อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (Urinary incontinence) สามารถพบได้ร้อยละ 30-40 ในประชากรเพศหญิง ภาวะไอจามปัสสาวะเล็ด(Stress urinary incontinence) เป็นหนึ่งในปัญหาดังกล่าวที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและการเข้าสังคม แต่ไม่ทำให้เกิดความรุนแรงถึงชีวิต ซึ่งการรักษาหลักในปัจจุบันยังคงเป็นการผ่าตัดนับตั้งแต่อดีต มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดอย่างมากมาย ในปี ค.ศ.1995 ได้เริ่มมีการนำแผ่นตาข่ายสังเคราะห์มาช่วยในการผ่าตัดใส่ผ่านทางช่องคลอด (synthetic mesh) มีการติดตามผลการรักษาในระยะต่อๆ มา พบว่าช่วยให้ผู้ป่วยหาย หรือดีขึ้นจากภาวะดังกล่าว มากกว่าร้อยละ 70 การผ่าตัดดังกล่าวจึงเป็นที่นิยมทำมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถทำได้ง่ายเจ็บปวดน้อยและฟื้นตัวไวแต่ในปัจจุบัน พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดใส่แผ่นตาข่ายสังเคราะห์ไปแล้ว ร้อยละ 10 เริ่มมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นๆ หายๆ ปัสสาวะออกลำบาก ปัสสาวะราดจากกระเพาะปัสสาวะทำงานไวเกิน ปวดเจ็บอุ้งเชิงกรานหรือขาหนีบเรื้อรัง แผ่นตาข่ายสังเคราะห์ทะลุเข้าไปในท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะทำงานบกพร่องจนส่งผลให้ไตวาย และอื่นๆ อีกมากมาย ส่งผลให้คุณภาพของผู้ป่วยแย่ลงอย่างมากเมื่อเทียบกับก่อนผ่าตัด นอกจากนี้การแก้ไขสามารถทำได้ยากและผลการรักษามักจะออกมาไม่ดี ในปี ค.ศ. 2008 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำเตือนครั้งแรกเกี่ยวกับปัญหาจากการผ่าตัดใส่แผ่นตาข่ายสังเคราะห์ทางช่องคลอดซึ่งพบได้มากขึ้นเรื่อยๆ และมีคำเตือนออกมาอีกหลายครั้ง ปี ค.ศ. 2015สหภาพยุโรปได้ออกคำเตือนเช่นเดียวกันจนกระทั่งปี ค.ศ. 2017 และ 2018 ประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ ได้ประกาศห้ามทำการผ่าตัดใส่แผ่นตาข่ายสังเคราะห์ผ่านทางช่องคลอด และให้กลับมาทำการติดตามศึกษาโดยละเอียด
สำหรับในประเทศไทยยังไม่มีการประกาศระงับใช้อุปกรณ์ดังกล่าว แต่เริ่มพบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาใดดีไปกว่าการผ่าตัด ดังนั้นหากแพทย์ได้ทำการตรวจประเมินเลือกผู้ป่วยและเลือกวิธีการผ่าตัดอย่างเหมาะสมผู้ป่วยจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการผ่าตัดเพื่อหลีกเลี่ยง และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนภายหลังการผ่าตัด การเลือกผู้ป่วยก่อนการผ่าตัดจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยผู้ป่วยที่มีภาวะไอจามปัสสาวะเล็ด ร่วมกับประวัติที่สงสัยว่ากระเพาะปัสสาวะอาจจะมีการทำงานที่ผิดปกติ ได้แก่ผู้ป่วยที่มีปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ปัสสาวะเป็นเลือดเคยได้รับการฉายรังสีบริเวณอุ้งเชิงกราน เคยได้รับการผ่าตัดเนื้องอกในอุ้งเชิงกราน กระบังลมหย่อนมาก มีการทำงานหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทบกพร่อง เช่น เบาหวานที่ทำให้ระบบประสาทผิดปกติ กระดูกไขสันหลังทรุดหรือเคลื่อน จำเป็นต้องได้รับการตรวจประเมินอย่างละเอียด และคุยกับแพทย์ผู้ให้การรักษาถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้น แนวทางแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนเมื่อผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดใส่แผ่นสังเคราะห์ผ่านทางช่องคลอดเพื่อแก้ไขภาวะไอจามปัสสาวะเล็ด แล้วสงสัยว่าตนเองอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น ควรกลับไปปรึกษาแพทย์ที่ได้ทำการผ่าตัด เพื่อให้การตรวจประเมินและแก้ไขอย่างเหมาะสม สำหรับในอนาคตจำเป็นต้องมีแนวทางการประเมินผู้ป่วยที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม มีการพัฒนายาหรือเทคนิคการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงน้อย ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยง่าย เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีภาวะไอจามปัสสาวะเล็ดได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุด ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นตามเป้าหมายของการมารับการรักษา
แหล่งอ้างอิง: ผศ.นพ.ภควัฒน์ ระมาตร์
สมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์
ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี