วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
มีพวกสามกีบเข้าไปคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กของผมว่า “อเมริกาไม่มีเจ้าทำไมเจริญ” ผมก็ตอบไปว่า “การสร้างประเทศนั้นแตกต่างกัน เหมือนต้นไม้ต่างพันธุ์” แล้วก็ถามกลับว่า “ลาว เขมร พม่า ที่เจ้าโดนกำจัดไปหมดแล้วทำไมไม่เจริญ” เขาตอบว่า “เพราะมันเป็นเผด็จการทหาร ไม่ใช่ประชาธิปไตย”
ผมมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย เช่น “แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า เมื่อประเทศไทยไม่มีเจ้าแล้วจะไม่มีเผด็จการ ทั้งเผด็จการพลเรือนในนามของประชาชน หรือไม่ก็เผด็จการทหาร” แต่ก็ขี้เกียจต่อปากต่อคำ เพราะเขาไม่ต้องการหาข้อสรุป แต่ต้องการเอาชนะ
ผมจึงเก็บเอาคำว่า “ประชาธิปไตย” กับคำว่า “เจริญ” มากล่าวในบทความนี้
มี “คำนิยาม” ของ 2 คำนี้มากมายจนไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรแน่ และ “ความเป็นจริง” ของคำว่าประชาธิปไตยกับความเจริญเป็นอย่างไร
ระบอบประชาธิปไตย นั้นมีความหมายไปตามใจของแต่ละคน คนไหนมีอำนาจหรือมีช่องทางส่งเสียงได้ดังกว่าคนอื่น ก็มักจะได้รับการยอมรับคำนิยามนั้น
อเมริกาก็นิยามความหมายอย่างหนึ่ง ยุโรปก็อย่างหนึ่ง รัสเซีย จีน ลาว ก็นิยามอย่างหนึ่ง กระทั่งเกาหลีเหนือก็บอกว่าประเทศตนเป็นประชาธิปไตย! หลายประเทศมีคำว่าประชาธิปไตยอยู่ในชื่อประเทศอีกด้วย
คำนิยามของคำว่าประชาธิปไตยจึงขึ้นอยู่กับประโยชน์และอำนาจของคนนิยาม
แม้อเมริกากับประเทศในยุโรปมีนิยามต่างกันบ้าง เพราะอเมริกาไม่มีกษัตริย์ แต่หลายประเทศในยุโรปมีกษัตริย์ แต่พวกเขาก็ร่วมมือกัน “ส่งออก” ประชาธิปไตยไปเป็น “เครื่องมือและอาวุธ” ล่าทรัพยากรในต่างประเทศ ด้วยการแบ่งแยกคนในประเทศนั้นๆ ให้เป็นฝักฝ่าย ซึ่งบางประเทศมีการปกครองแบบเผด็จการ บางประเทศปกครองแบบศักดินา หลายประเทศเป็นลูกผสม พวกเขาใช้คำว่า“ประชาธิปไตย” เข้าไปปั่นกระแสให้ประชาชนในประเทศนั้นๆ ต่อสู้กันเอง ตั้งแต่สู้กันทางความคิดที่แตกต่าง สู้กันจนถึงจุดเดือด เมื่อไม่มีใครฟังใครก็ลงท้ายด้วยการใช้กำลังอาวุธ เป็นสงครามกลางเมือง สงครามประชาชน บ้างก็ตั้งกองกำลังต่อสู้กันยืดเยื้อยาวนานจนประเทศชาติหายนะ ประชาชนยากแค้นแสนเข็ญ ไม่มีโอกาสได้สงบสุข
พอประชาชนแตกแยก ประเทศชาติก็อ่อนแอ ประเทศล่าทรัพยากรเหล่านั้นก็ครอบงำชักใยฝ่ายที่ตนสนับสนุนได้สบาย แต่ก็ “เลี้ยงไข้”อีกฝ่ายไว้ด้วย เพื่อคานอำนาจของฝ่ายชนะ(ประชาธิปไตย) ไม่ให้เหลิงอำนาจ
ส่วนพวกคนไทยที่กระหายอำนาจ อยากครองอำนาจของประเทศก็ยอมเป็นหมารับใช้-ขายชาตินำวิธีที่พวกประเทศเหล่านั้นมาใช้สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างเดียวกัน พูดตอกย้ำเพื่อฝังหัวคนทุกวันว่า “ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย”
ทั้งที่ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้วคือ “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แต่พวกขายชาติก็ยังตะแบงว่าเป็นเผด็จการบ้าง เป็นศักดินาบ้าง เพียงเพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์! แต่ไม่มองว่าประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ในยุโรปก็อยู่ในขบวนการล่าทรัพยากรด้วย!
พวกขายชาติเชื่อว่า “ความเจริญของประเทศต่างๆ นั้น เป็นผลจากระบอบประชาธิปไตยที่ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์” แต่คำถามก็คือประเทศอังกฤษและในยุโรปเหนือก็มีพระมหากษัตริย์ ทำไมพวกขายชาติยกย่องว่าประเทศที่เจริญแล้ว?
คำถามสำคัญก็คือ “อะไรเจริญ - เจริญอะไร?”
ถ้าไม่มีวัตถุพรั่งพร้อม ก็เรียกว่าไม่เจริญทางวัตถุ
หากใจมืดบอด โง่งม ไร้สติปัญญาก็ไม่เจริญทางปัญญา
ปัญญานี้เองที่เป็นตัวชี้ขาด ว่าสังคมหรือประเทศนั้นๆ เจริญมากน้อยเพียงใด เจริญเฉพาะแต่ทางวัตถุ แต่ผู้คนไม่มีปัญญาก็ไปไม่รอด แต่ที่รอดมาได้ก็เพราะมีคนที่มีปัญญา อย่างน้อยก็มีหัวคิดว่าอะไรควรไม่ควร ใช่หรือไม่ใช่
ความเห็นของผม...ระบอบประชาธิปไตยเป็นแค่ “ลัทธิการเมือง” ถูกประดิษฐ์ขึ้นด้วยความหวังว่าคนในสังคมจะอยู่ร่วมกันโดยปรกติสุข แต่มันกลับถูกใช้เป็นเครื่องมือแย่งชิงหรือไม่ก็แบ่งสรรปันส่วนอำนาจกันในหมู่ผู้กระหายอำนาจ มันถูกใช้ไปตามกมลสันดานของคน
ระบอบประชาธิปไตยเป็นส่วนเสี้ยวเดียวในสังคม และมันถูกนำเข้ามาเมื่อไม่นานมานี้ มันเป็นแค่เปลือกหรือเสื้อผ้าชุดหนึ่งที่คนใส่จะมีสันดานอย่างไรก็ได้ จึงต่างคนต่างก็เรียกร้อง-ต่อสู้ไปตามความเชื่อและแรงตัณหาของตน มันไม่มีนิยาม ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีความจริงใดๆ มันจึงไม่ใช่สิ่งที่จะค้ำประกันได้ว่าจะสร้างสรรค์สังคมให้ปรกติสุขได้ เพราะมันถูกทำให้เป็น “ระบอบไสยศาสตร์” ไปแล้ว
แต่ “วัฒนธรรม (ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี) และจริยธรรม” ต่างหากที่อยู่กับสังคมไทยมานาน และมันโอบอุ้มสังคมเอาไว้
ข้อพิสูจน์ที่ง่ายมากก็คือ เมื่อพวกเทิดทูนประชาธิปไตยประกาศอยู่ทุกวันว่า “ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย” แต่เพราะอะไรประเทศไทยจึงดำรงอยู่มาได้จนถึงวันนี้
คำตอบก็คือ เพราะสังคมไทยมีวัฒนธรรมและจริยธรรมที่อยู่ในใจคนจนเป็นสามัญสำนึกของสังคม ไม่ใช่ลัทธิหรือระบอบการเมืองใดๆ ที่หาความแน่นอนไม่ได้
ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ผม “ต่อสู้ด้วยความคิด”เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสถาบันกษัตริย์คือความเป็นจริงของวัฒนธรรมและจริยธรรมที่สำแดงออกโดยไม่ต้องนิยาม
วิมล ไทรนิ่มนวล

‘กรมชลประทาน’เร่งหน่วงน้ำ หลัง‘ร่องมรสุม’ทำพิษ‘น้ำเหนือ’เพิ่มสูงขึ้น
‘กล้าธรรม’ซัด‘โรม’ปั้นข้อมูลเท็จ เจตนาใส่ร้าย ลั่น‘ธรรมนัส’ไม่เกี่ยวสแกมเมอร์
ศาลรธน.ให้พยานบุคคลทำบันทึกถ้อยคำยื่นในเวลาที่กำหนดปม'ภูมิธรรม-ทวี'ยุ่งคดีฮั้วเลือกสว.
‘ไอซ์ รักชนก’ฟาด‘ไผ่’ชาวบ้านรู้ทั้งเมือง ใครอยู่เบื้องหลัง‘สลากกินแบ่งรัฐบาล’
'อนุทิน'บอก'เหรอ'หลัง พท.เปิดตัวบ้านใหญ่'อัศวเหม' โยน'ก.คลัง'แจง ปมโควตาสลากคนพิการ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี