ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล คือนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และนครปฐมซึ่งมีประชากรรวมกันประมาณ 16 ล้านคน และรถยนต์จำนวน 8 ล้านคัน ได้ถูกระบุว่าเป็นมหานครใหญ่ที่มีปัญหาการจราจรติดขัดมากเป็นอันดับที่หนึ่งของโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรถยนต์ที่วิ่งในกรุงเทพมหานคร ทำความเร็วได้เพียงแค่ 15 กม.ต่อชั่วโมงเท่านั้น
ทำให้กรุงเทพฯมีปัญหาการจราจรติดขัดแซงมหานครใหญ่อย่างจาการ์ตา อินโดนีเซีย มุมไบ อินเดีย เซาเปาโล บราซิล ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาเหตุที่กรุงเทพฯมีปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักเป็นเพราะมีปริมาณพื้นผิวการจราจรหรือถนนรองรับรถยนต์ได้แค่ 1.5 ล้านคัน ในขณะที่มีปริมาณรถยนต์มากถึง 5 เท่า ของถนนที่มีอยู่
ต้นตอของปัญหามาจากรัฐบาลในอดีตไม่ได้ให้ความสำคัญกับการขนส่งมวลชนแต่กลับไปให้ความสำคัญกับการก่อสร้างถนนและทางหลวงมากกว่าการก่อสร้างระบบการขนส่งมวลชนที่ทันสมัยเหมือนในประเทศอื่นๆ ที่นครใหญ่ทั่วโลกเขาจะให้ความสำคัญกับระบบขนส่งมวลชนมากกว่าการสร้างถนนให้รถวิ่งเพราะมันจะเกิดปัญหาการที่ไม่มีผิวการจราจรรองรับจำนวนยานพาหนะที่เพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปีอยู่ตลอดเวลา
การแก้ไขปัญหาการติดขัดของการจราจรนั้นสามารถแก้ได้ด้วยการจัดตั้งหน่วยงานกลางในการแก้ไขปัญหาโดยให้เป็นคณะกรรมการแก้ปัญหาในระดับชาติที่มีอำนาจเต็มที่ในการวางแผนแก้ปัญหาซึ่งอาจจะใช้ชื่อว่าสำนักงานวางแผนพัฒนาการขนส่งและวิศวกรรมการจราจรแห่งชาติ
ในระยะสั้นและเร่งด่วนอาจจะต้องใช้ความเข้มงวดในการห้ามจอดรถในถนนสายหลักของกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีอยู่ 28 สาย การจัดตั้งหน่วยงานกลางที่มีอำนาจสั่งการสูงสุด การวางแผนด้านวิศวกรรมจราจร การกำหนดการใช้และประกาศผังเมืองของกรุงเทพฯและเมืองบริวารที่อยู่โดยรอบใหม่ทั้ง 5 จังหวัด และการตั้งงบประมาณก่อสร้างสะพานข้ามแยก หรืออุโมงค์ลอดสี่แยกใหญ่ทุกแห่งที่สำคัญๆ
ส่วนแผนระยะยาวคือแผนการขนส่งมวลชนครบวงจรเป็นการบริหารระบบขนส่งสาธารณะในทุกโครงการที่มีอยู่ ทั้งระบบรถขนส่งมวลชน รถรางสาธารณะ ทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้าเหนือดิน และการเดินเรือโดยสารอย่างครบวงจร การเชื่อมต่อระหว่างระบบขนส่งหนึ่งไปสู่การขนส่งอีกระบบ บนพื้นฐานเครือข่ายเดียวกัน โดยที่ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการเพื่อให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็วตามอัธยาศัย
รัฐบาลต้องเร่งรัดการก่อสร้างระบบขนส่งด้วยรางให้เพิ่มมากขึ้นโดยให้มีการเชื่อมต่อกันได้เพื่อจูงใจให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะมากกว่าใช้รถส่วนตัวเพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและพื้นที่ถนนทำให้ใช้เนื้อที่ลดลง โดยรัฐบาลต้องสนับสนุนให้เอกชนมาลงทุนด้านการขนส่งสาธารณะมากขึ้นก็จะทำให้การจราจรคล่องตัวและเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรที่กำลังเกิดขึ้นไปได้ด้วยความรวดเร็ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี