ผมเคยเตือนเรื่อง “บ้านเงินเหลือ” “คอนโดเงินทอน”อยู่บ่อยๆ แต่ก็นะ! สุดท้ายก็ยังมีคนไปพลาดและไปโดนอยู่เรื่อยๆ
ต้นเหตุที่คนดั้นด้นค้นไปเจอการชักชวนประเภทนี้ก็มักมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่เป็น “หนี้หนัก” ชำระไม่ไหว สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็เลยเชื่อคนง่าย
จะดีกว่ามั้ย ถ้าเรา (1) กู้ลงทุนอสังหาฯ ได้ (2) เงินส่วนเกินมาปิดชำระหนี้ทั้งหมดรวมจ่ายเป็นก้อนเดียว แถมยังได้ (3) Passive Income จากการมีปล่อยเช่าบ้าน/คอนโดที่กู้มาลงทุนได้ด้วย
เรียกว่า “คุ้ม” คุ้มจริงๆ ยิ่งกว่าคุ้ม คุ้มทุกสิ่งงงงงงง
เอาเข้าจริงทั้งหมดเป็นการตลาดของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่อยากปล่อยของออกให้หมด ออกของให้ไว จากแต่ก่อนที่เราจะขายบ้านหรือคอนโดให้คนมีความพร้อมทางการเงิน แต่ปัจจุบันเลือกเจาะกลุ่มคนมี “ปัญหา” การเงิน
ไม่เถียงว่าบางทรัพย์ (บ้าน/คอนโด) อาจอยู่ในทำเลทองทำเลดี แล้วสร้างประโยชน์ได้ มีคนเช่าจริง (ค่าเช่าต้องสูงกว่าค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยนะ)
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายทรัพย์สิน (ส่วนใหญ่เสียด้วย) เป็นบ้านหรือคอนโดที่ขายไม่ออก ก็เลยรวมหัวกัน 3 ปาร์ตี้สำคัญ 1.เจ้าของโครงการผู้ขายทรัพย์ไม่ออก 2.นายหน้าที่เปิดเพจอ้างว่าช่วยเหลือคนเดือดร้อน 3.เจ้าหน้าที่ธนาคารผู้ฉ้อฉล ปล่อยสินเชื่อเกินมูลค่า (ปัดโธ่! ก็พวกพี่เล่นแปลงสัญญาจะซื้อจะขายและทำราคาประเมินกันเองนี่หน่า)
***ตรงนี้รบกวนธนาคารต่างๆ ตรวจสอบเจ้าหน้าที่และพนักงานของคุณกันด้วยนะครับ ไม่งั้นหนี้เสียจะบานตะเกียง***
เอาเข้าจริงคนที่พอจะได้ประโยชน์จากบ้านเงินเหลือ คอนโดเงินทอน อยู่บ้าง (ย้ำว่า อยู่บ้าง) ก็คือ คนที่ตั้งใจหรือมีแผนจะซื้อบ้านอยู่แล้ว (แต่ต้องอยู่บ้านที่เขาอยากให้เราอยู่นะ อยู่ที่อื่นไม่ได้ มันใช่เหรอ!)
หรือไม่ก็คนที่ลงทุนอสังหาฯ แบบให้เช่าเป็น คือ ดูเป็นประเมินกระแสเงินสดเป็น
แต่ก็อีกนั่นแหละ! กลไกที่เชื่อมทำให้การใช้คอนโดเงินทอน บ้านเงินเหลือได้ผลดี และจูงใจคนได้มากก็คือ “บ้านที่ปล่อยเช่าได้” และสร้างกระแสเงินสดให้เราทุกเดือน
คำถาม : ใครรับประกันได้ว่ามีคนเช่า ค่าเช่าพอรายจ่าย และเช่าได้นานพอ อย่างน้อยก็ในช่วงที่การเงินเราค่อยปรับเข้าที่เข้าทาง
คำถามที่คนกู้เองควรจะถามกลับกันก็คือ “แล้วถ้าไม่มีคนกู้อย่างที่เขาโฆษณาไว้ล่ะ” จะทำอย่างไร (หรือมีเงินกู้แต่ไม่พอเงินผ่อน กระแสเงินสดติดลบ ก็พอกัน)
สุดท้ายผมเองก็ได้แค่พูดเตือน และให้คำแนะนำว่า ประเมินให้ดี มองยาวๆ คิดหรือมองโลกในแง่ร้าย แง่ที่ทุกอย่างไม่เป็นไปในแบบที่เราคิดบ้างก็ดีครับ เผื่อจะเรียกสติได้บ้าง
สำหรับเรื่องการแก้หนี้ ถ้าไม่ไหว เจรจาง่ายกว่าครับเข้าไปคุย เขียนจดหมายถึงผู้จัดการสาขา ขอลดภาระผ่อนเลย ง่ายกว่าเยอะ ไม่ต้องไปสร้างหนี้เพิ่ม ทำหนี้แสนให้เป็นหนี้ล้าน
ใครที่ได้ประโยชน์จากบ้านเงินเหลือ คอนโดเงินทอน ผมคงไม่พูดถึง และเอาเข้าจริง โลกใบนี้มีเคสพิเศษที่โชคดีได้ประโยชน์จากการกู้ซื้อ แต่ถ้ามีอีกหลายคน (ซึ่งมากกว่าคนโชคดีมากๆ) บาดเจ็บล้มตายหนักกว่าเดิม และมีจำนวนมากกว่าคนโชคดี ผมว่านั้นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ใช้กับทุกคนได้
ที่เจ็บปวดที่สุด ก็คือ หัวอีเมลที่ส่งมาพร้อมกับข้อความ “ผมน่าจะเชื่อโค้ช” บางครั้งก็คิดว่าจะไม่ตอบให้เพราะเตือนแล้ว แต่สุดท้ายแม่งก็นะ! ต้องตอบช่วยไปอยู่ดี แต่บอกเลยครับว่าแก้ไม่ง่ายเลยนะ! เพราะกู้เงินมูลค่าทรัพย์สินเนี่ยเสี่ยงที่สุดแล้ว
ย้ำอีกครั้ง! มีปัญหาเรื่องหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงิน สินเชื่อรถ สินเชื่อบ้าน เดินเข้าไปคุยแบบ “ชงเข้ม” กับธนาคาร เพื่อปรับเงื่อนไขการผ่อนก่อนที่จะเกิดการผิดนัดชำระ อันนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
ทาง “ตรง” คือ ทาง “ลัด” ที่ดีที่สุด
#โค้ชหนุ่ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี