วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568
มีคนจำนวนมากบอกว่า “รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์” ทั้งที่ยึดอำนาจและได้รับการเลือกตั้งมานั้นไม่แตกต่างกับ “รัฐบาลของระบอบทักษิณ” เพราะมีรัฐมนตรีที่สำคัญๆเป็นคนเดียวกัน จึงสรุปได้ว่ารัฐบาลไหนก็ “เหมือนกัน”
ประชาชน 2 ฝ่ายที่สู้กันมานานนับสิบปีก็เหนื่อยเปล่า บาดเจ็บล้มตายเปล่า
แต่ถ้าเรามองที่ “อุดมการณ์” ของทั้ง2ฝ่ายก็จะเห็นว่าไม่เหมือนกัน
แกนนำของ “รัฐบาลระบอบประยุทธ์” นั้นมีอุดมการณ์ “อนุรักษ์นิยม” คือต้องการธำรงไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ (และรัฐบาลตัวเอง)
ส่วน “รัฐบาลระบอบทักษิณ” นั้นต้องการสถาปนาระบอบ “เสรีนิยม” (ที่มีคอมมิวนิสต์เป็นแนวร่วม ส่วนพวกคอมมิวนิสต์ก็หวังใช้ระบอบทักษิณเป็นเครื่องมือ..ในฐานะ “คู่ขัดแย้งหลัก” กับระบอบเดิม)
อุดมการณ์จึงแตกต่างกันชัดเจน แต่มีจิตสำนึกเหมือนกัน
คือทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และคุณทักษิณนั้นมี “จิตสำนึกแบบผู้ครอบครอง”
ส่วนนักการเมืองทั้งที่เป็นรัฐมนตรีและเป็น ส.ส. นั้น ส่วนมากแล้วพวกเขาอยู่ฝ่ายไหนก็ได้ที่ “ชนะ” เพราะพวกเขาต้องการมีอำนาจ และอำนาจนั้นก็จะนำมาซึ่งผลประโยชน์ต่างๆนานา ตั้งแต่ทรัพย์สินเงินทอง เกียรติยศชื่อเสียง...ทั้งหมดเป็นการเฉลิมฉลองอัตตาของพวกเขา
เรามองว่าพวกเขาเป็นกลางๆ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ต้องการทำประโยชน์ให้ประเทศชาติก็ได้
มองว่าเป็นพวก “จิตสำนึกให้เช่า” ก็ได้
ข้อดีของการมีพวกจิตสำนึกให้เช่า หรือพวกกลางๆ หรือพวกชนะไหนชนะด้วยก็คือ ทำให้การปฏิบัติภาระหน้าที่ของรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติดำเนินไปได้ และไม่แตกหักกันทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วน “พลเมือง” ที่ไม่ค่อยมีพลังก็สามารถแสวงหาประโยชน์ได้เช่นกัน คือพยายามเรียนรู้ - รู้ให้เท่าทันนักการเมืองทุกคน ทุกฝ่าย ประการสำคัญเรียนรู้ – รู้ให้เท่าทัน “อุดมการณ์กับชีวิตจริง” ว่าเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะอุดมการณ์ที่ “นำเข้า” จากต่างประเทศแล้วเอามา “เลี้ยงดู” ไว้ในวัฒนธรรมไทย คนจะได้ไม่ตกเป็น “เครื่องมือ” ของอุดมการณ์ แต่เอาอุดมการณ์นั้นมาเป็นเครื่องมือของคน
ผมเคยใช้มีดกับส้อมสำหรับกินปลาน้ำจืดในท้องถิ่นไทย ปรากฏว่าก้างติดคอ ส่วนพ่อแม่ปู่ย่าตายายของผม “กินมือ” จึงเลือกก้างปลาออกได้หมด ซดน้ำแกงก็คล่องคอ
พวกนักการเมืองหรือพวกนักแสวงหาอำนาจนั้นเขามี “จิตสำนึก” ในแบบของเขา ส่วนพลเมืองอย่างเราๆท่านๆนั้นก็สามารถเรียนรู้และสร้างจิตสำนึกของตนได้ ว่าต้องการจิตสำนึกแบบไหน
ต้องการให้ตนมีจิตสำนึกแบบ “ผู้ถูกครอบครอง” หรือ “จิตสำนึกอารยะ” ?
เรื่องแบบนี้ต้องใช้ “หัวคิด” ของตน ถ้าเอาแต่เชื่อลัทธิอุดมการณ์แล้วเที่ยวกดขี่ข่มเหงคนอื่นให้เชื่อตามนั้น ก็เท่ากับกดขี่ข่มเหงตนด้วย
เป็นการกดขี่ข่มเหงทางสติปัญญา และน่าเสียดายที่เกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง แต่ไม่คิดจะยกระดับศักยภาพของความเป็นมนุษย์ของตนเลย หลงคิดเอาแต่ว่าตนเป็นผู้มีอุดมการณ์ และจะไม่ยอมทรยศต่ออุดมการณ์ของตน
ยอมตายคาอุดมการณ์หวังให้พวกเดียวกันสรรเสริญ และปลื้มใจในตนเอง!
แค่นี้ก็น่าเสียดายแทนพอแล้ว ยิ่งพยายามที่จะหว่านล้อมคนอื่น ปั่นหัวคนอื่น กดขี่คนอื่นให้เป็นอย่างตน จนนำไปสู่ความแตกแยกและการทำลายล้างกันในสังคม...ก็ยิ่งน่าสมเพชจนต้องนับว่าเกิดมาเสียชาติเกิด
และไม่ควรจะเกิดเป็นคน หรือสัตว์อะไรทั้งสิ้น
เพราะมีจิตสำนึกของความเป็นทาส!
วิมล ไทรนิ่มนวล

พาเหรดเข้าพรึบ! ส.ส.พรรคใหญ่ แห่ทิ้งบ้านเก่า ย้ายซบ กล้าธรรม ปชป.ก๊วนเฉลิมชัยเพียบ
สื่อเขมรตีข่าว ทางการกัมพูชารวบสายลับไทยได้ที่สวายเจก ล้วงข้อมูลลับส่งให้กองทัพไทย
อนุทิน อารมณ์ดี ตอบชาวโซเชียล ทวงเงิน 2,400 บอก เดี๋ยวกลับมา
มูลนิธิช่วยการศึกษากรุงเทพมหานคร แจกทุนช่วยการศึกษาแก่เด็กเรียนดี แต่ขาดทุนทรัพย์
นักเขียนซีไรท์ ชำแหละ พรรคคุณหนู แสดงธาตุแท้เผด็จการ!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี