วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ผู้คนบ่นว่าอากาศร้อนมากขึ้นทุกปี สาเหตุที่มักคิดกันเป็นอันดับแรกคือ ไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ คือการเสียดสีของใบไม้หรือกิ่งไม้แห้ง เกิดจากความมักง่ายของคนที่ทิ้งวัตถุติดไฟ เช่น ก้นบุหรี่ที่ดับไม่สนิท และการเผาโดยตั้งใจเพื่อจะเอาที่ดินไปทำการเกษตร หรือทำอื่นใดที่เกินกว่าสติปัญญาผมจะทราบได้
อีกสาเหตุคือการเผาถ่านในเขตชุมชน ซึ่งเป็นธุรกิจของคนและกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง แต่ทำความเดือดร้อนให้คนจำนวนมาก สิ่งที่ตามมาคืออากาศร้อนขึ้นและควันจากการเผาไหม้เป็นพิษทำลายสุขภาพ
ตั้งแต่ต้นปี 2567 มาถึงตอนนี้ เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่านับครั้งไม่ถ้วน ทั้งจังหวัดในภาคเหนือและอีสาน ถึงขนาด สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ (Geo-Informatics and Space Technology Development Agency - GISTDA) เคยคาดการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 19 - 25 กุมภาพันธ์จะมีพื้นที่เสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟป่ามากถึง 10 จังหวัดและกินพื้นที่กว้างกว่า 1 ล้านไร่
ส่วนใหญ่จะเกิดในเขตพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร และพื้นที่เขต ส.ป.ก. จากการจุดไฟเผาเพื่อหาของป่า หรือเตรียมการเพาะปลูก และเผาหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต
ไฟไหม้ในพื้นที่ทำการเกษตรในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะแถวภาคกลาง ก็เป็นปัญหามากเช่นกัน ผมเคยถามชาวบ้านในจังหวัดหนึ่งของภาคกลางว่า ทำไมไม่ใช้รถไถพลิกผืนดินเพื่อลงพืชพันธุ์ใหม่ตามรอบฤดูกาล คำตอบก็คือ เสียเวลา และสิ้นเปลืองค่าจ้างรถมาไถ
สถิติย้อนหลัง 10 ปี ระหว่างปีพ.ศ. 2557-2566 พบว่ามีเจ้าหน้าที่และชาวบ้านอาสาสมัครเข้าไปช่วยกันดับไฟป่า 50,000 กว่าครั้ง นั่นก็หมายถึงมีไฟไหม้ป่า เพราะถ้าไม่ไหม้ก็คงไม่ต้องเข้าไปดับนี่ยังไม่นับที่ไหม้เล็กๆ น้อยๆ แล้วดับไปเอง
รวมพื้นที่ถูกไฟไหม้ป่าในรอบ 10 ปีมากกว่า 1 ล้านไร่ เปรียบเป็นตารางกิโลเมตรก็ประมาณ 1,614 ตารางกิโลเมตร ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ มีราวๆ 1,569 ตารางกิโลเมตร
คิดให้เห็นภาพสยดสยองสักหน่อยก็คือ ถ้าไฟที่ไหม้ป่ามาทั้งหมดนั้นเกิดในกรุงเทพฯ ก็จะไหม้กรุงเทพฯ ราพณาสูร แถมจังหวัดรอบๆ อีกนิดหน่อย
ถ้ากฎหมายยังเบาบาง อิทธิพลของทุน และความเห็นแก่ตัวของคน ยังไม่ถูกปรับปรุง เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเท่าไหร่ก็ไม่พอ
แต่ที่กล่าวมาก็ยังไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดที่บ้านเมืองร้อนขึ้น การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าตามบ้านเรือนที่พักอาศัยและสำนักงานต่างๆ, การใช้เครื่องจักรเครื่องยนต์ที่ต้องอาศัยการเผาผลาญด้วยพลังงานน้ำมัน ฯลฯ เหล่านี้ก็มีส่วนทำให้เกิดความร้อน และบรรยากาศอุดมด้วยพิษจากฝุ่นควัน เป็นผลพวงที่มาจากความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน
เดี๋ยวนี้ แค่การทำอาหารตามบ้าน ดูเหมือนจะไม่มีใครใช้เตาถ่านหรือเตาแก๊สกันแล้ว เกือบทุกอย่างใช้ไฟฟ้ากันหมด และที่อยู่อาศัยก็ติดแอร์คอนดิชั่นเป็นส่วนมาก โดยเฉพาะตาม
อพาร์ทเมนท์และคอนโดมิเนียม แทบจะเปิดกันทั้งวันทั้งคืน ยิ่งร้อนก็ยิ่งใช้ว่างั้นเถอะ
เคยมีคนเสนอความคิดเพื่อประหยัดพลังงาน ลดบรรยากาศโลกร้อน และแก้ปัญหาฝุ่นควันมากมายหลายวิธี เช่น ปิดไฟเป็นเวลา, ให้รถทะเบียนคู่คี่สลับวันกันวิ่ง หรือคิดเงินพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการนำรถเข้าเขตเมืองชั้นใน แบบที่เรียกว่า Restrict Zone แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ เพราะผู้คนไม่เอาด้วย และรถสาธารณะไม่เพียงพอ หรือบริการไม่น่าพอใจ บางทีก็ไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากไม่อยากให้ความร่วมมือเฉยๆ ใครจะทำไม
นับตั้งแต่โลกเปลี่ยนผ่านในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และเข้าสู่ความเป็นทุนนิยมเต็มรูปแบบ นำมาซึ่งความก้าวหน้ามากมาย เทคโนโลยีถูกพัฒนาไปไกลอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ในทางกลับกัน การป้องกันและแก้ปัญหาต่างๆ ตามไม่ทัน หรือจะพูดว่า มองการณ์ไกลเพียงด้านเดียวก็คงไม่ผิดความจริงสักเท่าไหร่ และเมื่อเกิดความสะดวกสบาย ความเคยชิน ปัญหาที่บวมโตก็แก้ไขได้ยากขึ้นทุกที
แต่ไม่ใช่ว่า ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง หากช่วยกันคนละไม้ละมือ ปัญหาที่บ่นๆ กันก็อาจจะบรรเทาลงได้บ้าง โดยเริ่มต้นที่ตัวเราเอง อย่าไปเรียกร้องเอาจากใคร
ทิวา สาระจูฑะ

ช่างทำผ้าบาติก ปรับสีผ้าขาวดำ'ลายช่อดอกศรีตรัง' ถวายความอาลัย'พระพันปีหลวง'
อยากอวดแฟนสาว! เช่าชุดตำรวจเต็มยศ เซอร์ไพรส์งานรับปริญญา สุดท้ายเจอข้อหา
'ไอซ์ รักชนก'ฉะกลับ'แขก คำผกา' บอกสงสาร เป็นคนมีความสามารถ อยู่ที่อื่นคงก้าวหน้ากว่านี้
พสกนิกรในโครงการศิลปาชีพ'นาตาดนาโปร่ง' จัดพิธีอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง
ของขวัญล้ำค่า! 'เจมส์ เรืองศักดิ์'ประกาศข่าวดีภรรยาตั้งท้องลูกคนที่ 2

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี