ด้วยความที่ว่าคุณพ่ออยากให้ผมเรียนแพทย์ และผมอยากตอบแทนพระคุณท่าน ผมจึงย้ายตัวเองออกจากโรงเรียน Lindisfarne College ที่ไม่เอาไหนทางด้านวิชาการ ไปเข้าโรงเรียนกวดวิชาที่มีชื่อว่า Applegarth ที่ตั้งอยู่ที่เมืองเล็กๆ ชื่อ Godalming ใน County Surrey (County แปลว่าจังหวัด ไม่ใช่ Country ที่แปลว่าประเทศ-แต่จังหวัดไทยเรียกภาษาอังกฤษว่า province ของอเมริกาเรียก State!? ยุ่งกันไปใหญ่) Godalming เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ใต้ลอนดอนห่างออกไปประมาณ 30 ไมล์ (48 กม.) ทางตะวันตกเฉียงใต้เป็น market town (เมืองตลาด) มีแม่น้ำ Way และ Ockมาจ๊ะเอ๋กันที่นี่ มีประชากร 2 หมื่นกว่าคนเท่านั้น (ตอนนี้)
Applegarth เป็นโรงเรียนเล็กๆ มีนักเรียนไม่กี่สิบคนอยู่ใน Godalming ซึ่งเล็กเช่นเดียวกัน อยู่ในพื้นที่สีเขียวที่สวยงามมาก มาจากลอนดอนก่อนจะถึง Godalming จะต้องผ่านเมือง Guildford ซึ่งเป็นเมืองใหญ่กว่า Godalming และที่อยู่ห่างจากลอนดอน 27 ไมล์ หรือ 43 กม.จาก Guildford ไป Godalming ทางรถไฟ ใช้เวลาเพียง 8 นาที ผมจำไม่ได้ว่าจากสถานีรถไฟจะไปโรงเรียนไปอย่างไร ไกลแค่ไหน แต่ก็คงไม่ไกล เพราะเมืองเล็กอยู่แล้ว เปิดหาดูโรงเรียนก็ปรากฏว่าไม่พบแล้ว โรงเรียนเจ๊งไปอีกแล้ว ผมอยู่ที่ไหนรู้สึกว่าโรงเรียนนั้นจะเจ๊งไปทุกแห่ง!?
โรงเรียน Applegarth เป็นเหมือนบ้าน อยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เล็กที่ทำให้มีความร่มรื่น หน้าต้นไม้เปลี่ยนสีจะสวยงามมากหน้าร้อนอากาศจะสบายมาก หน้าหนาวก็ไม่หนาวมาก จากโรงเรียนมีถนนเล็กๆ รถวิ่งได้ ไปยังบ้านพัก ที่บ้านพักเท่าที่ผมจำได้มีเพื่อนจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเก่าชื่อศักดา และชาวพม่า 1 คน ศักดานี่เก่งมากเตรียมตัวเพื่อจะเข้า Cambridge เห็นเขานั่งขีดๆ เขียนๆ เกี่ยวกับเลขทั้งวัน รู้สึกว่าเขาสอบเข้า Cambridge ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสอบ “A” (Advanced) level สมัยผมจะเข้า Cambridge ได้ โดยทั่วๆ ไปจะต้องมี “A” level GCE (general certificate of education) grade A 4 วิชา ในระหว่างที่ชาวบ้านอย่างผมต้องสอบได้ “A” level 3 วิชาที่มหาวิทยาลัยต้องการก็เข้าแพทย์หรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ ได้ สมัยผม A level ไม่มี grade A star มีแต่ grade A สูงสุดแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ต้องได้ A star รู้สึกว่าเข้าแพทย์สมัยนี้ต้องได้ A level 3 วิชา Grade A เป็นอย่างน้อย ไม่ต้องถึง A star แต่ถ้าได้ A star ยิ่งดีและต้องได้อย่างน้อย 5 วิชาในระดับ GCSE ที่ Grade A หรือ A star โดยต้องมีวิชา Maths, English รวมอยู่ใน 5 วิชานี้ และอย่างน้อยได้ Grade B ในวิชาวิทยาศาสตร์ ถ้าได้ AAB ที่ระดับ “A” level ก็แทบจะเข้าแพทย์ไม่ได้แล้ว สมัยผม ที่คณะแพทย์บางแห่งที่ลอนดอนได้ A level 3 วิชาที่ grade C ก็เข้าได้แล้ว เดี๋ยวนี้ standard สูงกว่าสมัยผมมาก หรือว่าคะแนนมันเฟ้อเกินไป เพราะผมเห็นเด็กที่ได้ A star 8-9 วิชาและสอบครั้งเดียว ฯลฯ ก็ไม่ได้ฉลาดมากมายอะไร
ก่อนไป Applegarth ผมสอบ “O” level หรือ Ordinary level ของ GCE ได้แล้วหลายวิชา เช่น English Literature, Maths, Physics (ความจริงการที่ผมสอบได้ “O” level physics แล้วแสดงว่าผมมีการพัฒนาขึ้นบ้างแล้ว จากเดิมที่ได้ 14% อย่างสม่ำเสมอ!?), Chemistry, Biology, Art, History, ภาษาไทย ฯลฯ แต่ยังสอบ “O” level English language ไม่ได้ แต่ถึงแม้สอบได้หลายวิชา ผมไม่ได้สอบได้ทั้งหมดทุกวิชาในการสอบทีเดียวกัน แต่ใช้การสอบ 2-3 ครั้งจึงได้ทั้งหมด สมัยนี้ต้องสอบทีเดียวให้ได้หมด ถ้าสอบหลายครั้งจึงจะได้หลายวิชาถือว่าไม่เก่ง อย่างหลานชายผม 2 คน และเด็กๆ หลายคนที่ผมรู้จัก สอบ 8-9 วิชาในคราวเดียวเท่านั้น และได้ A stars กันทั้งนั้น ผมยังทึ่ง แต่ปรากฏว่าต่อมาก็เข้ามหาวิทยาลัยได้ในระดับเดียวกับผมเท่านั้น ไม่ได้ดีกว่าผมเลย ส่วนของผมจำไม่ได้ว่า “O” level ได้ grade อะไร คงผ่านเท่านั้นมั้งครับ ดีใจที่เกิดมาในสมัยโน้น!? แต่สมัยโน้นการให้คะแนนก็ยังหินมาก จำได้ว่าคะแนนผ่านของ “A” level เป็นเพียง 40% ไม่มีใครทำได้ 90-100% เหมือนบ้านเรา 70% ก็ถือว่า grade A แล้ว
แต่ผมไม่ชอบเอาแต่เรียน ผมแบ่งเวลาสำหรับเล่นกีฬาด้วยยังเตะฟุตบอลให้ทีมโรงเรียน (555 เพราะโรงเรียนหาคนไม่ได้ มีนักเรียนไม่กี่สิบคน) เตะกับนักเรียนจากโรงเรียน public school ที่มีชื่อมาก คือ Charterhouse สมัยโน้นผมเป็นคนทำอะไรเร็ว (เดี๋ยวนี้ก็ยังเร็วอยู่พอสมควร อย่างน้อยก็ทางใจ) วิ่ง ออกตัวเร็ว แต่หมดแรงเร็ว!? ผมจึงรีบฉวยโอกาสก่อนคู่ต่อสู้จะรู้ตัว ด้วยการยิงประตูภายใน 10-15 นาทีแรกแล้วก็หมดแรง!? 555 เนื่องจากผมเป็นคนออก start เร็ว จึงใช้วิธีการเสี่ยงดวง ใครดีใครอยู่ คือ ผมเล่นเป็นกองหน้า (แต่ไม่ชอบโหม่ง กลัวสมองพัง) ผมเลี้ยงลูกไปทางประตูเขา พอกองหลังจะมาสกัดผม ผมก็เตะลูกไปครึ่งทางระหว่างเขากับผม กองหลังเขานึกว่าผมเตะไกลตัวไปจึงเร่งตัวจะเข้ามาแย่งลูก แต่ผมเร็วกว่า(ส่วนใหญ่)ผมก็เลย speed ไปถึงลูกก่อน แล้วเลี้ยงหลบกองหลังไปยิงเลย ขี้เกียจเลี้ยงหลบตั้งแต่ต้นยากกว่า เพราะกองหลังยังไม่ถลำตัว สู้เสี่ยงดวงเอา ใครเร็วใครได้ แกล้งทำให้คู่ต่อสู้ commit ตัวเองก่อน ตอนสมัยอยู่ Lindisfarne เล่นรักบี้ผมวิ่งจะไปวาง try มีนักรักบี้จากอีกข้างจะมาสกัดผม ผมค่อนข้างจะถนัดทั้งมือและเท้า จึงเดาะบอลข้ามหัวเขาและวิ่งอ้อมไปรับ รับได้บ้างไม่ได้บ้าง (ส่วนใหญ่ไม่ได้ 555) แต่ก็ดูสวย หลักการดี และสนุกดี เสียดายตอนนั้นไม่มีเด็กนักเรียนสาว(สวย)ไปเชียร์ มิฉะนั้นผมคงมีแฟนเยอะเลย 555 โรงเรียนมีแต่ผู้ชาย!?
เสาร์ อาทิตย์ ผมก็ออกจากโรงเรียนไปพักที่ Hastings, Sussex (อยู่ติดทะเล) บางช่วงก็ที่ St.Leonards-On-Sea ใกล้ๆ กัน ที่ๆ ผมและเพื่อนๆ มักไปพักช่วงปิดเทอม จำไม่ค่อยได้แน่นอนว่าช่วงนั้นมีแฟนหรือยัง แฟนแบบเด็กวัยรุ่น เจอะ ได้คุย ก็หัวใจบานแล้ว ได้จับมือก็จะตายเอา?! แต่คิดว่ามีแล้ว เพราะมิฉะนั้นคงไม่ไป (Hastingsอยู่ใต้ Godalming ไม่ไกลมาก 91 กม. หรือ 57 ไมล์ ทางตะวันออกเฉียงใต้) ชื่อ Margaret เพราะต่อมาเป็นคนที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้าเรียนแพทย์ที่ Leeds ผมใช้เวลาเรียนอยู่ที่ Applegarth เพียง 1 ปี ในระดับชั้นที่เรียกว่า sixth form ที่ปกติใช้เวลาเรียน2 ปี เรียกว่าผมได้ประหยัดเงิน ก.พ. (กระเป๋าพ่อ) ไป 1 ปี แต่ต่อมาผมเอาคืนหมด!? แล้วจะเล่าต่อครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี