วัคซีนป้องกันโควิด-19 โรคโควิด-19 เกิดจากการติดเชื้อไวรัส SARS-Cov-2 ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก บางรายโดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง อาจมีอาการรุนแรงเป็นปอดอักเสบและมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เสียชีวิตการแพร่ระบาดใหญ่โรคโควิด-19 ทำให้มีการเร่งฉีดวัคซีนแก่ประชากรในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรคในชุมชน อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์หลายครั้งจนล่าสุดคือ สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งพบว่าก่อโรครุนแรงลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ช่วงแรกๆ แต่ก็สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้มากกว่าจึงนำไปสู่การติดเชื้อในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนครบมาก่อนเป็นเวลานานรวมทั้งทำให้มีการติดเชื้อซ้ำในผู้ที่เคยมีการติดเชื้อมาแล้ว การป้องกันการติดเชื้อโดยการใส่หน้ากาก ล้างมือ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล แม้ว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้พอสมควร แต่การระบาดของสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีการดื้อต่อภูมิคุ้มกันและแพร่ได้ง่ายทำให้มีการเกิดโรคในประชากรเพิ่มขึ้นจึงจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น แก่ประชากรโดยการใช้วัคซีนที่จำเพาะกับสายพันธุ์ที่มีการระบาด
แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดสในผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในผู้ที่เคยรับวัคซีนครบ 2 โดสมาก่อน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หอบหืด ถุงลมปอดโป่งพองโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไตวายเรื้อรัง โรคตับ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หญิงตั้งครรภ์ และบุคลากรทางการแพทย์ เพราะเมื่อเวลาผ่านไประดับภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนก่อนหน้านี้ลดลง จึงต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีระดับภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอในการยับยั้งการติดเชื้อสายพันธุ์ที่ระบาดได้ดี
ดังนั้นวัคซีนที่นำมาใช้ต้องเป็นวัคซีนที่มีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มสายพันธุ์ให้มีความจำเพาะกับสายพันธุ์ที่มีการระบาดในชุมชน เช่น วัคซีนแบบผสมสองสายพันธุ์ (bivalent) หรือวัคซีนแบบสายพันธุ์เดียว พบว่าการฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอไม่ได้พบว่ามีผลข้างเคียงทั่วไปมากขึ้นและอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบภายหลังการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นต่ำไม่แตกต่างจากการฉีดวัคซีนสองเข็มแรก
วัคซีนป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัส เชื้อก่อโรค สเตรปโตคอคคัส นิวโมเนียอี เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดการติดเชื้อปอดอักเสบ และการติดเชื้อนิวโมคอคคัสรุนแรง เช่น การติดเชื้อในกระแสโลหิต เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งการติดเชื้อนี้พบบ่อยขึ้น และมีอาการรุนแรงในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ผู้ที่ไม่มีม้าม ผู้ป่วยที่มีภาวะคุ้มกันบกพร่อง ทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและอาจเสียชีวิต
วัคซีนป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัส หรือเรียกว่าวัคซีนนิวโมคอคคัส แบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่
1.วัคซีนป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต (PCV-13, PVC-15, PCV-20) แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข้ากล้าม 1 เข็ม โดยแนะนำให้ฉีดในบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อรุนแรง ได้แก่ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่ได้รับการตัดม้ามหรือไม่มีม้าม ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น หัวใจวายเรื้อรัง ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตวาย โรคตับแข็ง เบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ดี ผู้ป่วยที่มีการรั่วซึมของน้ำไขสันหลัง และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่นได้รับยากดภูมิคุ้มกันหรือยาสเตียรอยด์ขนาดสูง ติดเชื้อเอชไอวี เปลี่ยนถ่ายอวัยวะและปลูกถ่ายไขกระดูก
2.วัคซีนป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดโพลีแซคคาไรด์(PPV-23) โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนเข้ากล้าม 1 เข็มในผู้ที่เคยฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต (PCV-13, PVC-15) โดยเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 ปี พบว่าการฉีดวัคซีนนิวโมคอคคัสในผู้สูงอายุ สามารถลดการเกิดปอดอักเสบและการติดเชื้อรุนแรงจากเชื้อนิวโมคอคคัสที่มีสายพันธุ์ตรงกับในวัคซีนได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปีร่วมด้วย
ผลข้างเคียงภายหลังฉีดวัคซีนมักเป็นอาการเฉพาะที่ เช่น เจ็บ บวม แดง ตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน บางรายอาจมีอาการยกแขนไม่ขึ้นหรือมีไข้ ปวดศีรษะซึ่งโดยทั่วไปมักไม่รุนแรง หายได้เองภายใน 2-3 วัน
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : คลินิกเสริมภูมิคุ้มกันและอายุรศาสตร์การท่องเที่ยว, www.saovabha.org/service_saovabha/our-clinic เปิดทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. วันเสาร์-วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-12.00 น. วันอาทิตย์-ปิดทำการ, โทร.02-2520161-4 ต่อ 82119 หรือ 82731 Email : queensaovabha@hotmail.com
แหล่งข้อมูล : การฉีดวัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้สูงอายุ, สถานเสาวภา สภากาชาดไทย
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี