ช่วงที่ผมเรียน ปรอ.4 (หรือ วปรอ.344) ในปี พ.ศ.2534 รวม 31 ปีมาแล้ว ผมได้รับเชิญจากท่าน พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดีให้เป็นประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาของสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ผมจึงได้เชิญชวนเพื่อนๆ ทั้งแพทย์และนักวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าไปเป็นอนุกรรมการเป็นสิบๆ คนซึ่งผมคิดว่ามีส่วนทำให้ต่อมาสมาคมนี้ได้รับเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ด้วยการสนับสนุนของพี่หนุนและ พล.ต.อินทรัตน์ยอดบางเตย ต่อมาผมเลยได้เป็นกรรมการแพทย์ของสหพันธ์ยกน้ำหนักโลก 4 ปี ก่อนหน้าเรียน วปอ. ผมเคยเป็น ผอ.ศูนย์กีฬาคนแรกของจุฬาฯ เป็นกรรมการ กกมท. (กรรมการกีฬามหาวิทยาลัยไทย)ที่เคยพานักเทนนิสมหาวิทยาลัยไทยไปแข่งกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่Buffalo, USA เป็นกรรมการของ AFSM (Asian Federationof Sports Medicine) เคยไปแข่งขันกีฬาของ World Medical Games ที่ Montreal ได้เหรียญเงินทางด้านเทนนิสเดี่ยวมาด้วย สำหรับอายุรุ่นนั้นๆ
ที่วุฒิสภาช่วงที่ผมเป็นสมาชิกวุฒิสภา สรรหาประเภทวิชาการ 2551-2554 ผมเป็นกรรมาธิการการสาธารณสุข และกรรมาธิการทางกีฬา สำหรับคณะอนุกรรมาธิการวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ผมเป็นประธาน ได้เขียนตำราเรื่อง วิทยาศาสตร์การกีฬาผสมผลานไว้ 1 เล่ม ซึ่งได้มีการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญทั้งประเทศทั้งแพทย์และไม่ใช่แพทย์มาร่วมเขียน ซึ่งมีหลายท่านปัจจุบันนี้เป็นกรรมการของสมาคมกีฬาเวชศาสตร์ เช่น คุณหมอไพศาล จันทรพิทักษ์คุณหมอเรืองศักดิ์ ศิริผล คุณหมออี๊ด ลอประยูร คุณหมอพงศ์ศักดิ์ยุกตะนันทน์ คุณชนะการ พรพัฒน์กุล ฯลฯ รวมทั้ง ดร.สันติภาพคุณหมอวารินทร์ (โอลิมปิก) คุณหมอปรียานุช (มหิดล ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการ) คุณหมอรณชัย (รามา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวชศาสตร์) ฯลฯ ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกและยังเป็นเล่มเดียวจนถึงปัจจุบันนี้ของวุฒิสภา ผมอยากให้ประเทศไทยมีแพทย์และนักวิทยาศาสตร์การกีฬาไปประจำอยู่กับสมาคมกีฬาทุกประเภท และทำการศึกษาวิจัยกีฬานั้นๆ ให้ลึก แล้วเขียนตำราสำหรับกีฬานั้นๆ ขึ้นมาโดยเฉพาะ
ผมเป็นกรรมการของสมาคมกีฬาเวชศาสตร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ คงหลัง พ.ศ.2521 เพราะสมาคมเพิ่งก่อตั้งในปีนั้น คาดว่าคงเป็นหลัง 2524 ผมไม่ได้จดไว้และจำไม่ได้ ทราบแต่เพียงว่าในชุดวาระ 2543-2546 ผมเป็นอุปนายกสมาคม โดยมีคุณหมอวิชัย วนดุรงค์วรรณ เป็นนายก ในวาระ 2546-2549 คุณหมอวิชัยยังเป็นนายกอยู่ ส่วนผมมีงานอื่นๆ จึงลาออกจากการเป็นกรรมการจนปี 2565 คุณหมอวิชัยเรียกประชุมสมาชิกเพื่อเลือกกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาและสมาคมฯได้จดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมใหม่ทั้งชุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2565 เซ็นโดยนายรัชกฤต พยัคฆ์ ผู้อำนวยการส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อย 2 ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมการปกครอง นายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร
สมาคมวาระ 2565-2568 มีกรรมการ 15 ท่าน ดังนี้
นายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ นายกสมาคม
นายแพทย์ไพศาล จันทรพิทักษ์ อุปนายกฝ่ายบริหาร (กระดูก รพ.กรุงเทพ)
นายแพทย์อรรถ นานา อุปนายกฝ่ายวิชาการ (แพทย์ทางโรคปอด รพ.ศิริราช)
นายแพทย์บวรฤทธิ์ จักรไพวงศ์ กรรมการ (กระดูก รพ.ศิริราช)
นายแพทย์ชนะการ พรพัฒน์กุล กรรมการ (กระดูก ม.เชียงใหม่)
นายแพทย์ฉกาจ ผ่องอักษร กรรมการ (เวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.ศิริราช)
นายแพทย์พิชญา นาควัชระ กรรมการ (กระดูก อดีต รองปลัด กทม.)
นายแพทย์วีระชัย โควสุวรรณ กรรมการ (กระดูก ม.ขอนแก่น)
แพทย์หญิงกันยิกา ชำนิประศาสน์ กรรมการ (กระดูก ม.สงขลา)
นายแพทย์เมษัณฑ์ ปรมาธิกุล กรรมการ (กระดูกม.นวมินทราธิราช วชิระ กทม.)
นายแพทย์จตุรพร ณ นคร กรรมการและบรรณารักษ์ (อดีตรองผู้ว่าการ กกท.)
นายแพทย์มีชัย อินวู๊ด กรรมการและปฏิคม (กกท.)
นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันทน์ กรรมการและนายทะเบียน (กระดูก จุฬาฯ)
นายแพทย์เรืองศักดิ์ ศิริผล กรรมการและเหรัญญิก(อดีตเจ้าหน้าที่ กกท.)
นายแพทย์อี๊ด ลอประยูร กรรมการและเลขาธิการ (กระดูก รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์)
ในกรรมการชุดนี้จะมีกรรมการที่จบทางสาขาวิชา orthopedics (กระดูก) 9 ท่าน ในความเป็นจริงแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางสาขากีฬาเวชศาสตร์จะจบแพทย์สาขาอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจบทางสาขากระดูกฯ แต่ขอให้มีความสนใจ เรียนต่อทางด้านกีฬาเวชศาสตร์ด้วยการเข้าประชุม อ่าน ติดตาม หรือในทางประกอบวิชาชีพ ประเทศไทยปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักสูตรหรือที่วงการแพทย์เรียกว่า Board of Sports Medicine แพทย์ที่สนใจต้องอ่านเอง เข้าประชุม เข้าเรียนหลักสูตรสั้นๆ ที่หลายสมาคม หรือราชวิทยาลัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์จัด 14 ราชวิทยาลัยที่ประเทศไทยมี คือ ศัลย์, อายุรแพทย์, จิตแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู, ออร์โธปิดิกส์, จักษุ, รังสี, โสต สอ นาสิก, สูติ, กุมาร, วิสัญญี,เวชศาสตร์ครอบครัว, พยาธิ, ประสาทศัลยแพทย์ และ 1 วิทยาลัย คือ วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี