วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส หรือ JMT ประมาณ 90% ของธุรกิจ JMT อยู่ในธุรกิจการติดตามหนี้ (15%) และบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ (75%) ซึ่งจะได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ทั้งในแง่การเติบโตของพอร์ต และ margin ที่เพิ่มขึ้น
โดยธุรกิจการติดตามหนี้นั้น JMT ให้บริการติดตามหนี้เพิ่มขึ้นในปี 2562 เป็น 4.4 หมื่นล้านบาท (จาก 2.8 หมื่นล้านบาทในปี 2561) และมีสัญญาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2563 ด้วยการติดตามหนี้ 2.8 หมื่นล้านบาท ใน 1Q63 มีอัตราความสำเร็จในการติดตามหนี้ 5-10% ของหนี้เรียกเก็บ และคิดค่านายหน้าอยู่ในช่วง 10-17% โดยรายได้จากธุรกิจนี้เติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปีเราคาดว่า JMT จะมีหนี้รับจ้างติดตาม 6 หมื่นล้านบาท ในปีนี้และ 6.7 หมื่นล้านบาท ในปีหน้า (โดยใช้สมมุติฐานอัตราค่านายหน้าในการติดตามหนี้ที่ 16.5%)
ถึงเวลากวาดซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ
รายได้จากธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพเร่งตัวขึ้น เติบโต 38% CAGR ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และมีอัตราผลตอบแทน (yield) อยู่ที่ประมาณ 30% (สูงกว่า BAM 2 เท่า) โดยที่ yield ของ 32% ทั้งนี้ JMT ใช้เงินสด 2.6/3.4 พันล้านบาทซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาในปี 2562/63 (ที่ราคาซื้อประมาณ 10-12% ของมูลหนี้) ทำให้พอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพคงค้างในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8.3 พันล้านบาท(บันทึกตามมูลค่าทางบัญชี) ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจากสถานการณ์ COVID-19 จะทำให้มี NPL จากทั้งธนาคารและสถาบันการเงินประเภท non-bank ท่วมเข้าตลาดมากมายในปี 2563/64 ซึ่งจะส่งผลดีกับ JMT เพราะเป็นโอกาสให้เลือกซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้าพอร์ตได้อีกมาในราคาที่ถูกลง เราใช้สมมุติฐานว่าบริษัทจะใช้เงินสด 5-6.5 พันล้านบาท เพื่อซื้อสินทรัพย์ตุนเข้าพอร์ตในปี 2563/2564 สอดคล้องกับกระแสเงินสดของบริษัท โดยไม่มีภาระทางการเงินที่ระดับ D/E <1.5x
ประเมินราคาเป้าหมายที่ 40 บาท
เราประเมินมูลค่าหุ้น JMT โดยมองว่าเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจะทำให้บริษัทสร้างผลตอบแทนพิเศษได้ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทเติบโตอย่างมากหลังปี 2559 เมื่อบริษัทเข้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพที่กลายมาเป็น NPL หลังนโยบายรถคันแรก โดยรายได้และกำไรของ JMT โตถึงประมาณ 35% CAGR ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เราใช้ P/E ที่ 35x จาก fully-diluted EPS (ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยระยะยาว) คิดเป็น PEG ที่ 1.0x ซึ่งทำให้ได้ราคาเป้าหมายที่ 40 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจาก Dilution ของราคาหุ้นและกำไรจากการแปลงวอร์แรนต์ ซึ่งในอดีตจะเกิดขึ้นทุกๆ สองปี ต้นทุนการตัดจำหน่ายของเงินลงทุนเปลี่ยนแปลงไปทำให้ margin เปลี่ยนและค่าเผื่อการด้อยค่าของหนี้มีหลักประกัน
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)

ปลุกพลัง ‘กรรมการชุมชนรุ่นใหม่’ Up Skill จัดตั้งกองทุนเสริมความเข้มแข็ง
แฉเหลี่ยมเขมร คนไทยเกือบหมื่นติดด่านโดนเขมรทยอยจับเข้าคุก
กองทัพซัดระบอบฮุนเซน ก่อปัญหาชายแดน ย้ำไทยยึดหลักสากล ปกป้องอธิปไตย
หยิ่น–วอร์ เปิดฉากคริสต์มาสแรกของ Central Park กับต้น ‘The Velvet Pine’
สพฉ. ผนึกภาคี จัด ‘CPR on the Beach’ สร้างอาสาฉุกเฉินชุมชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี