Gallstones หรือ gall bladder stones คือ นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในมนุษย์เกิดขึ้นได้ใน 2 ระบบ คือ ระบบทางเดินน้ำดี คือในถุงน้ำดี หรือท่อน้ำดี และนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ คือในไต (kidney หรือ renal) ท่อปัสสาวะ (ureter) กระเพาะปัสสาวะ (bladder)
วันนี้จะขอพูดถึงนิ่วในระบบทางเดินน้ำดี
สาเหตุของนิ่วเกิดมาจากอะไร ปัจจุบันนี้คิดว่าน้ำดีที่ผลิตออกมาจากตับและไหลมาอยู่ถุงน้ำดี มี cholesterol (คอเลสเตอรอล) มากไป ปกติ cholesterol ละลายอยู่ได้ในน้ำดีด้วยการควบคุมของเกลือน้ำดี แต่ในกรณีที่ bile salts (เกลือน้ำดี) ในน้ำดีมีน้อย หรือผิดปกติ และหรือ cholesterol มีมากไป เกลือน้ำดีจึงไม่อาจละลายให้ cholesterol อยู่ในน้ำดีได้ cholesterolจึงตกตะกอนเป็น crystals และต่อมาเป็นนิ่ว
หรือร่างกายผลิตสาร bilirubin มากไป bilirubin เป็นสารที่มักเกิดจากการทำลายเม็ดเลือดแดงมากเกินไป หรือมีการผลิตbilirubin มากไป เช่นในกรณีของตับแข็ง การติดเชื้อของระบบทางเดินน้ำดี ฯลฯ
หรือถุงน้ำดีไม่ค่อยบีบตัวให้น้ำดีออกให้หมด หรือบีบน้อยมาก ทำให้น้ำดีตกเหลืออยู่ในถุงน้ำดี จึงทำให้มีความเข้มข้นและตกตะกอนเป็นนิ่ว
นิ่วอาจเป็นแบบ cholesterol ซึ่งพบบ่อยที่สุด มักเป็นสีเหลืองและต่อไปจะมี calcium มาเกาะ หรือแบบ pigment gallstones ซึ่งมาจาก bilirubin และมักเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำ
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่วในระบบทางเดินน้ำดี คือ ผู้หญิงอายุเกิน 40 ปี น้ำหนักเกินหรืออ้วน ไม่ค่อยออกกำลังกาย ตั้งครรภ์หลายครั้ง (ช่วงนี้ถุงน้ำดีไม่ค่อยบีบตัว) กินอาหารที่มีไขมันมาก อาหารที่มี cholesterol สูง มีกากน้อย มีประวัตินิ่วในครอบครัว เป็นโรคเบาหวาน เป็นโรคเลือดบางชนิด เช่น sickle cell anaemie, leukemia, ลดน้ำหนักเร็วเกินไป (ไม่ควรลดมากกว่า 1 กก./สัปดาห์) กินยาบางอย่างที่มีฮอร์โมนเพศหญิง, estrogen เช่น ยาป้องกันการตั้งครรภ์ หรือการกินฮอร์โมนเพื่อการรักษาโรคต่างๆ
วิธีป้องกันนอกเหนือจากข้างบน คือ อย่าอดอาหารไปหนึ่งมื้อหรืออดอาหารนานๆ ควรกินอาหารตามเวลาที่เคยกิน ถ้าอดอาหารนานๆ จะมีความเสี่ยง (ถุงน้ำดีไม่บีบตัว) ต้องลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป ช้าๆ กินอาหารที่มีกากมากๆ เช่น พืช ผัก ผลไม้ ฯลฯรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสมด้วย กินน้อยลง ออกกำลังกายมากขึ้น
อาการของนิ่วในระบบทางเดินน้ำดี อาจไม่มีอาการอะไรเลย แต่ถ้านิ่วไปอุดตันท่อน้ำดีของถุงน้ำดี หรือท่อน้ำดีรวม ฯลฯ อาจทำให้มีอาการต่างๆ ได้ เช่น มีอาการปวดท้องขึ้นมาทันทีทันใด และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ อาการปวดอาจอยู่ที่ใต้ชายโครงขวา หรือตรงลิ้นปี่ อาจปวดที่หลังระหว่าง 2 ไหปลาร้า หรือไหล่ขวา อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาจจะมีตาเหลือง (jaundice) ตัวเหลือง อาจมีไข้หนาวสั่น (โลหิตเป็นพิษ หรือมีเชื้อโรคอยู่ในกระแสเลือด septicemia)
มีนิ่วต้องผ่าตัดออกไหม?
ถ้าพบนิ่วโดยบังเอิญ โดยไม่มีอาการอะไรเลยจริงๆ มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าทิ้งไว้ได้ เพราะโอกาสที่จะมีภาวะแทรกซ้อนน้อยมาก นิ่วอาจทำให้เป็นมะเร็งของถุงน้ำดีได้ แต่ต้องนานมาก และมีโอกาสเป็นน้อยมาก
เมื่อไหร่จึงจะต้องผ่าตัด ถ้าปวดท้องรุนแรง มีไข้ หนาวสั่น ตัวเหลือง ตาเหลือง แน่นอนต้องผ่าตัด
แต่ถ้ามีนิ่ว และไม่มีอะไรเลยจริงๆ ไม่ต้องผ่าก็ได้
แต่ต้องรู้จักคำว่า biliary colic คือ อาการปวดที่ใต้ชายโครงขวาหรือลิ้นปี่ ที่ปวด แบบแน่น ขึ้นมาทันที รุนแรง อาจเป็นระยะเวลาไม่กี่นาที จนถึงหลายชั่วโมง คำว่า biliary (ระบบทางเดินน้ำดี) colic (การบีบตัวของอวัยวะ) ปกติหมายความว่ามีอาการปวดท้องแบบจี๊ดแล้วหาย แล้วเป็นอีก เช่น เวลาเรากินอะไรที่ทำให้ท้องเสีย ลำไส้บิด เราจะปวดแบบจี๊ดๆ เป็นๆ หายๆ อยู่ระยะหนึ่ง แต่ในกรณีของ colic ของระบบทางเดินน้ำดี จะไม่ปวดแบบจี๊ดๆ ตามที่เราเข้าใจและเรียกกัน แต่จะปวดแบบแน่นมากๆ รุนแรงแต่ไม่จี๊ดๆฉะนั้นคำว่า “colic” ในกรณีนี้จึงไม่ถูกต้องนัก
ถ้ามีประวัติปวดท้องแบบ biliary colic ต้องผ่าตัด เพราะเป็นการเตือนแล้วว่าต่อไปเราอาจจะเป็นมากกว่านี้ อาจจะเป็นไข้สูงหนาวสั่น ตัวเหลืองตาเหลือง ฯลฯ แต่ถ้ามีนิ่วและไม่มี biliary colic ปล่อยไว้น่าจะปลอดภัยพอสมควร รอจนมี biliary colic ก่อนแล้วค่อยทำผ่าตัดก็ได้
แต่อย่างไรก็ตาม ควรดูเป็นรายๆ ไป เช่น เราอายุเท่าไหร่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยไหม ไปประเทศไหน การแพทย์เป็นอย่างไร ถึงการแพทย์ดี แต่การเข้าถึงระบบสาธารณสุขอาจยาก ลำบากและอาจมีราคาแพง ถ้าเราต้องเดินทางบ่อย และไปต่างประเทศ เราควรพิจารณาเอานิ่วออก เพราะการที่เราจะ “รบ” กับใคร รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บ เราควรเลือกสถานที่ ภูมิลำเนา วันเวลา เลือกหมอเองด้วยอาจจะต้องพิจารณาเอานิ่วออกในยามที่เราสบายดี และโบนัสอีกอันคือ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าถุงน้ำดีจะกลายเป็นมะเร็ง ถึงแม้จะมีโอกาสน้อยมากก็ตาม
ปัจจุบันนี้ การผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกเป็นเรื่องเล็กมาก ไม่ต้องผ่ามีแผลใหญ่เหมือนสมัยก่อน จะผ่าตัดด้วยการใช้กล้องผ่านรูเล็กๆ ไม่กี่รูบนหน้าท้อง หลังผ่าขนาดใส่ bikini ยังไม่มีใครเห็นแผลเลย!!
ยาสลายนิ่วพูดอย่างสรุปว่าไม่มี
บางครั้งนิ่วอาจอยู่ในถุงน้ำดีและยังมีส่วนหนึ่งที่หลุดเข้าไปในระบบทางเดินน้ำดี (ท่อน้ำดี) ทำให้เกิดการอุดตัน สมัยนี้อายุรแพทย์(และศัลยแพทย์) สามารถใส่กล้องผ่านปาก เข้าไปล้วงเอานิ่วที่อยู่ในท่อน้ำดีออกมาได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี