การนิรโทษกรรมมีมาแทบทุกรัฐบาล ในสมัยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสมัยรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีความพยายามที่จะนิรโทษกรรมแก่ผู้ชุมนุมที่ทำผิด และจวนจะสำเร็จ หากไม่มีการยัดไส้ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่รวมเอาคุณทักษิณ ชินวัตรเข้าไว้ด้วย เพราะมีการประท้วง–ต่อต้านโดยกลุ่ม กปปส.
สุดท้ายคุณยิ่งลักษณ์ยุบสภา...ทุกคนที่กระทำความผิดต่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มาถึงวันนี้มีการตัดสินไปแล้วหลายคดี ผู้ที่ได้รับโทษและพ้นโทษไปแล้วก็มี ยังรับโทษอยู่ก็มี ตายไปแล้วก็มี และยังอยู่ในระหว่างพิจารณาคดีก็มี ส่วนคุณทักษิณนั้นเป็นคนเดียวที่สุขสบายอย่างเท่ๆ
“ฟามวัวไม่ทันหายฟามฟายเข้ามาแซก”เมื่อ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก่อตั้ง “พรรคอนาคตใหม่” ที่หาญกล้าประกาศนโยบายที่ตอกลิ่มความแตกแยกขึ้นอีกว่า “พรรคใดคิดไม่เหมือนพรรคของเรา พรรคนั้นเป็นศัตรูกับพรรคเรา”
เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบก็เริ่มมีการประท้วง โดย “กลุ่มคณะราษฎร 2563”พุ่งเป้าไปที่กษัตริย์อย่างเห็นได้ชัด ต่อมาก็ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถนนหลายครั้ง มีผู้กระทำผิดหลายคน นอกจากนี้ ยังมีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ มีการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ จนวันนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีไปแล้วจำนวนมาก และยังอยู่ในระหว่างดำเนินคดีอีกหลายคดี ส่วนหนึ่งเป็น “คดีมาตรา 112” รวมทั้งคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วย
ด้วยเหตุนี้ “พรรคก้าวไกล” โดยคุณชัยธวัช ตุลาธน จึงเสนอให้มีการนิรโทษกรรมโดยรวมคนที่ทำความผิดอื่นๆ ไว้ด้วย ตั้งแต่ในยุคเสื้อแดง ยุคพธม. ยุคกปปส. จนมาถึงยุค “คณะราษฎร 2563” ซึ่งเขาเสนอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาว่า มีใครบ้างและมีความผิดอะไรจึงสมควรจะได้การนิรโทษกรรม
เพื่อแสวงหาความเห็นพ้อง...คุณชัยธวัชจึงออกไปพบปะกับแกนนำกลุ่มและฝ่ายต่างๆ ซึ่งข่าวล่าสุดคือการไปพบกับ “อดีตท่านพุทธะอิสระ”
เขาให้สัมภาษณ์ “คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา” ในรายการ “กรรมกรข่าวคุยนอกจอ” ถึงเหตุผลที่ไปพบอดีตท่านพุทธะอิสระว่าเพื่อต้องการทราบความเห็น อันจะเป็นประโยชน์แก่การร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
เขาให้เหตุผลว่า ถ้าไม่นิรโทษกรรมก็จะเป็นการกดทับให้ปัญหารุนแรงยิ่งขึ้น และมันจะไประเบิดในวันหน้า!
คุณสรยุทธถามว่า มันจะไม่เป็นการสร้างความแตกแยกให้มากขึ้นหรือ เขาตอบว่า เขาพยายามจะพูดคุยกับทุกกลุ่มทุกฝ่าย เพื่อให้เข้าใจกัน ปัญหาความแตกแยกน่าจะหมดไป ประเทศชาติจะได้สงบ มีเวลาไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์
คุณสรยุทธถามอีกว่า มันจะเป็นการช่วยฝ่ายตัวเองไหม ในเมื่อแกนนำของพรรคก้าวไกลหลายคนก็ทำผิดเช่นกัน เขาตอบว่าได้ให้การบ้านแก่ทุกคนไปแล้ว ว่าควรจะสละสิทธิ์ที่จะได้รับการนิรโทษกรรม คุณธนาธรก็ตอบรับเขาแล้วในเบื้องต้น และจะมีการประชุมเรื่องนี้กันต่อไป
ความเห็นของผมในฐานะคนนอก ผมไม่เชื่อว่าเมื่อมีการนิรโทษกรรมแล้วบ้านเมืองจะสงบ เพราะมวลชนเสื้อส้มและเสื้อแดงจำนวนมากนั้นถูกปลูกฝังความคิดไปแล้วว่า “ไม่เอามาตรา 112” พวกหัวรุนแรงก็กระเหี้ยนกระหือรือจะปฏิวัติ และการนิรโทษกรรมจะทำให้พวกเขาได้ใจ เห็นว่าทำผิดก็ไม่ต้องรับโทษ
ส่วนคุณธนาธรกับบรรดาแกนนำจะสละสิทธิ์การนิรโทษกรรม ก็จะเป็นเหมือนกับหนามที่เสียบคาใจมวลชนของก้าวไกลที่จะเห็นว่า “ไม่ยุติธรรม” เพราะเมื่อมีการนิรโทษกรรมก็ยังจะต้องมี “แพะบูชายัญ” อีก และจำเลยของพวกเขาก็คือฝ่ายอนุรักษนิยม!
คุณธนาธรกับบรรดาแกนนำจะได้คะแนนเสียง-ได้รับการเชิดชูว่าเป็นวีรบุรุษ ยอมสละสิทธิ์และเสรีภาพของตนเพื่อคนอื่น และมันจะเป็นเงื่อนไขให้เรียกร้องการนิรโทษกรรมแก่คุณธนาธรและบรรดาแกนนำต่อไปอีก
แต่ผมเชื่อว่า เมื่อมีการนิรโทษกรรมก็จะต้องรวมทุกคนที่กระทำความผิดด้วย ไม่ว่าจะสละสิทธิ์หรือไม่
ผมไม่เชื่อว่าการนิรโทษกรรมจะทำให้บ้านเมืองสงบ และทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย จะหันมาพูดกันด้วยเหตุด้วยผล เพราะในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์นั้นถึงกับตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมา มีการพบปะพูดคุยกับแกนนำเสื้อแดงจำนวนมาก พวกแกนนำบางส่วนของทั้งสองฝ่ายอาจจะประนีประนอมกันได้ แต่มวลชนส่วนใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็ยังขัดแย้งกันมาจนถึงวันนี้
แม้พรรคก้าวไกลจะผลักดันจนมีการนิรโทษกรรมได้สำเร็จ แต่การต่อสู้ - การปลุกระดมก็จะยังมีอยู่ต่อไป และย่อมมีผู้ทำผิดกฎหมายตามมาอย่างเดิม จากนั้นก็จะมีการผลักดันให้มีการนิรโทษกรรมอีก...วนไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของพวกเขา หรือไม่ก็เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ไม่เช่นนั้นจะพังกันไปฝ่ายหนึ่ง
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี