มหาเศรษฐีเจ้าพ่อรายการเรียลลีตี้โชว์ผู้อื้อฉาวที่กำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปคงลืมไปแล้วว่าการบริหารประเทศนั้นไม่ใช่รายการเรียลลิตี้โชว์ เพราะดูเหมือนว่าพี่แกขยันทำตัวเป็นข่าวทุกวันตามความถนัดในการได้ออกสื่อฟรีๆ อย่างสมัยก่อน เฮียผมเป๋แกว่งปากหาตีนไปเรื่อยจนล่าสุดกรากไปกระทืบหางพญามังกรเข้าอย่างจัง โดยการสนทนาจ๊ะจ๋ากับประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวินของไต้หวัน จากนั้นก็ยักไหล่ไม่รู้ไม่ดูไม่แคร์ แถมท้าทายอย่างโจ่งแจ้งว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่วอชิงตันจะต้องยึดติดกับนโยบายจีนเดียว เว้นแต่จะได้รับสิ่งตอบแทนจากจีนอย่างข้อตกลงทางการค้า  แถมยังไม่เห็นว่าการรับโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวินของไต้หวัน เป็นเรื่องเสียหายอะไร แถมกร้าวใส่พญามังกรว่าจีนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจบงการว่าตนควรรับสายจากผู้นำไต้หวันหรือไม่

                    เฮียทรัมป์เปรี้ยวตั้งแต่ยังไม่ได้หย่อนก้นนั่งในทำเนียบขาวเลยนะเนี่ย งานนี้เล่นเอามังกรคำรามอย่างขัดใจจนยื่นประท้วงทางการทูตต่อลุงแซม คณะบริหารของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ปาดเหงื่อพลางถอนหายใจเฮือกแล้วออกมายืนยันกับทางการปักกิ่งว่าวอชิงตันยังยึดมั่นนโยบายจีนเดียวที่ใช้มาเกือบสี่ทศวรรษนะจ๊ะ

                    อย่าได้คิดว่าเฒ่าทรัมป์นั้นโง่เง่าเบาปัญญาอย่างที่แสดงออกเสียทีเดียว ลูกล่อลูกชนหมอนี่ไม่เบาหรอก เพราะในฐานะนักธุรกิจแล้ว ทรัมป์อาจจะหยิบประเด็นไต้หวันเพื่อเป็นข้อต่อรองกับมังกรจากแผ่นดินใหญ่ก็ได้ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าจีนอ่อนไหวเรื่องไต้หวันขนาดไหน การที่เฮียกล้ากระทืบหางมังกรนี่ต้องมีอะไรแฝงอยู่ในการกระทำอันกวนตีนนั่นแหละ

                    นอกจากทางการจีนจะออกมาคำรามใส่ลุงแซมแล้ว สื่อต่างๆ ในจีนก็เต้นผางๆ รุมกินโต๊ะเฒ่าผมเป๋กันอย่างเมามัน หนังสือพิมพ์โกลบัลไทมส์ แทบลอยด์ที่เป็นปากเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีนตีพิมพ์บทบรรณาธิการเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าทรัมป์เป็นพวกงี่เง่าในด้านการทูตยังกับเป็นเด็กคนหนึ่งเท่านั้นแหละ  จากนั้นก็แขวะว่า

                    “ลื้อนี่ไม่รู้อะไรเลย นโยบายจีนเดียวไม่ได้มีไว้เพื่อซื้อหรือขายเว้ย”

                    ที่แสบกว่านั้นคือย้ำว่าหากลุงแซมสนับสนุนให้ไต้หวันเป็นเอกราชแล้ว พญามังกรก็อาจสนับสนุนและช่วยเหลือทางทหารแก่พวกศัตรูของลุงแซม  เอาซี้..ตาต่อตา ฟันต่อฟันกันไปเลย ลุงแซม

                    การกระทืบหางมังกรของเฮียทรัมป์สร้างความปวดกบาลแก่ทำเนียบขาวอย่างยิ่ง เพราะทรัมป์อาจกระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหารหากผลักดันประเด็นไต้หวันมากเกินไป รัฐบาล บารัค โอบามา เลยต้องออกมารับหน้าเสื่อด้วยการรีบออกมายืนยันว่า สหรัฐฯ ยังยึดมั่นในนโยบายจีนเดียวโดยจะไม่ใช้สถานะของไต้หวันมาเป็นเครื่องมือต่อรองกับปักกิ่งอย่างแน่นอน    โฆษกทำเนียบขาว จอช เออร์เนสต์ ออกมาโอ้โลมจีนให้คลายโมโหว่า

                    “ใจเย็นๆ น่อ อาเฮีย อเมริกามีข้อผูกมัดกับหลักการจีนเดียวและจะไม่ใช้ประเด็นไต้หวันเพื่อหาประโยชน์ในการต่อรองใดๆ ก็ตามกับปักกิ่ง ลื้ออย่าเพิ่งฉุนเลยน่อ จ๋อๆๆ อากาศหนาวๆ ลื้อมานั่งเจี๊ยะเต้ก่องนา”

                    จากนั้นก็เปรยๆ ให้เข้าหูเฒ่าทรัมป์ว่า การทำลายนโยบายนี้อาจส่งผลร้ายแรงต่ออเมริกาในการทำงานกับจีนทางด้านต่างๆ ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน การกระทำของทรัมป์ส่งผลให้ชาวโลกหายใจไม่ค่อยจะทั่วท้องนัก อย่าว่าแต่เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวเลย นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนีได้ประกาศว่าเบอร์ลินยึดมั่นในหลักการจีนเดียว และจะไม่เปลี่ยนนโยบายที่มีต่อจีนและไต้หวันอย่างแน่นอน ขณะที่ ฌ็อง-มาร์ก เอโรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส จุ๊ปากส่ายหน้าในเรื่องนี้ โดยด่าทรัมป์ออกสื่อแบบไม่ไว้หน้าว่าพูดจา “ไม่ฉลาด” และไม่ให้เกียรติจีนเท่าที่ควร

                    หากโดนัลด์ ทรัมป์คิดจะเอาเรื่องไต้หวันมาต่อรองกับจีนแล้วล่ะก็ เห็นว่าน่าจะเจอมากกว่าตอเสียแล้ว อย่างเบาะๆ คงเจอปังตอของอาเฮียมังกรจีนเลยทีเดียว เพราะเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ชุย เทียนไข่ ออกมาคำรามเบาๆ ใส่ทรัมป์ว่าปักกิ่งจะไม่มีวันต่อรองกับวอชิงตันในประเด็นปัญหาซึ่งเกี่ยวข้องกับอธิปไตยแห่งชาติหรือบูรณภาพแห่งดินแดนของตนเองอย่างเด็ดขาด

                    “เรื่องอธิปไตยแห่งชาติและบูรณภาพแห่งดินแดนไม่ใช่เป็นหมากสำหรับการต่อรอง ไม่ใช่อย่างเด็ดขาด ผมหวังว่าทุกๆ คนจะเข้าใจเรื่องนี้”

                    การแสดงความเห็นของเอกอัครราชทูตจีนสอดคล้องกับการออกมาประท้วงของกระทรวงการต่างประเทศจีนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า หลักการ “จีนเดียว” เป็นพื้นฐานทางการเมืองอันละเมิดไม่ได้สำหรับสายสัมพันธ์สหรัฐฯ – จีน

                    เมื่อบรรยากาศเริ่มระอุ ทรัมป์เลยแต่งตั้ง เทอร์รี แบรนสตัด ผู้ว่าการรัฐไอโอวาที่มีความสนิทชิดเชื้อกับประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง มาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 เป็นเอกอัครราชทูตประจำปักกิ่งคนใหม่  ทำให้พญามังกรยิ้มได้   เพราะถูกขาถูกคอกันดีกับสหายเทอรี่ แบรนสดัดผู้นี้

                    หลังจากนั้นแทนที่เฮียทรัมป์จะหุบปาก เพราะสถานการณ์กำลังเริ่มคลี่คลาย เฮียก็ไม่วายย่างสามขุมเข้าหาพญามังกรที่กำลังเพลินสาวบะหมี่เข้าปากแล้วยกไม้หน้าสามฟาดกบาลมังกรอย่างจังอีกหน จนชามบะหมี่กระเด็นตกพื้น  ด้วยการทวิตเยาะเย้ยจีนอีกดอกในกรณีที่มังกรแอบจิ๊กโดรนของลุงแซมได้แถวฟิลิปปินส์

                    เรื่องนี้ทำให้ลุงแซมเต้นผางบ้าง เพราะโดรนที่ว่านั่นเป็นสมบัติของลุงแซม เพนตากอนแหกปากฟ้องโลกว่าการกระทำของจีนร้ายแรงมากๆ เนื่องจากจีนยึดทรัพย์สินของกองทัพมะริกัน  ส่วนจีนก็ออกมาบอกว่าเรือรบของจีนลำหนึ่งพบ “อุปกรณ์ไม่ระบุชื่อ” เลยเก็บไปตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหาความปลอดภัยทางการเดินเรือ โดนัลด์ ทรัมป์อ่านข่าวเข้าก็ตีปีกแล้วโพสต์ทวิสเตอร์ด่าพญามังกรรัวๆ

                    “จีนหน้าไม่อาย ขโมยโดรนใต้น้ำ แอบฉวยออกไปทั้งๆ ที่อยู่ในน่านน้ำสากล” 

                    ทั้งที่จะว่าไปแล้วทั้งเรือดำน้ำทั้งโดรนของลุงแซมคอยสอดส่ายจมูกไปดมใต้ปีกมังกรอยู่ตลอดเวลาในทะเลจีนใต้  อย่างไรก็ตามจีนยินยอมส่งมอบคืนโดรนสำรวจใต้น้ำคืนให้กับสหรัฐฯโดยดีหลังจากที่ทางสหรัฐฯได้ออกมาคัดค้านอย่างเป็นทางการ  แทนที่พี่ทรัมป์จะเงียบ  แกก็พล่ามอีกว่า

                    “เราน่าจะบอกจีนว่า เราไม่อยากได้โดรนที่ถูกขโมยไปคืนแล้ว เก็บไว้เถอะ!”

                    เจอแบบนี้เข้า อาเฮียทายาทมังกรเลยเปลี่ยนใจ จะคืนไปเฉยๆ ก็ใช่ที่ เลยจัดหนักปล่อยหมัดสวนลุงแซมแก้ขวยไปบ้างหมัดสองหมัดด้วยการตอกว่า

                    “อั๊วน่ะตั้งใจจะคืนพวกลื้ออยู่แล้ว  แต่ลื้อก็อย่าสะดิ้งนักเลย ยังไม่ทันได้ปรึกษาหารืออะไรก็ดิ้นเร่าๆ ไปฟูมฟายกับชาวโลก อั๊วก็ชีช้ำน่อ เพราะมีแต่จะทำลายความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ให้ยิ่งแย่ลง ลื้อเองก็เถอะ อย่าปล่อยให้โดรนหรืออะไรก็ตามแต่มาวอแวกับน่านน้ำของอั๊วมากนัก สื้อสอดจมูกเข้ามานานแล้ว อย่านึกว่าอั๊วไม่รู้ไม่เห็น จากนี้ไปขออย่าทำอีกก็แล้วกัน ถือว่าอั๊วเตือนลื้อแล้วนะ”

                    ดูท่าจะกลายเป็นซีรีย์เสียแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพญามังกรกับนกอินทรีหัวล้านที่ต่างฝ่ายต่างจิกตาเขม็งเข้าหากันอีกรอบ  นี่ยังไม่นับรวมหมีขาวที่นกอินทรีกำลังโถมจิกจ้าละหวั่นด้วยข้อหาสืบเนื่องมาจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบล่าสุด ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าสัมพันธภาพระหว่างนกอินทรี หมีขาว และพญามังกรจะดำเนินไปในทิศทางใดภายใต้การนั่งเมืองของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ตอนนี้ได้ยินเสียงคำรามของพญามังกรแว่วมาถึงอเมริกาแทบทุกวัน