วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ท่านอาจารย์เฉกย้ำว่า มีกายต้องใช้ มีสมองต้องใช้ โดยท่านแนะนำว่า คนที่ขับรถเป็น ต้อง “ขับรถ” ต่อไปจน “ตาย” ทุกๆ คนควรทำกิจกรรมสังคม อย่าเก็บตัวอยู่คนเดียว การไปสังสรรค์ พบปะเพื่อนฝูง ช่วยสังคม จะทำให้เรามีความสุขกาย สบายใจ อายุยืน ไม่ค่อยมีความเครียด โรคซึมเศร้า ตัวท่าน อ.เฉกเองเคยเป็นนายกสโมสรนิสิตแพทย์ศิริราช และต่อมาเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช จึงเห็นได้ว่าท่านทำเพื่อส่วนรวมมาตลอด มีความกตัญญูกตเวทีต่อ รพ.ศิริราช สถาบันที่ประสิทธิ์ประสาทความรู้ให้แก่ท่าน
ท่านยังสอนให้รู้จักออม ลงทุน เพื่อที่จะได้มีอิสรภาพทางการเงิน หรือ financial freedom เพราะเราอาจจะต้องอยู่อีก 60 ปี หลังเราเกษียณตอนอายุ 60 ปี ท่านสอนให้ทุกๆ คนรอบรู้ด้วยการ “เรียนรู้ทุกอย่างในบางอย่าง” และ “เรียนรู้บางอย่างในทุกอย่าง” ซึ่งผมก็ทำเหมือนกับท่านโดยไม่ทราบมาก่อน คือ สอนให้ลูกศิษย์รอบรู้ “รู้มันทุกเรื่องในระดับหนึ่ง” ท่านแนะนำให้สะสมกรรมดีไว้ ช่วยใครได้ช่วย ให้ใครได้ให้ รวมทั้งท่านมีปรัชญาว่า “กินน้อยตายยาก กินมากตายเร็ว” ท่านกินผัก ผลไม้เป็นหลักทุกมื้อ ไม่ดื่มน้ำหวาน ของหวาน นม ชา กาแฟ แอลกอฮอล์
ผมขออนุญาตเสริมข้อมูลที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วของท่าน อ.เฉก ว่า การที่จะมีสุขภาพที่ดี อย่างมีความสุข หรือการที่จะประสบความสำเร็จ และมีความสุข จะต้องทำอย่างไร ก่อนอื่นผมขอให้ข้อมูลของผู้สูงอายุไทยจาก สนง.สถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ.2564 ซึ่งพบข้อมูลที่สำคัญหลักๆ มีดังนี้
1) การศึกษา (ซึ่งโยงไปถึงการทำงานและรายได้) มีเพียง 6.4% ของผู้สูงอายุเท่านั้นที่จบ ป.ตรี หรือสูงกว่า และ 64% จบต่ำกว่าประถมศึกษา!?
2) ไม่ค่อยมีการออม ถึงออมก็ไม่มาก ไม่มีการลงทุน ทำให้ผู้สูงอายุน้อยคนมีอิสรภาพทางการเงิน แม้กระทั่งเพื่อนหมอผมสองคนเมื่อสูงอายุแล้วมีปัญหาเรื่องการเงิน
3) อายุยืนขึ้นกว่าเดิม แต่เต็มไปด้วยโรค คือ มี long life span แต่ health span ไม่ยาวตาม
ฉะนั้นการที่ประชาชนไทย (และโลก) จะมีชีวิตที่ยืนยาวและประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข น่าจะต้องมีคุณสมบัติ(อาวุธ) 4 ประการ คือ 1) เป็นคนดีเหนือสิ่งอื่นใด 2) เป็นคนเก่ง โดยจะเก่งได้ต้องมีโอกาสเรียนๆ เป็น เรียนรู้ตลอดชีวิต และต้องเก่ง 7 อย่าง คือ เก่งคิด คน งาน เงิน เวลา ขาย และฟัง 3) เป็นคนที่รอบรู้ รู้มันทุกเรื่องในระดับหนึ่ง 4) มีสุขภาพที่ดี โดยทุกๆ คนต้องลงทุนทางด้านความรู้ทางด้านการเงิน ดังนี้ 1) รู้จักออม ลงทุน ตั้งแต่เงินเดือน เดือนแรกยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี โดยใช้เงินไปต่อเงินทำงานแทนเรา 2) ออมจนมีเงินก้อนหนึ่งสำหรับกรณีฉุกเฉินที่พอสำหรับรายจ่าย 6-12 เดือน โดยไม่ต้องทำงาน 3) ซื้อกองทุน RMF, ESG ประกันสุขภาพ หรืออะไรก็ตามที่รัฐบาลให้หักภาษีได้ แต่ต้องซื้อเท่าที่แต่ละคนมีสิทธิ์ที่จะหักได้เท่านั้น แล้ว 4) จึงซื้อกองทุน หุ้น ทุกเดือน ทอง (5-10% ของการลงทุนทั้งหมด) ที่ดิน ฯลฯ
สุขภาพที่ดี คือ ดีทั้งกาย ใจ สังคม ปัญญา จริงๆ แล้วตลอดชีวิตของเราคือ การบริหารความเสี่ยง เสี่ยงที่จะตายได้ตลอดทุกช่วงของชีวิต เสี่ยงเรื่องการศึกษา การหางานทำ มีรายได้ที่ดี ประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุข ฉะนั้นจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง ต้องรู้จักลงทุนด้วยการหาความรู้ในทุกๆ ด้าน ด้านการงาน การเงิน สุขภาพ ฯลฯ
หลักๆ ของการกินอาหาร คือ ถ้ากินน้อยกว่าใช้ (ของแต่ละคน เปรียบเทียบกับคนอื่นไม่ได้ คนเราเกิดมาพันธุกรรมไม่เหมือนกัน) น้ำหนักจะลดแน่นอน กว่าจะรู้ตัวว่าอิ่มร่างกายใช้เวลาประมาณ 20 นาที ฉะนั้นต้องเอาความรู้นี้ไปใช้ด้วยการกินน้ำก่อนอาหาร กินอาหารที่มีพลังงานน้อยก่อน เช่น ซุปผัก สลัด ส่วนข้าวหรือแป้งเก็บไว้กินเป็นส่วนสุดท้าย จะได้ไม่กินมาก ควรกินแป้งหรือข้าวเท่าที่จะใช้เท่านั้น ควรกินโปรตีนที่ดี เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ อกไก่ที่ไม่มีหนัง ถั่ว ไขมันที่ดีอยู่ในปลาทะเล น้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะกอก ฯลฯ
การออกกำลังกายที่สมบูรณ์แบบ มี 4 วิธี คือ หนึ่ง aerobic ทำให้หัวใจ ปอด ระบบหมุนเวียนโลหิต แข็งแรง ด้วยการใช้กล้ามเนื้อกลุ่มใหญ่ เช่น แขนหรือขา 1) อย่างต่อเนื่องและนานพอ 30-60 นาที/ครั้ง 2) หนักพอ คือ หัวใจเต้นเข้าเป้า เป้า คือ ประมาณ 70% ของ maximal heart rate, MHR หรือความสามารถสูงสุดที่หัวใจจะเต้นได้, MHR คือ 220-อายุปี 3) บ่อยครั้งพอ คือ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ สอง ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (resistance training) อันนี้ สำคัญมาก เพราะตั้งแต่อายุประมาณ 40 ปี ร่างกายจะสูญเสียกล้ามเนื้อปีละ 1% ถ้าอยู่นิ่งจะยิ่งสูญเสียเร็วขึ้น และถ้ามีกล้ามเนื้อน้อยอัตราการเผาผลาญ (metabolic rate) ของร่างกายจะลดลง (กินนิดเดียวจะอ้วนง่าย) จะหกล้ม เจ็บป่วยง่าย สาม flexibility exercise - ยืดเส้นสายทุกวัน สี่ balancing exercise หรือการทรงตัว ทุกวัน จะช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงของการหกล้ม วิธีการต่างๆ หาดูได้จาก google
โดยสรุปการดูแลสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ขึ้นอยู่กับเพียงเท่านี้ 1) ออกกำลังกาย ใจ 2) คุมอาหาร 3) นอน 7-9 ชม. 4) ไม่สูบบุหรี่ 5) ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่เกิน 2 หน่วยของอังกฤษ/วัน(หน่วยอังกฤษมี 8 กรัมแอลกอฮอล์) 6) ไม่ใช้สารเสพติด 7) มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย 8) ตรวจสุขภาพเป็นระยะๆ 9) ตรวจคัดกรองหาโรค เช่น เต้านม ปากมดลูก ลำไส้ใหญ่ 10) ระวังอุบัติเหตุบนถนน การหกล้ม 11) ฉีดวัคซีนตามที่แพทย์แนะนำ โดยทางด้านสุขภาพจิต ควรมองโลกในแง่บวก ปล่อยวาง ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ฯลฯ
ผมว่าแค่นี้ทุกๆ คนจะมีสุขภาพทั้งกายและใจที่ดี จะมีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ประการ
ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ นพ.เฉก ธนะสิริ ครับผม
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์

สภาพอากาศพรุ่งนี้! กรมอุตุฯเตือนอากาศเย็นกว่าเดิม กทม. อุณหภูมิต่ำสุดแตะ 21 องศา
สุดอาลัย! 'ดอม เหตระกูล'สูญเสีย'คุณแม่ปรียาพร'ผู้เป็นที่รัก โพสต์ข้อความสุดเศร้า
ดับเจ้าถื่น! 'บาส-เฟม'เข้าลุ้นแชมป์ขนไก่เจแปน
สทนช. ประชุมด่วน! วางแผนปรับลดการระบายน้ำ'เขื่อนภูมิพล' บรรเทาท่วมภาคกลาง
ออกบินแล้ว! 'ฮัดสัน'ลั่นพาช้างศึกสยบศรีลังกา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี