7 กันยายนนี้ ศาลปกครองกลางนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ 2115/2558 ระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ฟ้องคดี) กับอธิบดีกรมการกงสุล ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางทักษิณ ชินวัตร

1)นายทักษิณ ฟ้องว่า อธิบดีกรมการกงสุล กับพวกมีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีอ้างว่าคำสัมภาษณ์ของนายทักษิณมีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทย

2) ถ้าจำได้ ทางการไทยได้ประกาศยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. 2558

หลังจากที่นายทักษิณต้องคำพิพากษาของศาลให้ลงโทษจำคุก แต่หลบหนีไป

แถมยังหลบหนีหมายจับคดีทุจริตโกงกิน หลายคดี

หลังจากทักษิณให้สัมภาษณ์โจมตีทางการไทยจากต่างประเทศ

3)มีคนมั่วอ้างว่า พาสปอร์ตมีสถานะเหมือนบัตรประชาชนที่ใช้ในต่างประเทศ แสดงสัญชาติของบุคคล ดังนั้น การยึดพาสปอร์ตจึงเปรียบเสมือนการยึดสัญชาติ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไม่มีประเทศใดในโลกที่เขายึดหนังสือเดินทางคนของเขาเพราะเหมือนยึดสัญชาติของบุคคล

มั่วนิ่ม!

การเพิกถอนหนังสือเดินทาง เป็นคนละเรื่องกับเพิกถอนสัญชาติ

คนสัญชาติไทยจึงมีสิทธิจะขอมีหนังสือเดินทางไทย แต่คนสัญชาติไทยจำนวนไม่น้อย กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่สามารถออกหนังสือเดินทาง
ให้ เพราะเข้าข่ายต้องห้าม เป็นนักโทษบ้าง เป็นผู้ต้องคำพิพากษาของศาลบ้าง เป็นต้น

ลำพังตัวทักษิณ มีเงินทองมากมายอยู่ต่างประเทศ ถึงไม่มีหนังสือเดินทางไทย เขาก็ยังมีชีวิตที่สะดวกสบายกว่าคนไทยบางส่วนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขาเสียอีก

4)ผู้ตรวจการแผ่นดิน เคยระบุไว้ชัดเจนว่า การออกพาสปอร์ตแก่ทักษิณ ขัดระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 ที่กำหนดห้ามออกหนังสือเดินทางแก่ผู้ที่ถูกออกหมายจับหรือถูกศาลพิพากษาลงโทษ ซึ่งไม่เปิดช่องให้รัฐมนตรีมีอำนาจใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ

สถานะของทักษิณ ชินวัตร ชัดเจน ไม่สามารถพิจารณาเป็นอื่น คือ บุคคลที่ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาลงโทษถึงที่สุดให้จำคุก แถมยังมีคดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรงติดตัว หลบหนีหมายจับของศาลอาญาอีกมากมายหลายคดี

5)ทักษิณมีพฤติกรรมคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก หลบหนีคดีทุจริตโกงกินและคดีร้ายแรงมากมาย

ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงเช่นนี้ ก็ควรต้องเพิกถอนหนังสือเดินทางของทักษิณ

ยังไม่นับพฤติกรรมเคลื่อนไหว ให้สัมภาษณ์โจมตีทางการไทย

บรรดาผู้ร้ายหลบหนีคดี หลบหนีคำพิพากษาของศาล หลบหนีอาญาแผ่นดินใครโกงชาติไป ก็ไม่ต้องตามจับกุม ปล่อยให้ใช้เงินโกงชาติหาความสุขต่างแดนเต็มที่ อย่างนั้นหรือ?

ตรงกันข้าม น่าคิดว่า การออกพาสปอร์ตให้ทักษิณ เท่ากับช่วยเหลือนักโทษหลบหนีอาญาแผ่นดิน มีโทษทางอาญา หรือไม่?

6)ระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง 
พ.ศ.2548

หมวด 7 ว่าด้วยการปฏิเสธหรือยับยั้งคำขอหนังสือเดินทาง

“ข้อ 21 พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถปฏิเสธหรือยับยั้งการขอ หรือแก้ไขหนังสือเดินทางในกรณีดังต่อไปนี้…

(2) เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้

(3) เมื่อผู้ร้องเป็นผู้ที่ศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายอื่นสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร

(4) เมื่อผู้ร้องกระทำผิดกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติทางราชการ ซึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือปิดบังความจริงอันเป็นสาระสำคัญ หรือแสดงเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จในการขอหนังสือเดินทาง หรือไม่อยู่ในฐานะที่จะเดินทางไปต่างประเทศได้ หรือหากเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จะเป็นภัยต่อสวัสดิภาพของผู้เดินทางเอง หรือจะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย...”

หมวด 8 ว่าด้วยการยกเลิกหนังสือเดินทาง

“ข้อ 23 พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้ เมื่อปรากฏภายหลังว่า

(1) ผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นผู้ซึ่งขาดคุณสมบัติที่จะขอหนังสือเดินทางประเภทนั้น

(2) ผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นบุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจออกหนังสือเดินทางให้ตาม ข้อ 21 (1) (2) (3) และ (4)

(3) มีเหตุอันเชื่อได้ว่า ผู้ถือหนังสือเดินทางได้หนังสือเดินทางนั้นมาโดยมิชอบ

...(7) พิจารณาเห็นว่า หากให้ผู้ถือหนังสือเดินทางยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้...”

กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาว่า เข้าข่าย ข้อ 21 (4) และข้อ 23 (2) จึงได้ยกเลิก

จะว่าไปแล้ว ถ้าดูจากพฤติกรรมของทักษิณ ประกอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อาจเข้าข่ายข้อที่จะต้องยกเลิกหนังสือเดินทาง หรือยับยั้งหนังสือเดินทางอีกหลายๆ ข้อด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น

ข้อ 21 (2) เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ซึ่งทักษิณเป็นยิ่งกว่าผู้ต้องหา เพราะเป็นผู้หลบหนีโทษจำคุกด้วยซ้ำไป

ข้อ 21 (3) เจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร

ข้อ 23 (3) ได้หนังสือเดินทางมาโดยมิชอบหรือไม่? จะต้องไม่ลืมว่า ทักษิณเคยถูกเพิกถอนหนังสือเดินทางไปแล้ว เมื่อครั้งสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่พอถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังไม่ทันทำงานให้ชาวบ้าน อะไรก็แล่นไปคืนหนังสือเดินทางให้ทักษิณก่อนเลย ทั้งๆ ที่ ขณะนั้น ทักษิณเป็นนักโทษหลบหนีคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ อยู่แท้ๆ ทำให้สงสัยได้ว่า หนังสือเดินทางที่มีอยู่นี้ได้มาโดยชอบหรือไม่ เพียงใด

ข้อ 23 (7) หากเห็นว่า ทักษิณเคลื่อนไหวปลุกระดม สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศ ก็เข้าข่ายจะยกเลิกหนังสือเดินทางตามข้อนี้ด้วย ฯลฯ

7)ที่น่าสงสัยมาก คือ การที่ทักษิณหลบหนีคดีอาญาแผ่นดิน หนีหมายจับของศาลไทย

แต่เขากลับมอบอำนาจ ตั้งทนายความ อ้างสิทธิฟ้องคดีต่อศาลไทย

ไม่รู้ว่า มีมนุษย์คนไหนในโลก ที่กล้าๆ ทำแบบนี้บ้าง!

สารส้ม