นับแต่พรรคอนาคตใหม่ถือกำเนิดขึ้นก็มีการพูดถึง “เวลา” เรื่อยมา จนกระทั่งมาพูดกันบ่อยในสมัยที่เป็นพรรคก้าวไกล คนที่พูดก็คือคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ คุณพิธาลิ้มเจริญรัตน์
ในยุค “ฝ่ายซ้าย” เฟื่องฟู คือหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 จนถึงวันที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ “คนป่าคืนเมือง” ด้วยคำสั่งที่ 66/2523 ก็พูดถึงกันในหมู่ฝ่ายซ้ายแทบไม่หยุด และก็ไม่ใช่มีเฉพาะในประเทศไทย ฝ่ายซ้ายในทุกประเทศก็พูดเช่นกัน เพราะคำนี้มาจากลัทธิมาร์กซ์
เวลา ของมาร์กซิสต์นั้นหมายถึง การมาถึงของ “กงล้อประวัติศาสตร์”
ดังนั้นเวลาของพวกมาร์กซิสต์จึงแตกต่างจากเวลาอื่น คือเวลาที่เป็นปรมัตถสัจจะและเวลาที่เป็นสมมุติสัจจะ
“เวลาที่เป็นปรมัตถสัจจะ” คือการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ทั้งที่ปรากฏและไม่ปรากฎต่อการรับรู้ของมนุษย์ ซึ่งไม่มีใครหาต้นกำเนิดได้ หาที่สิ้นสุดก็ไม่ได้ ชั่งตวงวัดก็ไม่ได้ และอาการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินั้นเป็นปัจจุบันเสมอ
“เวลาที่เป็นสมมุติสัจจะ” คือเวลาที่มนุษย์คิดขึ้นเอง โดยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ โดยเฉพาะดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หมู่ดาวต่างๆ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติ แล้วมนุษย์จดจำหรือบันทึกไว้อย่างกว้างๆ เรียกเป็นวัน เดือน ปี น้ำขึ้น-น้ำลง ข้างขึ้น-ข้างแรม ฤดูกาลต่างๆ ซึ่งไม่มีความแน่นอน เช่นในฤดูฝน กลางวันจะสั้นกว่ากลางคืน เป็นต้น ต่อมามนุษย์จึงกำหนดเวลาขึ้นเองโดยอิงกับปรากฏการณ์ของธรรมชาตินั้น เป็นวัน ชั่วโมง นาที วินาที ซึ่งมีความแน่นอนแม่นยำ เพราะเป็นเวลาจากเครื่องประดิษฐ์
“เวลาของกงล้อประวัติศาสตร์” เป็นสมมุติสัจจะเช่นกัน แต่หาความแน่นอนแม่นยำไม่ได้ มันถูกสร้างขึ้นจากการคิดค้นและความเชื่อของมนุษย์ ที่เป็นผลจากการเข้าไปศึกษาสภาพสังคมมนุษย์ในอดีตจนถึงวันที่รู้ผลของการศึกษานั้น แล้วสรุปออกมาเป็น “ยุค”
1.ยุคชุมชนบรรพกาล เป็นยุคที่คนเท่าเทียมกัน ไม่มีชนชั้นทางสังคม ทุกคนเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติและมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน เพราะมีคนน้อย
2.ยุคทาส พัฒนามาจากยุคชุมชนบรรพกาล เหตุเพราะมีคนที่ใช้คนอื่นทำงานหรือผลิตแทนตนจึงมีชนชั้นเกิดขึ้น คือชนชั้นนายทาสและชนชั้นทาส ทั้ง 2 ชนชั้นเกิดความขัดแย้งและต่อสู้กันในสังคม
3.ยุคศักดินา เป็นผลจากยุคทาส มีที่ดินเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญที่สุด พวกนายทาสมีที่ดินเป็นของตน และเปลี่ยนทาสเป็นเลกหรือไพร่ให้ทำงานในที่ดินนั้น โดยตอบแทนบางส่วนจากผลผลิตหรือได้รับความคุ้มครองจากตน จึงมีชนชั้นเจ้าที่ดิน(ศักดินา)กับชนชั้นเลกหรือไพร่
4.ยุคทุนนิยม พัฒนาจากยุคศักดินา ที่ปัจจัยการผลิตเปลี่ยนจากที่ดินมาเป็นทุน เจ้าของที่ดินและชนชั้นกลางเป็นเจ้าของทุน-เจ้าของกิจการและจ้างคนทำงาน แม้จะมีการตอบแทนค่าแรง เกิดเป็นชนชั้นนายทุนและชนชั้นกรรมาชีพ ทั้ง 2 ชนชั้นนี้ขัดแย้งและต่อสู้กัน จนส่งผลไปเป็นยุคสังคมนิยม
5.สังคมนิยม เกิดขึ้นโดยการปฏิวัติของชนชั้นกรรมาชีพ โค่นล้มหรือทำลายชนชั้นนายทุนลง และสถาปนาชนชั้นตนเป็นผู้ครอบครองปัจจัยการผลิตและอำนาจรัฐ เรียกว่า “เผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ”
6.ยุคคอมมิวนิสต์ เป็นพัฒนาการทางสังคมขั้นสูงสุดของมนุษย์ที่พัฒนามาจากยุคสังคมนิยม ทุกคนมีความรับผิดชอบต่อสังคม ร่วมกันทำงาน แบ่งกันกินอย่างเท่าเทียม เป็นสังคมที่ไม่มีชนชั้น มนุษย์ทุกคนสามารถใช้ชีวิตตามใจปรารถนา
คาร์ล มาร์กซ์ เชื่อว่า สังคมมนุษย์ทุกสังคมจะต้องพัฒนาจากยุคชุมชนบรรพกาลมาจนสิ้นสุดที่ยุคคอมมิวนิสต์ในเส้นทางนี้เท่านั้น ไม่มีเส้นทางใดอีก และมันต้องเป็นเช่นนั้น! เมื่อสังคมมนุษย์พัฒนามาสิ้นสุดที่สังคมคอมมิวนิสต์หรือที่ ดร.ปรีดี พนมยงค์ เรียกว่า “สังคมพระศรีอาริย์” มันก็จะหยุดพัฒนา เพราะมนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆ กันแล้ว!
มันต้องเป็นเช่นนั้น มันจึงถูกเปรียบว่าเป็น“กงล้อประวัติศาสตร์” หรือ “กงล้อแห่งกาลเวลา”ที่ใครก็ไม่อาจต้านทานขัดขวางได้ มันจะบดขยี้คนทุกคนทุกชนชั้นที่ขัดขวางต่อต้านมันจนแหลกสลายไป อย่างที่มันเคยบดขยี้มาแล้วในประเทศที่มี “การปฏิวัติสังคมนิยม” ในศตวรรษที่แล้ว
แต่! แต่ไม่นานนัก มันก็บดขยี้ฝ่ายเดียวกันเองด้วย หลายประเทศจึงเปลี่ยนกลับมาสู่ระบบทุนนิยม(ตลาดเสรี) ที่เหลือรอดก็มีแค่เกาหลีเหนือ แต่ก็เดี้ยง!
ประเทศไทยก็รอดมาได้จนวันนี้ แต่เชื้อมาร์กซิสต์ยังฝังใจคนจำนวนมาก จึงแพร่ระบาดจากคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่เรื่อยมา กระทั่งวันหนึ่งลูกชายนายทุนที่ชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีฐานคิดอยู่ที่ลัทธิมาร์กซิสต์กงล้อประวัติศาสตร์หรือกงล้อแห่งกาลเวลา จึงกลับมาหมุนอยู่ในปากของพวกเขาอีกครั้ง
แต่เขาใช้คำว่า เวลา
หมายถึง “เวลาของกงล้อประวัติศาสตร์จะหมุนเข้าบดขยี้สังคมเก่า ที่เป็นซากเน่าของพวกนายทุน ขุนศึก ศักดินาให้พินาศไป” และพรรคก้าวไกลนั้นเองคือกงล้อประวัติศาสตร์!
คุณพิธานั้นประดิดประดอยวาทะ พูดเรื่องเวลาทั้งในสภาและนอกสภาบ่อยครั้ง (บางครั้งก็ใช้วลี “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง) ดังนั้นถ้าได้ยินพรรคก้าวไกลพูดถึงเวลาก็รับรู้ไว้ว่าพวกเขาหมายถึงอะไรและใคร
แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น คอยชมวันที่ 7 สิงหาคมนี้ว่า กงล้อประวัติศาสตร์จะบดขยี้พรรคก้าวไกลหรือไม่!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี