บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทบี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM ข้อมูลที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์อยู่ในเชิงบวกเล็กน้อยจากแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรใน 4Q65 บริษัทยังคงย้ำเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็น 7,200MW ในปี 2568 (จากปัจจุบันที่ 4,035MW) โดยตั้งงบลงทุน (capex) เอาไว้ที่ 1.40 แสนล้านบาท (2565-2566) และไม่มีแผนจะเพิ่มทุน กำลังการผลิตจะมาจากทั้งโครงการ greenfield และโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วทั่ว ASEAN ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการพลังงานหมุนเวียน และโครงการที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง นอกจากนี้ BGRIM ยังเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียน 5.2GWh ในประเทศไทยด้วย (คาดว่าจะเป็นพลังงานลม และ solar >500MW) ขณะที่ยังมีโครงการอื่น ๆ อีกที่อยู่ระหว่างการเจรจา หรือรอการประกาศจากผู้รับซื้อไฟฟ้า (off-takers) โดยเฉพาะ PDP8 (LNG-to-power) ของเวียดนาม ทั้งนี้ BGRIM ก็เหมือนกับบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่ม ที่เลื่อนการนำเข้า LNG จากปี 2023 ออกไป เนื่องจากราคา LNG ไม่เอื้ออำนวย
ผู้บริหารคาดว่าจะมีการปรับขึ้นค่า Ft (มกราคม-เมษายน 2566) ขึ้นอีก ≥0.6488 บาท/kWh เป็น 1.58 บาท/kWh ซึ่งกรณีนี้และราคาก๊าซ SPP อยู่ที่ 450-480 บาท/mmbtu จะทำให้ EBITDA margin ของ BGRIM ในปี 2566F ดีดตัวกลับขึ้นมาใกล้ระดับปกติ ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2565-2567F ขึ้น 10-16% เพื่อสะท้อนถึงค่า Ft ที่สูงขึ้น แม้ว่าราคาก๊าซของ SPP เพิ่มขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB จะลดลง เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2566-2567F จะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งถึง 418% YoY และ 92% YoY ตามลำดับ เนื่องจากราคาก๊าซ SPP ลดลง, ค่า Ft สูงขึ้น, มีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา และประสิทธิภาพการผลิตของโครงการ SPP replacement ห้าโครงการดีขึ้น
เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q65 โดยคาดว่ากำไรจะดีดตัวขึ้น QoQ เนื่องจากราคาก๊าซ SPP ลดลงขณะที่ค่า Ft เฉลี่ยเพิ่มเป็น 0.9343 บาท/kWh (+0.46) เราคาดว่าราคาก๊าซของ SPP ใน 4Q65F จะลดเหลือ 460-470 บาท/mmbtu (-16-18% QoQ) แม้ว่าจะเผชิญกับปัจจัยลบจากอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าที่ลดลง ค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ BPWHA มีแผนปิดซ่อมบำรุง (98MWe) และต้นทุนดอกเบี้ยยังคงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผลประกอบการอาจจะพลิกกลับมาเป็นบวก หรือมีผลขาดทุนสุทธิลดลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน US$/THB
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย ปี 2566 ใหม่ที่ 40 บาท จากเดิมที่ 38 บาท เรามองว่าผลการดำเนินงานมีแนวโน้มสดใสมากขึ้นตั้งแต่ 4Q65 เป็นต้นไป กำไรน่าจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2566 ถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นมาแรงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ประเด็นสำคัญด้านบวกที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์ยังทำให้เรามั่นใจที่จะแนะนำให้นักลงทุนประเภท risk-lover ซื้อต่อได้
ปัจจัยเสี่ยงจากการปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย
ที่มา:บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี