อเมริกาให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา รวมถึงลัทธินิกายต่างๆ มากมายยิบย่อย ทุกเมืองทุกรัฐจึงเต็มไปด้วยโบสถ์ วัด วิหาร และสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือลัทธินิกายนับพันแห่ง ไม่ว่าลัทธินั้นจะแหวกแนวหรือพิสดารขนาดไหน ก็ได้รับการรับรองในสิทธิ ตราบใดที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม
บางลัทธินั้นสุดโต่งอย่างชนิดสุดติ่งกระดิ่งแมว เช่น ลัทธิ Vampire Clan หรือลัทธิพี่น้องผีดูดเลือด อันมีแนวความคิดว่าเลือดสดๆ ของมนุษย์อุดมไปด้วยสารอาหารล้ำค่ามากมาย มาเป็นแวมไพร์กันเถอะ จากนั้นก็เริงร่าจัดพิธีดื่มเลือดสดๆ แลกคู่นอนกันสวิงกี้งอย่างสุดเหวี่ยง ไม่รู้ว่าชอบสวิงกี้หรือชอบดื่มเลือดกันแน่ ทำให้มีชาวบ้านชาวช่องในอเมริกาหันมาบูชาเลื่อมใสลัทธินี้อย่างคับคั่ง ต่อมาเจ้าลัทธิซึ่งตั้งตัวเป็นเจ้าลัทธิตั้งแต่อายุ 18 ถูกประหารชีวิตข้อหาฆาตกรรม
หลายคนคงรู้จักลัทธิคู คลักซ์ แคลน (Ku Klux Klan - KKK) ซึ่งยังลากยาวมาถึงทุกวันนี้ วันร้ายคืนร้ายก็ออกมาเดินแสดงพลังคลั่งขาวให้ชาวโลกด่าพ่อล่อแม่ แม้จะถูกกวาดล้างครั้งแล้วครั้งเล่าในอดีต แต่ยิ่งยุครัฐบาลทรัมป์ยิ่งฮึกเหิมออกมาเดินก๋าประกาศศักดาเสมอ เพราะเมื่อผู้นำพยักหน้า หางก็กระดิกนั่นแหละ
หนักกว่าลัทธินี้คือลัทธิโบสถ์แห่งประชาชนของจิม โจนส์ อาศัยว่ามีพรสวรรค์ในการเทศน์ จึงทำให้จำนวนผู้ศรัทธาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนโบสถ์แห่งประชาชนเติบโตอย่างรวดเร็ว ชักชวนสาวกให้บริจาคสมบัติทั้งหมดของตนแก่โบสถ์ ต่อมาเจ้าสำนักมีความสัมพันธ์แบบชู้สาวกับสาวกทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สั่งให้สาวกเรียกตนเองว่า "บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์" และเริ่มสร้างความศรัทธาในการฆ่าตัวตายหมู่
โบสถ์แห่งประชาชนย้ายสาวกมากกว่าพันคนจากอเมริกา ไปสร้างเมือง "โจนส์ทาวน์" บนพื้นที่กว่า 300 เอเคอร์ในประเทศกิอานา ค.ศ. 1978 จิมรวบรวมสาวกทั้งหมดมาร่วมพิธี "ไวท์ไนท์" นางพยาบาลนำถังใส่ไซนาไนด์ออกมา ซึ่งไซยาไนด์เหล่านี้ถูกใส่ลงในน้ำผสมสีรสผลไม้เพื่อให้ดื่มง่าย จากสาวกกว่า 1100 คน มีเพียง 167 คนเท่านั้นที่รอดมาได้
ลัทธิแปลกๆ เพิ่มขึ้นในบ้านลุงแซมเป็นดอกเห็ด อย่างเมื่อไม่นานมานี้มีลัทธิ “ไซเอนโทโลจี้” ที่มีดาราและคนดังเป็นสาวกมากมาย รวมทั้งทอม ครูซ ซึ่งถือเป็นสาวกตัวเอ้จนถึงขั้นหย่ากับเมีย เพราะฝักใฝ่ลัทธินี้
อาทิตย์ที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับลัทธิประหลาดอีกลัทธิหนึ่ง มีการจับกุมสาวกลัทธิซึ่งมีทั้งดาราหนังและบรรดาเศรษฐีทั้งหลาย บรรดาสาวกไฮโซต่างยอมเปิดปากจนชาวบ้านร้านถิ่นในบ้านลุงแซมถึงกับปากอ้าตาค้างว่าอะไรจะประหลาดขนาดนี้ เพราะมีการยอมให้ประทับตราลงบนร่างกาย แบบเดียวกับเคาบอยใช้เหล็กร้อนๆ ประทับตราวัวยังไงยังงั้น
ความประหลาดของลัทธินี้ถูกเปิดเผยเมื่อบรรดาสาวกดังๆ ออกมาสารภาพอย่างหมดเปลือก ลัทธินี้ชื่อ NXIVM หรือเน็กเซียม เจ้าลัทธิอ้างว่าจะนำทางสายใหม่สู่มนุษยชาติโดยหลักการมนุษยธรรม ซึ่งต้องการสร้างเสริมผู้คนและตอบคำถามสำคัญเกี่ยวกับความหมายของคำว่ามนุษย์
ปีกลายเจ้าลัทธิคือ คีธ ราเนียร์ วัย 57 ปีถูกตำรวจจับข้อหาข่มขืนเด็กหญิง และกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้หญิงนานกว่า 18 เดือน อีกทั้งยังบังคับให้สาวกทำเรื่องต่ำช้าสามานย์ เช่น การจับคนขังกรงหรือบังคับให้กินของสกปรก หนักว่านั้นคีธได้ขโมยบัตรเคดิตของสาวกที่ตายแล้วมารูดเอาเงินมาปรนเปรอตัวเองอย่างหรูหรา
ลัทธิที่ว่านี้มักจัดสัมมนาโดยอ้างว่าเพื่อพัฒนาตนเองในนิวยอร์ค ทางอัยการตั้งข้อหาว่าคีธจัดกลุ่มลับชื่อว่า “ดอส” หรือ “เดอะ โวว์” เพื่อนำสาวๆ มาบำเรอกามแบบทาสสมัยก่อน มีหนำซ้ำยังนาบเหล็กร้อนสัญลักษณ์ประหลาดที่ดัดแปลงมาจากชื่อและนามสกุลตนบนเรือนร่างสาวๆ เหล่านั้น
น่าแปลกที่บรรดาไฮโซยินยอมให้คีธทำทุกอย่างแบบไม้หือไม่อือเสียด้วย แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือ มีการบังคับให้สาวกสาวจะต้องนำหลักประกัน เพื่อการันตีว่าจะจงรักภักดีต่อลัทธิ หลักประกันเหล่านั้นคือข้อมูลที่อาจเป็นอันตรายต่อตัวเอง เช่น ภาพเปลือยหรือสิทธิในทรัพย์สิน
เงื่อนไขต่อมาแหวกแนวและพิลึกพิลั่นมาก สาวกทุกคนจะต้องไม่โกนขนตามร่างกาย อดอาหาร ห้ามอี๊บกับใคร และต้องเป็นโสด แต่ก็ลักลั่นชอบกลเพราะคีธระบุว่า สาวกหญิงต้องโสด ห้ามมีเพศสัมพันธ์ แต่สาวกชายอึ๊บได้ตามสะดวก แถมสาวกหญิงต้องยอมให้คีธอึ๊บทุกเวลา
คีธอวยตัวเองว่าเป็น ‘ผู้นำสังคมแนวหน้า’ และอ้างว่าลัทธินี้ช่วยให้ทุกคนพัฒนาตนเองสู่หนทางที่ดี แต่แฟรงค์ พาร์ลาโต้ อดีตเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ลัทธินี้แฉหมดเปลือกว่าคีธล่วงละเมิดเหยื่อไปกว่า 1,000 ราย ในจำนวนนั้น มีผู้หญิงประมาณ200คนที่ถูกย่ำยีทั้งด้านร่างกาย โดนข่มขืน ถูกแฉ หลอกลวงและล้างสมอง
แม้ว่าคีธจะถูกจับไปตั้งแต่ปีกลาย แต่มีการทะยอยจับสาวกตัวกลั่นๆ ของลัทธินี้ได้เรื่อยๆ และเมื่อถูกจับ สาวกตัวเอกก็สารภาพจนหมดสิ้น เช่น แอลลิสัน แม็ค นักแสดงหญิงยอมรับสารภาพผิดในข้อหาล่อลวงหญิงสาวหลายคนให้เข้ามาเป็นทาสกามเจ้าลัทธิที่ว่านี้ ด้วยการบังคับหญิงสาวสองคนเข้าลัทธิพิธีเน็กเซียมและร่วมเพศกับคีธ ด้วยการขู่ว่า ถ้าไม่ยินยอมจะปล่อยข้อมูลที่ทำให้ชื่อเสียงของทั้งคู่เสียหาย
นอกจากดาราดังแล้ว ยังมีทายาทบริษัทดังอย่างซีแกรม หรือที่บ้านเรารู้จักคือซีแกรมคูลเลอร์นั่นแหละก็เป็นหนึ่งในสาวกตัวฉกาจด้วยเช่นกัน โดยต้องสงสัยว่าให้เงิน 100 ล้านดอลลาร์แก่ลัทธิเน็กเซียม เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง ทายาทสาวซีแกรม แคลร์ บรอนฟ์แมนยอมรับสารภาพผิดว่าให้ที่พักพิงแก่หญิงผู้อพยพที่เข้าอเมริกามาด้วยวีซ่าทำงานปลอม แลกกับการที่หญิงดังกล่าวจะต้องทำงานให้กับเธอและลัทธินี้ ทายาทเศรษฐีสารภาพว่ายังช่วยคีธใช้บัตรเครดิตของสาวกหญิงคนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว
ขณะที่บรรดาสาวกสารภาพจนหมดไส้หมดพุง เจ้าลัทธิกลับปฎิเสธหัวชนฝา ส่วนทนายก็อ้างว่าผู้หญิงทุกคนยอมมีเพศสัมพันธ์กับคีธด้วยความเต็มใจ และปฏิเสธข้อหาผลิตสื่อลามกเด็ก ตอนนี้คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จึงต้องรอดูผลการตัดสินว่าจะลงเอยอย่างไร นับเป็นลัทธิแปลกอีกลัทธิหนึ่งในบรรดาลัทธินับพันในอเมริกา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี