แม้พรรคเพื่อไทยยุบสภาไม่ได้ แต่ข้อตกลงระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนก็จะยุบภายใน 4 เดือนข้างหน้า ซึ่งกว่าจะมีการเลือกตั้งจริงก็ปีใหม่แล้ว
แต่ก็ไม่มีพรรคไหนอยากยุบ ยกเว้นพรรคประชาชนเท่านั้นที่อยากให้ยุบ พรรคเพื่อไทยอยากยุบก็เพราะแค้นที่ตนไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล
มีคำถามเกิดขึ้นและก็มีคำตอบบ้างแล้ว่าทำไมพรรคประชาชนจึงอยากให้ยุบสภา
คอการเมืองพูดกันมาตลอดว่าพรรคประชาชนอยากให้ยุบสภานั้น เพราะพรรคของตนไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีคนค้านว่าแม้ไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็เป็นรัฐมนตรีได้ แม้จะหาคนเหมาะสมสักคนก็ยังไม่มี แต่ก็ถือว่าเมื่อแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แค่เป็นรัฐมนตรีได้ใครก็เป็นได้!
คำถามต่อมาคือ ทำไมพรรคประชาชนจึงมั่นใจว่าพรรคของตนจะกลับมาครองเสียงอันดับ 1 อีกครั้ง ทั้งที่ในปัจจุบันได้สูญเสียคนที่เคยเลือกพรรคของตนไปจำนวนมหาศาล จนคิดกันว่าถ้าเลือกตั้งวันนี้พรรคประชาชนจะเสียคะแนนเสียงเดิมไปเกินครึ่ง
แม้พรรคประชาชนจะสูญเสียเสียงที่เคยสนับสนุนพรรคของเขา แต่พรรคการเมืองอื่นๆ ทุกพรรคก็สูญเสียเช่นกัน แต่พรรคประชาชนจะมีเติมเข้ามาใหม่จากผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก ซึ่งก็เดายากว่าจะมากน้อยแค่ไหน แต่พรรคประชาชนต้องมั่นใจว่ามากกว่าครึ่ง เพราะธรรมชาติของคนอายุน้อยหรือเป็นคนรุ่นใหม่นั้นไม่ค่อยสนใจการเมือง ที่สนใจก็นับว่าน้อย และส่วนมากก็เชียร์พรรคประชาชน
พวกเขาไม่ผูกพันกับรากเหง้าของบรรพชน ทั้งวัฒนธรรมและสถาบันหลักของชาติ การเลือกเสพของกินของใช้ รวมทั้งความบันเทิงต่างๆ ในชีวิตประจำวันก็เป็นไปตามความอยากและตามกระแส เหมือนจะอวดว่าตนไม่ได้ “ตกเทรนด์” การเลือกตั้งก็ใช้วิธีคิดเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องดู “ตื้นลึกหนาบาง” ของการเมืองและนักการเมือง
ประการสำคัญ พรรคประชาชนนั้นเข้าไป “บรรยาย” ตามสถานศึกษาอยู่เนืองๆ แถมยังมีผู้สอนในระดับมัธยมศึกษา กระทั่งในระดับอุดมศึกษาต่างก็ช่วยกันปลูกฝังกล่อมเกลาผู้เรียนให้นิยมชมชอบพรรคประชาชนมาก่อนแล้ว
เหตุผลอย่างที่ 2 พรรคการเมืองทุกพรรคเป็นพรรคเก่า ตัวนักการเมืองส่วนมากก็เก่า ส่วนคนใหม่ๆ มีการศึกษาสูงส่วนมากก็สืบทอด “มรดกอำนาจ” มาจากคนรุ่นพ่อแม่ เป็นตัวตายตัวแทนและก็อยู่ในพรรคเก่าของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่คนที่เคยเลือกพรรคเก่าและนักการเมืองเก่าเหล่านี้ ส่วนมากก็เบื่อหน่ายกับการทำงานของพวกเขาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซ้ำยังขยันสร้างแต่ปัญหาไม่รู้จบสิ้น จนกลายเป็นว่าพวกเขาเป็นตัวปัญหาของประเทศชาติเสียเอง คนที่เบื่อหน่ายนักการเมืองเหล่านี้ย่อมมองหาพรรคการเมืองและนักการเมืองใหม่ทั้งพรรค ซึ่งตอนนี้ก็มีแต่พรรคประชาชนเท่านั้น
แม้พรรคนี้จะเป็นฝ่ายค้านจะไม่มีฝีมือค้านอะไรเลย แต่คนจะเลือกก็คิดหลอกตัวเองได้ว่าพวกเขาเคยทำงานการเมืองมาแล้ว 6 ปี ได้เรียนรู้ผิดหรือถูกมาแล้ว ก็น่าจะดี!
ดีกว่าเลือกพรรคการเมืองหน้าเก่าสนิมจับเขลอะ ซึ่งก็ไม่มีผลงานอะไรเช่นกัน!
พวกที่เกลียดพรรคประชาชนก็มีตัวเลือกอยู่แค่ “พรรคไทยภักดี” เท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะมีนักการเมืองหน้าใหม่ที่ “น่าสนใจ” หรือไม่ และจะลงสนามเลือกตั้งเต็มพื้นที่มากน้อยแค่ไหนแต่เท่าที่ฟังเสียงมาตลอด 2 ปี ผู้ที่ผิดหวังจากนักการเมืองพรรคอื่นก็ประกาศว่าจะเลือกพรรคไทยภักดี
เหตุผลอย่างที่ 3 พรรคประชาชนนั้นเชี่ยวชาญเรื่องการใช้เทคโนโลยี ใช้เครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย และสร้างคอนเทนต์ รวมทั้งสร้างวาทะต่างๆ ได้โดนใจคนรุ่นใหม่เสมอมา การหาเสียงด้วยเวทีที่หรูหราอลังการและทันสมัย สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่คนรุ่นใหม่ จึงได้รับคะแนนเสียงอย่างชวนตะลึงมาแล้ว และครั้งนี้พวกเขาย่อมไม่พลาด และเชื่อว่าได้เตรียมตัวไว้ดี ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าให้ยุบสภา ส่วนจะโดนใจอย่างเดิมหรือไม่ต้องคอยชม
เหตุผลอย่างที่ 4 นโยบายประชานิยมที่สู้กับพรรคอื่นได้สบาย แถมมีจุดแข็งคือนโยบาย “รัฐสวัสดิการ” ที่ปล่อยข่าวมานานจนฝังหัวคนรุ่นใหม่ไปแล้วว่า “ทำงานสบาย ทำงานน้อย เงินมาก” โดยไม่ต้องสนใจว่ามีเงินพอทำได้หรือไม่ จะเอาเงินมาจากไหน จะต้อง “ขยายฐานภาษี” และ “เก็บภาษีเพิ่ม” อีกเพียงใด
แต่เหตุผลทั้งหมดนี้พรรคประชาชนจึงเชื่อมั่นว่าพรรคของเขาจะมาเป็นอันดับ 1 อย่างเดิม ส่วนคนไทยทั้งประเทศก็จะปวดหัวยิ่งกว่าเดิม!
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี