นาทีนี้บ้านลุงแซมระอุอ้าวไปด้วยเชื้อไฟสงคราม  หลายคนที่เคยคิดว่าเลือกตาลุงผมเป๋น่าดีกว่าป้าขาวีนฮิลลารี่ เพราะไม่กระหายสงครามเท่าป้า อาจจะต้องปรับมุมมองความคิดใหม่ เพราะดูทรงแล้วลุงผมเป๋นี่ตัววางเพลิงโลกอย่างแท้ทรู

ตอนนี้ลุงแซมรับศึกหนักสองด้าน นั่นคือการพะบู๊กับพญามังกร ที่ลุงแซมใช้วิชามารเต็มพิกัด ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยการบีบไข่ แต่ดูเหมือนว่าไอ้คนบีบนั่นแหละที่หน้าเขียวร้องครวญครางเอง เพราะที่ล้มตายเป็นเบือคือเกษตรกรชาวไร่ชาวนาลากยาวไปยันภาคธุรกิจ  แถมซ้ำร้ายไปกว่านั้น แทนที่พญามังกรจะหวาดกลัวต่อการถูกลุงแซมบีบไข่ กลับผิวปากเบาๆ เพลงเหมยฮัว  เล่นเอาลุงแซมกระอักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในหนังฮอลลีวู้ดมักฉายภาพบรรดาฮีโรและพระเอกอกผายไหล่ผึ่ง ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาววับ ใบหน้าหล่อเหลาผมทองอร่าม ยืดอกปราบปรามเหล่าร้ายพิทักษ์โลกให้อยู่เย็นเป็นสุข  นั่นแค่ภาพพจน์จอมปลอมเอาไว้หลอกเด็กเท่านั้นแหละ เวลาลุงแซมจะไปกระทืบใคร ก็จะผิวปากปิ๊ว ส่งสัญญาณเรียกบรรดาสมุนและลูกหาบมารุมกระทืบแทนทุกที ในขณะที่ลุงแซมนั่งกระดิกตีนจิบโค้กอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ ปากก็ร้องสั่งโน่นนี่คอยบงการลูกหาบนานาชาติให้กระทืบชาติคู่กรณีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

ล่าสุดลุงแซมก็หันขวับมาบีบคอหมู่เฮาชาวอาเซี่ยน ด้วยการตะคอกสั่งว่าให้เลือกข้าง และต้องเลือกดีๆ นะเว้ย ไม่งั้นเจอจัดหนัก

ทูตกระทรวงกลาโหมอเมริกาให้ข่าวว่าอินเดีย-แปซิฟิกคือพื้นที่ซึ่งรัฐบาลอเมริกาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ แม้ว่าขณะนี้จีนจะกำลังพยายามเข้าไปมีบทบาทมากก็ตาม อเมริกาก็ถือว่าเป็นภูมิภาคที่อเมริกาดูแล เดี๋ยวนะ..ดูแลอะไรล่ะ พวกเราดูแลประเทศตัวเองได้โดยไม่ต้องให้ใครมายุ่มย่ามวุ่นวาย แถมเผลอๆ บีบคอจนหน้าเขียวแบบลุงเลยนะ

แรนดัลด์ ซริเวอร์ ผู้ช่วยเลขาธิการกระทรวงกลาโหม ซึ่งรับผิดชอบกิจการด้านความมั่นคงของภาคพื้นอินเดียและแปซิฟิก (Assistant Secretary of Defense for Indo-Pacific Security Affairs) ออกมาย้ำว่าขอให้ผู้นำอาเซี่ยนเลือกให้ดีระหว่างจีนและอเมริกาก่อนจะคิดทำยุทธศาสตร์ใดๆ ในการประชุมร่วมอาเซี่ยน แปลแบบบ้านๆ คือ ไอ้พวกอาเซี่ยน เอ็งต้องเลือกระหว่างอาเฮียกับไอ  แต่ไอบอกเลยว่ะว่าควรเลือกไอ มากกว่าไอ้อาเฮีย ไม่งั้นเจอกระทืบแน่นอน

จากนั้นก็แขวะกัดโครงการ “One Belt, One Road” "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" หรือ "เส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21" ของจีนอย่างหนัก แต่บอกได้เลยว่าที่แท้คือความกลัว เพราะหากจีนรวมกับอาเซี่ยนได้ก็เหมือนพญามังกรรวมตัวกับพญาเสือโคร่งนั่นแหละ

ลุงแซมกล้ากร้าวใส่แบบหน้าด้านๆ ทั้งที่ผลการประชุมอาเซี่ยนออกมาว่า หมู่เฮาจะร่วมมือกับทั้งลุงแซมและอาเฮียอย่างเท่าเทียมกัน แต่ดูเหมือนว่าไอ้นักเลงคุมวินมอเตอร์ไซด์ปากซอยที่ชื่อโดนัลด์ ทรัมป์จะไม่พอใจนัก

แม้ไทยเป็นประเทศเล็กในบรรดาประชาคมชาวโลก แต่เราก็ต้อนรับทุกชาติด้วยรอยยิ้มและน้ำใจไมตรีมาตลอด พร้อมจะร่วมมือและค้าขายกับทุกชาติ แต่หากชาติมหาอำนาจที่เข้ามาแสวงหาอำนาจและผลประโยขน์จากเราโดยแทรกแซงผ่านหน่วยงานเอ็นจีโอหรือผ่านกลุ่มการเมือง เห็นทีจะต้องคิดหนักหน่อย เพราะหลายประเทศที่เจอแบบนี้ต่างล่มสลายไม่เป็นท่ามาแล้วหลายประเทศ บทเรียนที่เคยหยวนให้ลุงแซมมาตั้งฐานทัพช่วงสงครามเวียตนามยังไม่หายอักเสบ เพราะพอถึงยามคับขัน ไอ้มหามิตรที่เคยโอบบ่าโอบไหล่เปิดตูดหายไปจ้อย

ตอนนี้คงต้องแอบส่องสำนักข่าวหลักในบ้านลุงแซมว่าจะเล่นเกมนี้เมื่อไหร่  ดูไม่ยากหรอก ลูกไม้เดิมๆ คือ จะสัมภาษณ์นักวิชาการหางแดงสีข้างส้มให้ออกมาแสดงความชังชาติรัวๆ หนักกว่านั้นอาจเจอแบบที่พี่ปินส์เจอมาแล้วที่อยู่ๆ ไอซิสมาโผล่ในประเทศตัวเอง

บอกกันตรงๆ ว่าไทยไม่ควรไว้ใจทั้งสองประเทศนั่นแหละ  ลุงแซมนี่คือประเทศล่าอาณานิคมยุคใหม่ ใครหักหาญก็บีบคอแล้วเรียกประเทศอื่นมาช่วยรุมกินโต๊ะ ส่วนจีนก็ไม่ต่างไปจากอั้งยี่ ดูเหมือนต้องการทำมาค้าขายอย่างบริสุทธิ์ใจโดยไม่มีเงื่อนไข แต่เผลอเมื่อไหร่ อาเฮียคว้าปังตอสับคอได้ทุกเมื่อ

หากหลายคนไม่เชื่อว่าพระเอกโลกฟันขาววับยิ้มโปรยเสน่ห์อย่างลุงแซมจะบังอาจมาข่มขู่ประเทศที่ลุงแซมเคบโอบบ่าแล้วพูดหวานหูใส่ว่า “มหามิตร” ไม่ต้องดูอื่นดูไกลเลย ต้นเดือนนี้นี่เอง ลุงแซมเปิดศึกกับอิหร่านยิ่งกว่าศึกไก่ชน ตีแข้งฟาดปีกกันถี่ยิบ  ซึ่งอิหร่านก็โต้ตอบอย่างมันหยดย้อยแบบไม่กลัวถูกอินทรีตบเอาเลย

ก่อนหน้านี้ลุงแซมบีบอิหร่านจนหน้าเขียวหน้าเหลือง  ด้วยการสั่งทุกประเทศเลิกนำเข้าน้ำมันอิหร่าน ตามมาด้วยการส่งกำลังไปประจำการณ์เพิ่มในตะวันออกกลาง ผู้นำทั้งสองประเทศโต้กันไปมาด้วยความรุนแรง อยู่ๆ เรือบรรทุกน้ำมันที่ลอยเท้งเต้งในอ่างโอมานถูกโจมตี ลุงแซมชี้หน้าด่าทันทีว่าอิหร่านทำ  จากนั้นก็โก่งคอด่าไปทั่วโลกว่า เจ้าข้าเอ๊ย ไอ้อิหร่านมันทำจ้า

ลูกหาบลุงแซมในตะวันออกกลางคือซาอุดิอาระเบียและยิวก็ออกมาประสานเสียงคลอไปกับพี่เบิ้มทันที   ส่วนอีหร่านนั้นก็ปฎิเสธว่าไม่ได้ทำ แถมตบตูดไปว่า ถ้าจะทำจริงก็จะทำแบบเปิดเผย ไม่ลอบกัดแบบนี้ ทั้งสองฝ่ายแลกน้ำลายกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านท่ามกลางไทยมุงฝรั่งมุง

เมื่ออาทิตย์ก่อนนี่เอง ลุงแซมระดมพลเรียกลูกหาบฝั่งยุโรปและเอเซีย หว่านล้อมว่าต้องมาช่วยไอแก้ปัญหานี้นะ  ไม่ใช่ปล่อยให้ไอรับหน้าเสื่อคนเดียว เฮ้ย..เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากยูเลยนะ  ไอ้ลุงแซม แต่พอเจอตอเข้า กลับผิวปากเรียกชาวบ้านมาช่วยแก้ปัญหานี่มันยังไง

แถมพูดจาแบบสุนัขไม่รับประทานว่า ที่ไอเรียกประเทศต่างๆ มาช่วยกันเนี่ย ไม่เกี่ยวกับไอเลยนะ เพราะประเทศไอนำเข้าน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียเพียง 16%  เท่านั้นแหละ แต่พวกยูซี้..ทั้งยุโรปทั้งเอเซียต้องพึ่งพาน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียถึง 80 %  คิดสิคิด..หากเรือบรรทุกน้ำมันที่กำลังลำเลียงน้ำมันไปประเทศพวกยูไม่ปลอดภัยแบบนี้ จะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นพวกยูต้องมาเป็นมือตีนไปกระทืบอิหร่านให้ไอเสียดีๆ

ยังไม่ทันจะรู้หมู่รู้จ่า อิหร่านก็สอยโดรนอเมริกันร่วงผล็อย ลุงแซมนั้นโกรธจนหนวดกระดิก โดยเฉพาะตาลุงผมเป๋ถึงกับออกคำสั่งด่วนสายฟ้าแลบให้ใช้กำลังทหารโจมตีอิหร่าน แต่คำสั่งนี้ถูกยกเลิกแบบฉับพลัน คาดว่าจะถูกต่อต้านจากกลาโหมไม่ให้ใช้ยุทธวิธีหักด้ามพร้าด้วยเข่าแบบนี้

ที่เขียนเล่ามายืดยาวก็เพื่อให้เห็นภาพนักเลงคุมซอย ทุกครั้งที่ลุงแซมมีเรื่องกับใคร ไม่เคยมีสักหนที่จะถือธงวิ่งนำหน้า จะมีแต่แผดเสียงเรียกชาติอื่นมาช่วยกระทืบแทน หากใครไม่ยอมทำตาม ก็จะกรากไปบีบคอแล้วกระชากเสียงถามว่า “จะร่วมมือกับไอหรือจะถูกกระทืบแทน”

ตอนนี้อเมริกากำลังจ้องไทยเขม็งรอคำตอบ การใช้วิถีทางการทูตตามแบบฉบับไทยแลนด์อย่างนุ่มนวลน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด หลายคนอาจจะคิดว่านี่คือวิถีคนกะล่อน แต่ไม่ใช่กุศโลบายที่รักษาตัวรอดเช่นนี้หรือที่ทำให้เรารอดพ้นจากการเป็นอาณานิคม และเป็นความภูมิใจจนทุกวันนี้