สำนักวิจัยบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทิสโก้วิเคราะห์หุ้นบริษัทผลิตไฟฟ้า (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ป จากการที่ EGCOประกาศว่า ได้ทำการขายพอร์ตสินทรัพย์ความร้อนใต้พิภพทั้งหมดออกจากประเทศอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว โดยข้อตกลงการขายครอบคลุมหุ้นทั้งหมด 20% ในโรงไฟฟ้า Salak ขนาด 377MW และโรงไฟฟ้า Darajat ขนาด 271MW (ผ่านสัดส่วนการถือหุ้น 20% ใน Star Energy Geothermal Pte. Ltd และสัดส่วนการถือหุ้น 30% ใน Star Phoenix Geothermal JV B.V) ทั้งนี้ ดีลดังกล่าวมีการตกลงกันครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีมูลค่ารวม 485 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.678 หมื่นล้านบาท)โดยสินทรัพย์ความร้อนใต้พิภพของ EGCO ในอินโดนีเซียคิดเป็น 8% ของกำไรหลักใน 9M22 ของ EGCO และ 2% ของกำลังการผลิต MW ทั้งหมดของบริษัท

มุมมองของเรา :

• เรามีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยสำหรับ พลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซียนั้นคิดเป็นส่วนการลงทุนที่ไม่ใช่ส่วนหลัก และโอกาสการพัฒนาในอนาคตที่จำกัดสำหรับ EGCO

• EGCO มีเป้าหมายที่จะนำเงินที่ได้รับจากการทำดีลนี้ไปลงทุนในพื้นที่อื่นที่มีการเติบโตสูง (ลำดับความสำคัญสูงสุด) อย่างไรก็ตาม อีกทางหนึ่ง EGCO สามารถนำรายได้ไปจ่ายเงินปันผลหรือชำระหนี้ได้มากขึ้น

• เราคาดว่า EGCO จะบันทึกกำไรรายการครั้งเดียวที่ 2.5-3.0 พันล้านบาท (สุทธิจากภาษี และผลจาก FX) จากดีลดังกล่าวใน 4Q22F เทียบกับการประมาณการกำไร 4Q22F ของเราที่ 2.8 พันล้านบาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 228 บาท

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ EGCO ด้วยการประเมินจากวิธี DCF ที่ราคาเป้าหมาย 228 บาท โดยมีความเสี่ยงที่สำคัญคือ ความน่าเชื่อถือของโรงงาน และความล่าช้าของโครงการในระหว่างการพัฒนา

ที่มา : สำนักวิจัย บล.ทิสโก้