเทศได้รับผลกระทบจากมาตรการสกัดกั้นการระบาด ขณะที่ภาคเกษตรก็รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและราคาผลผลิตตกต่ำ ส่วนเครื่องยนต์ ของ GDP อย่างภาคการส่งออกก็ได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อที่ลดลงด้วย เนื่องจากภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจโลก

ณ เวลานี้ไม่มีใครสามารถระบุได้ชัดเจนว่าการระบาดของโควิด-19 จะจบเมื่อใด และหลายประเทศต่างใช้มาตรการที่มีขนาดใหญ่เพื่อบรรเทาผลกระทบ เม็ดเงินที่หลายประเทศใช้ ประมาณ 10-15% ของจีดีพีของประเทศนั้นๆ ส่วนประเทศไทย ประกาศใช้มาตรการเยียวยามาแล้ว 2 ชุด คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท และล่าสุด การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ได้ เห็นชอบมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ระยะที่ 3 วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น 1 ล้านล้านบาท มาจาก พ.ร.ก.กู้เงิน ส่วนอีก 9 แสนล้านบาท จะเป็นผลมาจากการดำเนินการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่าน พ.ร.ก. 2 ฉบับ คือ พ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท. ออกเงินกู้พิเศษเพื่อดูแลภาคเศรษฐกิจดูแล SMEs 5 แสนล้านบาท และดูเสถียรภาพการเงินอีก 4 แสนล้านบาท และในวงเงิน 1 ล้านล้านบาท จากการกู้เงิน จะนำมาใช้ในแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 6 แสนล้านบาท โดยเยียวยาประชาชนโครงการเราไม่ทิ้งกัน เดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ขยายเพิ่มจาก 3 เดือน) และตั้งเพดานไว้ที่ 9 ล้านคน

มาตรการระยะสั้นด้วยการแจกเงิน 5 พันบาท/คนต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน ในกรอบ 9 ล้านคน อาจบรรเทาผลกระทบได้ระดับหนึ่งในช่วงแรก แต่หัวใจสำคัญในบรรเทาผลกระทบในวิกฤติครั้งนี้คือมาตรการต้องครอบคลุมประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม เกษตรกร ลูกจ้าง อาชีพอิสระ เจ้าของกิจการ และเป้าใหญ่ คือต้องชะลอการเลิกจ้างให้มากที่สุด เพราะเมื่อแรงงานถูกเลิกจ้าง โอกาสจะกลับมาเข้าสู่ระบบนั้นยากและใช้เวลานาน ดังนั้นมาตรการต่างของรัฐต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด เช่น ภาคธุรกิจเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยไม่ได้เพราะมีหนี้เยอะอยู่แล้ว ภาคประชาชนทำอย่างไรให้เขาไม่ต้องจ่ายหนี้ในช่วงเวลานี้ ซึ่งต้องพักหนี้ทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย โครงการขนาดใหญ่ของรัฐถ้าชะลอได้ ก็ควรทำเพื่อเอาเงินไปทำโครงการในระดับชนบท เพื่อให้เกิดการจ้างงานสำหรับแรงงานที่ว่างงานขณะนี้ ฯลฯ ซึ่งหากรัฐยังแก้ปัญหาไม่ตรงจุดในภาวะที่ไม่รู้ว่าวิกฤติครั้งนี้จะจบลงเมื่อใด มาตรการที่ออกมา 3 ชุด ก็ไม่มีประโยชน์ ที่สำคัญโอกาสข้างหน้ารัฐบาลจะหาเงินมา ทำมาตรการชุด ที่ 4 คงไม่ง่ายแล้ว

กระบองเพชร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
16:24 น. 'กัน จอมพลัง'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน
16:22 น. 'ทิดประดิษฐ์'อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย โชว์ส่งมอบเอกสารวัด ปัดข่าวหอบเงินหนี
16:19 น. 'สะพานเข้าชุมชนถล่ม' ชาวบ้านกว่า30หลังคาเรือน-ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
16:14 น. ‘ขอนแก่น’ยกขบวนศิลปินดัง-สินค้าเด็ด‘ของดีเมืองแคน’บุกเวสต์เกต ครบจบถึง 14 ก.ค.นี้
16:05 น. ติดเชื้อ'ไวรัสซิกา' 7 ราย ใน 4 จังหวัดอีสาน เตือนหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง ลูกอาจพิการได้
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'กัน จอมพลัง'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน

ติดเชื้อ'ไวรัสซิกา' 7 ราย ใน 4 จังหวัดอีสาน เตือนหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง ลูกอาจพิการได้

อดีตผู้พิพากษาเลคเชอร์ 6 ข้อ ‘ทักษิณ’ทำอย่างน้อย 4 ครั้ง เสี่ยงครอบงำ-‘พท.’อาจถูกยุบพรรค

‘วิสุทธิ์’ย้อนเกล็ด‘ภท’ สส.โหวตสวนเรียก‘งูเห่า’ ตอนย้ายคอกเข้าพรรคบอก‘อุดมการณ์’

เกษตรกรกำแพงเพชร บุกพรรคประชาชน หลัง'ไอซ์'ปูดงบ 'ไผ่' หวั่นเดือดร้อนถูกตัดงบ

‘ไผ่’ซัด‘รักชนก’เป็นเหตุ‘ม็อบชาวกำแพงเพชร’บุกศูนย์ ปชน. โวยพาดพิงงบพัฒนา

  • Breaking News
  • \'กัน จอมพลัง\'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน 'กัน จอมพลัง'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน
  • \'ทิดประดิษฐ์\'อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย โชว์ส่งมอบเอกสารวัด ปัดข่าวหอบเงินหนี 'ทิดประดิษฐ์'อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย โชว์ส่งมอบเอกสารวัด ปัดข่าวหอบเงินหนี
  • \'สะพานเข้าชุมชนถล่ม\' ชาวบ้านกว่า30หลังคาเรือน-ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก 'สะพานเข้าชุมชนถล่ม' ชาวบ้านกว่า30หลังคาเรือน-ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
  • ‘ขอนแก่น’ยกขบวนศิลปินดัง-สินค้าเด็ด‘ของดีเมืองแคน’บุกเวสต์เกต ครบจบถึง 14 ก.ค.นี้ ‘ขอนแก่น’ยกขบวนศิลปินดัง-สินค้าเด็ด‘ของดีเมืองแคน’บุกเวสต์เกต ครบจบถึง 14 ก.ค.นี้
  • ติดเชื้อ\'ไวรัสซิกา\' 7 ราย ใน 4 จังหวัดอีสาน เตือนหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง ลูกอาจพิการได้ ติดเชื้อ'ไวรัสซิกา' 7 ราย ใน 4 จังหวัดอีสาน เตือนหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง ลูกอาจพิการได้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : ถึงเวลาที่ต้องผนึกกำลัง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

หมุนตามทุน : ถึงเวลาที่ต้องผนึกกำลัง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

9 ก.ค. 2568

หมุนตามทุน : อุตฯก่อสร้างยังมีทางรอด...แม้ต้องเผชิญกับหลากหลายความท้าทาย

หมุนตามทุน : อุตฯก่อสร้างยังมีทางรอด...แม้ต้องเผชิญกับหลากหลายความท้าทาย

2 ก.ค. 2568

รัฐบาลต้องไม่หยุดเดินหน้านโยบาย กำจัด”อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ”-เหล็กคุณภาพต่ำทุกชนิด

รัฐบาลต้องไม่หยุดเดินหน้านโยบาย กำจัด”อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ”-เหล็กคุณภาพต่ำทุกชนิด

11 มิ.ย. 2568

หมุนตามทุน : หาโอกาสการลงทุนได้ที่ไหน  ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเปราะบาง

หมุนตามทุน : หาโอกาสการลงทุนได้ที่ไหน ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเปราะบาง

4 มิ.ย. 2568

หมุนตามทุน : กนอ.ประกาศยุทธศาสตร์ \'HPOE\'  สร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

หมุนตามทุน : กนอ.ประกาศยุทธศาสตร์ 'HPOE' สร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

21 พ.ค. 2568

ทั่วโลกยังแห่ลงทุนทองคำ แรงซื้อจากรายย่อยไทยโตสูงสุดในอาเซียน

ทั่วโลกยังแห่ลงทุนทองคำ แรงซื้อจากรายย่อยไทยโตสูงสุดในอาเซียน

7 พ.ค. 2568

หมุนตามทุน : 200 รง.เหล็กไทยรวมพลังหนุน \'รมว.เอกนัฏ\'

หมุนตามทุน : 200 รง.เหล็กไทยรวมพลังหนุน 'รมว.เอกนัฏ'

30 เม.ย. 2568

หมุนตามทุน :  เป็นกำลังใจให้ “รมว.เอกนัฏ”ไปให้สุดซอย ก่อนที่เหล็กเตาIFจะทำลายชีวิตคนและอุตสาหกรรมไทยไปมากว่านี้

หมุนตามทุน : เป็นกำลังใจให้ “รมว.เอกนัฏ”ไปให้สุดซอย ก่อนที่เหล็กเตาIFจะทำลายชีวิตคนและอุตสาหกรรมไทยไปมากว่านี้

23 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved