ตอบไม่ได้จริงๆ หมอคนไหนไปขุดค้น “พบเนื้อเยื่อศรีธนญชัย” แล้วนำเนื้อเยื่อดังกล่าวมาทำการ “โคลนนิ่ง” จนประเทศไทยมี “ศรีธนญชัย” เกิดขึ้นอย่างยั้วเยี้ย

ผู้คนทุกวงการ ทุกอาชีพและทุกระดับชั้น ต่างเป็น “ผู้มีเหลี่ยมคู เอาสีข้างเข้าถู” ได้เก่งกาจเหมือนศรีธนญชัยตัวจริงทั้งสิ้น

ถ้าเป็นชาวบ้านที่ขยัน “ตอแหลกระแตวับ” หลอกลวงชาวบ้านด้วยกันแบบ “18 มงกุฎ” ไปวันๆ ก็พอเข้าใจได้ นี่คือ “ทุราจารระดับล่างที่ขยันทำผิดกฎหมายเพื่อมีชีวิตรอด”

ถ้าเป็น “ขาใหญ่” และ “จอมอิทธิพล” ทั้งหลาย ปกติก็ทำทุกแบบ “ศรีธนญชัย” เอาเปรียบชาวบ้านทุกด้านอยู่แล้ว แต่ถ้า “ฮึกเหิม” ถึงขั้น “ฮุบป่า” และ “ฮุบที่สาธารณะ” ก็เป็นหน้าที่ของผู้รักษากฎหมายจะจัดการให้ “ขาใหญ่” ไปเป็น “ขากระจอก” ในเรือนจำกำแพงสูง

แต่ถ้า “ศรีธนญชัย” ดันไปอยู่ในอาชีพครูบาอาจารย์อาชีพนักกฎหมาย เป็นข้าราชการในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ หรือเป็นตำรวจมือซ้ายถือกฎหมายและมือขวาถือปืน “ศรีธนญชัย” ประเภทนี้ ก็จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคมมากขึ้น

เหลียวมาดูผู้บริหารระดับสูงในองค์กรต่างๆ หรือเป็นนักการเมืองชื่อดัง และเป็นผู้ครองอำนาจรัฐ ถ้ากลายเป็น “ศรีธนญชัย” เสียเอง ย่อมจะทำความเสียหายให้แก่บ้านเมืองได้อย่างกว้างขวาง ทำให้ “เกียรติยศ” ทั้งของตนเองและของประเทศไทยต้องมัวหมอง

ณ วันนี้ “ศรีธนญชัยระดับบิ๊กๆ” หลายรายต่าง “ต้องหมองมัว” เพราะ “พิษศรีธนญชัย” เล่นงานอย่างน่าเศร้า

อยากปรับโฟกัสไปที่ป.ป.ช.ที่กำลังมี “เหลี่ยมคู เอาสีข้างเข้าถู” แบบศรีธนญชัย เกี่ยวกับเรื่องนาฬิกาหรู โดยปกป้องนายอย่างเต็มพิกัด ราวกับเห็นประชาชนเป็น “พวกกินหญ้า” ก็มีส่วนทำให้ความน่าเชื่อถือและน่าเลื่อมใสของเจ้านายมีตำหนิ

กมลศักดิ์  ตั้งธรรมนิยม