ลิซ่าได้ขึ้นเวทีที่ผู้คนยกย่องกันว่า “ระดับโลก” การแต่งตัวของลิซ่าตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม เครื่องประดับ ท่าเต้นก็เป็นศิลปะที่ได้รับการยกย่องว่า “ระดับโลก”ผมจึงพยายามทำความเข้าใจคำว่า “ศิลปะ” กับคำว่า “ระดับโลก” รวมถึงคำว่า “วัฒนธรรม” ด้วย
ผมไม่มีปัญหากับลิซ่า ผมก็ชื่นชมเธอในด้านที่มีความวิริยะจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ เป็นอาชีพที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้เธออย่างมหาศาล ซึ่งก็เป็นเรื่องของเธอ เรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้จึงไม่เกี่ยวกับเธอโดยตรง แต่จะพูดถึงคนที่เหยียดหยามคนอื่นที่ไม่ชอบการแต่งตัวและท่าเต้นของเธอ ว่าไม่เข้าใจศิลปะระดับสากล ไม่เข้าใจว่าลิซ่าก้าวไปสู่ระดับโลกแล้ว ไม่ใช่ในระดับท้องถิ่น (ประเทศไทย) จึงต้องแต่งตัวและเต้นด้วยท่าระดับโลก
ผมเห็นว่าคนที่ดูถูกเหยียดหยามคนที่เห็นต่าง ก็ดูถูกเหยียดหยามวัฒนธรรมไทยไปด้วย ว่าเป็นแค่วัฒนธรรมท้องถิ่น อยู่ในกรอบเดิมๆ บางคนบอกว่าล้าหลัง อย่างเดียวกับที่สามกีบด่าสลิ่มว่า “โลกไปถึงไหนแล้ว” แปลว่ายังโง่งมอยู่อย่างเดิม
คำว่า “ระดับโลก” กลายเป็นยันต์อุดปากทุกคนที่เห็นต่าง
ผมจึงต้องนิยามคำว่า “ศิลปะ” และ “ระดับโลก” ว่าคืออะไรและเป็นอย่างไร เพราะไม่มีนิยามก็ต่างคนต่างพูดกันไปสารพัดประเด็น อย่างที่เคยเกิดขึ้นเสมอมา
“ศิลปะ” ตามนิยามที่ยอมรับกันนั้นหมายถึง การสร้างสรรค์งานที่เป็นสิ่งที่จรรโลงใจ เป็นแรงบันดาลใจ ชวนตระหนักในความงาม ความดี และความจริง ทั้งหมดนี้เป็นความหมายในทางดีงามทั้งนั้น
เมื่อรู้ความหมายของคำว่าศิลปะแล้วก็ย่อมพิจารณาได้เองว่าการแต่งกายและท่าเต้นของลิซ่านั้นเป็นศิลปะหรือไม่ หรือเป็นแค่ความบันเทิง ความบันเทิงไม่จำเป็นต้องมีศิลปะเสมอไป
“ระดับโลก” คำนี้มีความหมายว่า คนทั่วโลกยอมรับร่วมกันในความสูงส่งของสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด เมื่อมองแคบเข้ามาที่การแต่งกายและท่าเต้นของลิซ่า ไม่ว่ามันจะเป็นศิลปะหรือไม่ จึงต้องถามว่าคนทั่วโลกได้กำหนดร่วมกันไหมและยอมรับความสูงส่งนั้นร่วมกันไหม?
ผมตอบได้เลยว่า “ไม่” เพราะในสังคมไทยก็ยังมีความเห็นแตกต่างกัน จนเกิดการดูถูกเหยียดหยามกัน ว่าใครโง่ใครฉลาด ใครรู้และเข้าถึงศิลปะระดับโลกหรือไม่
เอาเฉพาะกรณีการแต่งกายและท่าเต้นของลิซ่านี่แหละ ใครเป็นผู้กำหนด? ใครเป็นผู้สร้าง? ตั้งแต่การจัดงาน ผู้จัด ชื่องาน ใครเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ คำตอบคือฝรั่งชาวตะวันตก
ดังนั้น “ความเป็นระดับโลก” จึงถูกกำหนดขึ้นโดยชาวตะวันตกเพียงหยิบมือเดียว เพราะเขาเป็นผู้มาก่อน เป็นผู้บุกเบิก เป็นผู้สร้างสินค้าและสร้างมาตรฐานของมัน การสร้างราคาของสินค้า รวมทั้งการตลาด หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์สารพัดวิธีและรูปแบบ ส่วนชาวโลกอื่นๆ โดยเฉพาะชาวโลกในประเทศที่กำลังพัฒนาและชาวโลกในประเทศที่ด้อยพัฒนา ก็ได้แต่ชื่นชมคนมีเงินก็ซื้อมาชื่นชมและยกระดับรสนิยมตัวเอง ส่วนคนไม่มีเงินซื้อแต่อยากได้ ก็แหงนคอชะเง้อมองด้วยความใฝ่ฝัน จึงยิ่งทำให้สินค้านั้นสูงส่งมีราคายิ่งขึ้นอีก เป็นราคาแห่งอุปทาน
เมื่อมันสร้างและลวงความรู้สึกคนว่ามันสูงส่ง คนก็ยกย่องมันเสียเลิศลอยว่ามันเป็นระดับโลก อะไรต่อมิอะไรก็ดีงามไปหมด ไม่ว่ามันจะดีจริงหรือไม่ เป็นศิลปะระดับโลกจริงหรือไม่
คนไทยจำนวนมากจึงถูกฝรั่งเพียงหยิบมือเดียวครอบงำไว้ เขาทำเขาบอกอะไรก็เชื่อตาม เห็นว่าของเขาดีหมด ทั้งศิลปวัฒนธรรม กระทั่งการแต่งกายและท่าเต้น ไม่ว่าจะตรงกับความหมายของคำว่าศิลปะหรือไม่ ส่วนศิลปวัฒนธรรมไทยกลับเห็นว่าล้าหลัง เป็นแค่ระดับท้องถิ่น ตามโลกไม่ทัน ทั้งที่ลึกซึ้ง มีคุณค่า
“ความเป็นระดับโลกจึงคือฝรั่ง เป็นของฝรั่ง” คนไทยจำนวนมากก็ได้แต่อวย โดยไม่ต้องแยกว่า “มันเป็นสินค้าและการตลาดหรือเรื่องศิลปะ”
คนที่เชื่อว่าฝรั่งคือระดับโลก จึงต้องดิ้นรนจะไปสู่ระดับโลก ต้องพยายามทำตามอย่างฝรั่งเพื่อให้ฝรั่งยอมรับ แม้แต่ตัวลิซ่าเองก็ด้วย คนที่ไปไม่ได้ก็อวย เพราะฝรั่งไม่เอาศิลปะและวัฒนธรรมไทยไปใช้ ถ้าไม่ทำเงินและไม่สร้างแบรนด์ของเขา
ขณะที่คนไทยถูกคนตะวันตกและวัฒนธรรมตะวันตกครอบงำอย่างไม่รู้ตัวคนไทยเองก็บ่อนเซาะศิลปะและวัฒนธรรมของตนให้พ่ายพังไปด้วย ด้อยค่าให้เป็นแค่ของท้องถิ่น เช่นเดียวกับทุกเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ปรัชญา การศึกษา ศิลปะ เทคโนโลยี จนลืมไปว่าทุกชนชาติมีศิลปวัฒนธรรมและอารยธรรมของตนเองเป็นรากฐานของสังคม
เมื่อรากฐานของสังคมผุพังเพราะคนในชาติด้อยค่าหรือหลงลืม สุดท้ายคนไทยจะเหลืออะไรที่มีคุณค่าพอที่จะภูมิใจประเทศชาติของตัวเอง?
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี