วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
ปี’66อุตสาหกรรมยานยนต์...ยังต้องเหนื่อย หนี้ครัวเรือนฉุดกำลังซื้อ-รถEVนำเข้าชิงตลาด

ดูทั้งหมด

  •  

nn อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยถือว่าเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ นอกจากผู้ผลิตรถยนต์แล้วก็ยังมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องหลายหมื่นราย ซึ่งทั้งระบบมีการจ้างงานหลายแสนตำแหน่ง...จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มีส่วนสำคัญไม่น้อยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่ง ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ได้นำเสนอบทวิเคราะห์ เรื่อง อุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2566โดยมีประเด็นสำคัญคืออุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2566 นั้น มีแนวโน้มฟื้นตัวสอดคล้องกับเศรษฐกิจไทย แต่ต้องจับตาความเสี่ยงจากกำลังซื้อและตลาดส่งออกที่อาจชะลอตัว

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ...ระบุว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของอุปสงค์และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยได้แบ่งการวิเคราะห์ออกเป็นประเด็นสำคัญ 4 ด้าน ดังนี้ 1. ตลาดรถยนต์มีแนวโน้มเติบโตได้ทั้งในด้านการผลิตและยอดขาย โดยคาดการณ์ยอดการผลิตอยู่ที่ราว 1.96 ล้านคัน หรือขยายตัว 4.2% จากปีก่อนอย่างไรก็ตาม ต้องติดตามความเสี่ยงจากภาคส่งออกที่คาดว่าจะหดตัวเพราะอุปสงค์ของคู่ค้าหลักที่ปรับลดลง สำหรับยอดขายรถยนต์ในประเทศมีแนวโน้มเติบโตได้ที่ 3.4% โดยตลาดรถยนต์นั่งจะเป็นแรงส่งสำคัญเพราะได้รับอานิสงส์ของการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ทั้งในแง่การจ้างงานและรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากต้องเผชิญแรงกดดันจากรายได้เกษตรกรที่ชะลอตัว


2.ตลาดรถบรรทุกและรถโดยสารขยายตัวได้สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยที่ทยอยกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น โดยคาดว่ายอดจดทะเบียนรถบรรทุกจะขยายตัว 2.7% ชะลอลงจากปีก่อนเล็กน้อย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากแนวโน้มความต้องการขนส่งสินค้าทางบก
ที่ปรับลดลงตามภาคการส่งออก อย่างไรก็ดียังมีแรงสนับสนุนจากการลงทุนก่อสร้าง กอปรกับการค้าชายแดนและผ่านแดนที่ปรับตัวดีขึ้น สำหรับยอดจดทะเบียนรถโดยสารมีแนวโน้มเติบโต 49.1% เร่งขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับอุปสงค์ในกลุ่มรถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว อีกทั้งแรงส่งจากนโยบายเปลี่ยนผ่านรถโดยสารประจำทางไป สู่รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า

3.ตลาดรถจักรยานยนต์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนเช่นกัน โดยคาดว่ายอดผลิตรถจักรยานยนต์จะขยายตัวที่ราว 8.0% ขณะที่ยอดขายจะขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ 2.3% เป็นผลจาก 1) การชะลอตัวของรายได้ภาคเกษตรจากปัจจัยด้านราคา และ 2) ยอดส่งออกที่ชะลอตัว
เพราะแรงฉุดของตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ขณะที่อุปสงค์ของตลาดเอเชียยังฟื้นตัวได้ 4.ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังคงสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่ายอดจดทะเบียนรถ EVs ในปี 2566 จะอยู่ที่ราว 4.95 หมื่นคัน หรือเติบโตสูงถึง 430%YOY ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.6% ของยอดขายรถยนต์นั่งทั้งหมด จาก 1.1% ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้กำลังการผลิตรถยนต์ EVs ของไทยก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ราว 3.5 แสนคันต่อปี ภายในปี 2568 อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามอานิสงส์จาก
การลงทุนของผู้ผลิตยานยนต์ EVs รายใหม่ๆ ที่มีต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งในด้านการจ้างงานและมูลค่าเพิ่มจากการพึ่งพาวัตถุดิบในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย คาดว่าในระยะสั้นจะเผชิญแรงกดดันจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นและหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีแนวโน้มชะลอตัว นอกจากนี้ มาตรฐานการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ก็ยังคงความเข้มงวดเนื่องจากคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อในภาพรวมยังคงปรับแย่ลงสำหรับ ในระยะปานกลาง-ระยะยาว ภาคธุรกิจยานยนต์ยังจำเป็นต้องปรับตัวให้เท่าทันกับกระแสยานยนต์ไฟฟ้าและเทรนด์ ESG ที่กำลังมาแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงการที่ผู้บริโภคและนักลงทุนมีแนวโน้มให้ความสำคัญและตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลกระทบทางบวกทั้งต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายสุรพงษ์ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ปรับประมาณการผลิตรถยนต์ในปี 2566 ใหม่จาก 1,950,000 คัน เป็น 1,900,000 คัน ลดลง 50,000 คัน หรือลดลง 2.56% โดยเป็นการปรับเป้าเฉพาะผลิตขายในประเทศจาก 950,000 คัน เป็น 900,000 คัน หรือลดลง 5.56% หลังสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์จากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90.6% ของ GDP รวมทั้งส่งออกสินค้าอื่นๆ ของประเทศลดลงติดต่อกันหลายเดือนทำให้หลายอุตสาหกรรมลดกะการทำงานและลดการทำงานล่วงเวลา คนทำงานขาดรายได้ อำนาจซื้อลดลง

นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นรวมทั้งค่าครองชีพสูงขึ้นผู้มีหนี้และประชาชนต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นจึงระวังการใช้จ่ายทำให้อำนาจซื้อลดลง ธุรกิจหลายสาขาชะลอตัวลง เช่น วัสดุก่อสร้าง ร้านสะดวกสบาย supermarketฯลฯ และปัจจัยสำคัญอีกอย่าง คือ รถยนต์ไฟฟ้า(รถอีวี) ที่เข้ามีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์มากกว่า 5%

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศใน มิ.ย. 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 64,440 คัน ลดลง1.04% จาก พ.ค. 2566 และลดลง 5.16% จากเดือนเดียวกันในปีก่อน เพราะการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 90.6 ของ GDP ประเทศ ส่งผลให้ 6 เดือนแรกของปีนี้ รถยนต์มียอดขาย 406,131 คันลดลง 4.95% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

นายสุรพงษ์กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดเดือน มิ.ย. 2566 มีทั้งสิ้น 8,260 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 54.74%
และจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบก พบว่า ใน 6 เดือนปีนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ในประเทศทั้งสิ้น 31,515 คัน เพิ่มขึ้น 948.40%จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยคาดว่าปีนี้น่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ถึง 70,000-80,000 คัน ขึ้นอยู่กับว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกที่เข้ามาขาย ในช่วงครึ่งปีหลังมากขึ้นหรือไม่ หากมีจำนวนไม่มากขึ้นคาดว่ายอดจดทะเบียนใหม่น่าจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 คัน

“รถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์นำเข้าไม่ได้ผลิตในประเทศ โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศจีน ทำให้กลุ่มยานยนต์ จึงต้องลดเป้าการผลิตเพื่อขายในประเทศลงประมาณ 5% ของเป้าเดิม และคาดว่าในครึ่งปีหลัง หากยังมีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากจีนพยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการเร่งส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปทั่วโลก เพราะจีนเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับ 1 ของโลก ดังนั้น เราอาจจะต้องพิจารณาการปรับลดการผลิตในประเทศอีกครั้ง” นายสุรพงษ์กล่าว

กระบองเพชร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
07:00 น. คุยกัน7วันหน : โป๊ปเลโอที่ 14 จะนำพาคริสตจักรคาทอลิกไปทิศทางใด
06:50 น. เช็คที่นี่! กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ‘ฉบับ8’ กางลิสต์‘จังหวัด’ระวัง‘พายุฤดูร้อน-ฝนตกหนัก’
06:40 น. ‘มิกค์-หลุยส์’นำทีมนักแสดง 7HD แชร์หลักธรรมนำใจ เนื่องใน ‘วันวิสาขบูชา’
06:30 น. เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เงินของไทยปี’68 สะท้อนความอ่อนแอกำลังซื้อในประเทศ
06:00 น. ทำความรู้จัก‘เซียงเซียง พรสรวง’ เผยความสดใสแผ่กระจายราวกับกลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้
ดูทั้งหมด
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
'สมชาย'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง'วิษณุ'ไปศาลอาญาทำไม?
‘มาเลเซีย’อ่วม! สงคราม‘อินเดีย-ปากีสถาน’กระทบจัดหา‘ข้าว’
ดูทั้งหมด
สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน40) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ
บุคคลแนวหน้า : 11 พฤษภาคม 2568
บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไร้ปาฏิหาริย์! 'น้องน้ำตาล'เสียชีวิตที่แม่น้ำเจ้าพระยา ญาติเชื่อถูกลวงฆาตกรรม

คนกรุงร้องจ๊าก! ฝนถล่มหนักต่อเนื่อง หลายจุดการจราจรเป็นอัมพาต

'ศรีสุวรรณ' ลั่นรอชมด่านต่อไป ป.ป.ช.จะชี้มูลเมื่อไหร่ ปมแพทย์ช่วย 'ทักษิณ' ชั้น 14

ยอมให้รื้อถอนแล้ว! ‘อาคารใหญ่ริมน้ำสาย’ จนท.เร่งวางพนัง-ขุดลอกคืบหน้าต่อเนื่อง

คปท.จัดหนักไม่พัก! นัดระดมพลเคลื่อนขบวนไล่บี้ 'ทักษิณ'ยาวตลอดทั้งสัปดาห์

ตรังสั่งเฝ้าระวัง ‘น้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม’ ช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้9–13พ.ค.นี้

  • Breaking News
  • คุยกัน7วันหน : โป๊ปเลโอที่ 14  จะนำพาคริสตจักรคาทอลิกไปทิศทางใด คุยกัน7วันหน : โป๊ปเลโอที่ 14 จะนำพาคริสตจักรคาทอลิกไปทิศทางใด
  • เช็คที่นี่! กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ‘ฉบับ8’ กางลิสต์‘จังหวัด’ระวัง‘พายุฤดูร้อน-ฝนตกหนัก’ เช็คที่นี่! กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ‘ฉบับ8’ กางลิสต์‘จังหวัด’ระวัง‘พายุฤดูร้อน-ฝนตกหนัก’
  • ‘มิกค์-หลุยส์’นำทีมนักแสดง 7HD แชร์หลักธรรมนำใจ เนื่องใน ‘วันวิสาขบูชา’ ‘มิกค์-หลุยส์’นำทีมนักแสดง 7HD แชร์หลักธรรมนำใจ เนื่องใน ‘วันวิสาขบูชา’
  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เงินของไทยปี’68  สะท้อนความอ่อนแอกำลังซื้อในประเทศ เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เงินของไทยปี’68 สะท้อนความอ่อนแอกำลังซื้อในประเทศ
  • ทำความรู้จัก‘เซียงเซียง พรสรวง’  เผยความสดใสแผ่กระจายราวกับกลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้ ทำความรู้จัก‘เซียงเซียง พรสรวง’ เผยความสดใสแผ่กระจายราวกับกลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทั่วโลกยังแห่ลงทุนทองคำ แรงซื้อจากรายย่อยไทยโตสูงสุดในอาเซียน

ทั่วโลกยังแห่ลงทุนทองคำ แรงซื้อจากรายย่อยไทยโตสูงสุดในอาเซียน

7 พ.ค. 2568

หมุนตามทุน : 200 รง.เหล็กไทยรวมพลังหนุน \'รมว.เอกนัฏ\'

หมุนตามทุน : 200 รง.เหล็กไทยรวมพลังหนุน 'รมว.เอกนัฏ'

30 เม.ย. 2568

หมุนตามทุน :  เป็นกำลังใจให้ “รมว.เอกนัฏ”ไปให้สุดซอย ก่อนที่เหล็กเตาIFจะทำลายชีวิตคนและอุตสาหกรรมไทยไปมากว่านี้

หมุนตามทุน : เป็นกำลังใจให้ “รมว.เอกนัฏ”ไปให้สุดซอย ก่อนที่เหล็กเตาIFจะทำลายชีวิตคนและอุตสาหกรรมไทยไปมากว่านี้

23 เม.ย. 2568

อุตสาหกรรมไหนของไทย...ที่เจ็บหนักเพราะ”ทรัมป์2.0”

อุตสาหกรรมไหนของไทย...ที่เจ็บหนักเพราะ”ทรัมป์2.0”

16 เม.ย. 2568

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียว...ตอบโจทย์ผู้บริโภคสายกรีน

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียว...ตอบโจทย์ผู้บริโภคสายกรีน

2 เม.ย. 2568

กนอ. ผนึก UNIDO ขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว  รับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กนอ. ผนึก UNIDO ขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว รับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

26 มี.ค. 2568

ธุรกิจไทย..หนีไม่พ้นลูกหลง‘สงครามการค้า’

ธุรกิจไทย..หนีไม่พ้นลูกหลง‘สงครามการค้า’

19 มี.ค. 2568

อุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัวต่ำ ผู้รับเหมาจีนคือตัวเร่งอัตราแข่งขันให้รุนแรงมากขึ้น

อุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัวต่ำ ผู้รับเหมาจีนคือตัวเร่งอัตราแข่งขันให้รุนแรงมากขึ้น

12 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved