บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM โดย BGRIM ตั้งเป้า IUs ใหม่ที่ 50-60MW แล้ว ยังคาดว่าโครงการต่างๆ ที่อยู่ในpipeline ของปีนี้จะเริ่มเปิดดำเนินการได้ใน 4Q66 นำโดยอู่ตะเภา (Phase1-68MWe), BGPAT2-3 (196MWe) และโครงการ solar ในมาเลเซียที่ซื้อ 2 โครงการ นอกจากนี้ BGRIM ยังคาดว่าราคาก๊าซ SPP เฉลี่ยอยู่ที่ 400-450 บาท/ mmbtu ขณะที่เราคิดว่า LNG JKM ในเอเชียที่ร่วงแรงช่วงนี้อาจจะทำให้ราคาก๊าซลดลงอีก

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เวียดนามได้ประกาศแผน PDP8 (ปี 2564-2573)ออกมาด้วยวิสัยทัศน์ net zero carbonในปี 2593 ซึ่งมีเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น >150GWhในปี 2573 (จาก 69GWh ในปี 2563)โดยจะเป็นพลังงานหมุนเวียน 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมด รองลงมาคือโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ 25% เราคาดว่า BGRIM น่าจะมีโอกาสได้ส่วนแบ่งจากเค้กก้อนนี้ซึ่งจะเป็นโอกาสสร้างการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ยังศึกษาแผนการเข้าซื้อโครงการใหม่ๆ ในมาเลเซีย และเกาหลีใต้ โดยมีแนวโน้มจะเป็นโครงการ greenfield มากกว่า brownfield แต่แผนดังกล่าวล่าช้ากว่าแผนเดิมเพราะมีหลายขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ ผู้บริหารยังคงมั่นใจว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งได้ตามเป้า 10GWh ภายในปี2573 (จาก 3.4GWh ในปี 2565) โดยไม่ต้องเพิ่มทุน

เราปรับลดประมาณการกำไรหลักในปี 2566-2568F ลง 16-21% เพื่อสะท้อนสมมุติฐานค่า Ft ที่ลดลง และสมมุติฐานราคาก๊าซ SPP ที่ลดลงเมื่อปรับประมาณการใหม่แล้ว ประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2566-2568F จะยังโตถึง 309% YoY / 65% YoY / 20% YoY ตามลำดับ จากราคาก๊าซที่ลดลง, ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น, และโครงการต่างๆ ที่อยู่ใน pipelineสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าค่า Ft จะมีแนวโน้มลดลง แต่เราคาดว่ากำไรรายไตรมาสจะยังเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าจะขึ้นไปถึงจุดสุดใน 3Q66F จากการที่ราคาก๊าซของ SPP ลดลงต่อเนื่อง

เรายังคงคำแนะนำซื้อโดยปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 43 บาท จากเดิม 46 บาท เราคิดว่าราคาหุ้นขณะนี้มี Risk to reward ที่น่าสนใจ แต่ยังคงแนะนำให้นักลงทุนที่ไม่ชอบเสี่ยงเข้าซื้อสะสมเมื่อเห็นภาพที่ชัดเจนของนโยบายที่เกี่ยวกับธุรกิจไฟฟ้าจากรัฐบาลใหม่ก่อน

ปัจจัยเสี่ยงจากปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, เกิดปัญหา costoverruns, และความผันผวนของ FX และอัตราดอกเบี้ย

ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)