ปมร้อนเกี่ยวกับโครงการอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาท
หลังจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดเวทีเสวนาสาธารณะรับฟังสาธารณชนแบบเปิด (Open Dialogue) อย่างมีคุณภาพและประเมินผลร่วมกัน (Qualitative Research) โดยมีตัวแทนระดับผู้บริหารของ ทอท.มาร่วมชี้แจงข้อมูลอย่างเต็มที่ และมีองค์กรวิชาชีพและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 12 องค์กร เข้าร่วม อาทิ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมวิศวกรที่ปรึกษา
แห่งประเทศไทย, สมาสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย, องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(แห่งประเทศไทย) ฯลฯ
หลังจากการรับฟังข้อเท็จจริงแล้ว ที่ประชุมองค์กรวิชาชีพและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่เห็นด้วยกับการจัดวางอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2) ในตำแหน่งใหม่ ที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนผังแม่บท และล่าสุด นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี สำเนาถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานกรรมการบริหารและกรรมการบริหาร ทอท.
สาระสำคัญในหนังสือที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดวางอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2) ในตำแหน่งใหม่ ที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนผังแม่บทจะเป็นหลักฐานสำคัญต่อไป หากผู้เกี่ยวข้องยังดันทุรังเดินหน้าโครงการ ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ทักท้วงอย่างมีน้ำหนัก มีเหตุผล ครอบคลุมรอบด้าน บางส่วนของเนื้อหา ควรที่จะเผยแพร่ต่อไปสู่สาธารณชนวงกว้าง โดยสรุปดังนี้
1. ปัจจุบัน ทอท. ยังใช้แผนแม่บทปี 2546 มาโดยตลอด ทั้งโดยบริษัท วิทยุการบินฯ เพื่อควบคุมการบิน และโดยทอท. ที่กำลังใช้ในการก่อสร้างอาคาร Satellite-1 (SAT-1) อยู่ในขณะนี้
2. การที่ทอท.ชี้แจงต่อสาธารณชนว่าแผนแม่บทสามารถปรับเปลี่ยนได้โดยง่ายเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์นั้น การชี้แจงดังกล่าวก็เพื่อที่จะนำมาเป็นเหตุที่ ทอท. จะวางอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2)
ที่ตำแหน่งปลายของ Concourse A ของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ซึ่งเป็นการปรับปรุงแก้ไขที่จะเกิดขึ้นในปี 2561 นี้เท่านั้น โดยยกเหตุผลประกอบว่า ทอท. ได้ศึกษาวิธีการที่จะใช้ที่ดินแปลงนี้ให้มีศักยภาพสูงสุดเพื่อช่วยแก้ปัญหาในเชิงคุณภาพการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ที่ดินแปลงนี้มีศักยภาพเหมาะสมที่จะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เพิ่มขึ้นเป็นอาคารหลังที่ 2 (Ter-2) เพราะมีหลุมจอดอยู่แล้ว โดยเฉพาะอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2) เป็นไปตามคำแนะนำของ The International Civil Aviation
Organization (ICAO) ซึ่งเหตุผลดังกล่าวของ ทอท. ไม่สอดคล้องกับหลักฐานข้อเท็จจริง และมิได้เกิดจากการวิเคราะห์ Value Impact แต่ประการใด แต่กลับจะส่งผลกระทบเป็นปัญหาเกิดขึ้นตามมา
ตารางเปรียบเทียบนี้ ได้สรุปข้อมูลเพื่อให้เห็นความไม่สอดคล้องในสาระสำคัญตามข้อเสนอแนะในรายงานของ ICAO (2554) เปรียบเทียบกับการพัฒนาอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2) ซึ่งถือเป็นแผนแม่บทปี 2561 ของทอท. หากนำไปปฏิบัติได้จริง
3. จากข้อมูล จากคำชี้แจง ประกอบหลักฐานอันเป็นที่ประจักษ์ พบว่า ข้อมูลของ ทอท.มิได้เป็นไปตามแนวทางที่ ทอท. นำเสนอ เช่น
กรณีที่ ทอท.ชี้แจงว่าการพัฒนาเป็นไปตามคำแนะนำของ ICAO ในรายงานเมื่อปี 2554 แต่จากแผนแม่บทใหม่ปี 2561 กลับไม่ได้เป็นไปตามผลรายงานอันเป็นสาระสำคัญของ ICAO
กรณีที่ ทอท. ชี้แจงว่าการปรับปรุงตามแผนแม่บทปี 2561 เป็นไปเพื่อให้มีศักยภาพรองรับผู้โดยสารจำนวน 150 ล้านคนนั้น ก็มิใช่เป็นผลจากการศึกษาของ ICAO แต่อย่างใด
คำชี้แจงในส่วนนี้ ทอท. มิได้มีข้อมูลใดสนับสนุน โดยเฉพาะไม่มีรายการคำนวณและ Aircraft Movement Simulation บริเวณ Taxiway หน้าอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2) ซึ่งเป็นเสมือน “ซอย” ที่คับแคบอยู่ในขณะนี้
4. องค์กรวิชาชีพและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันศึกษาวิเคราะห์แล้ว พบว่า มีข้อที่น่าวิตกกังวลในประเด็นที่ว่า หากมีการลงทุนด้วยงบประมาณสูงกว่า 42,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2) ที่ผิดไปจากแผนแม่บทเดิม ในเชิงการประเมิน(Quantitative Evaluation) แล้ว อาจจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อสนามบินและประเทศชาติในอนาคตเป็นอย่างสูงได้
การคัดค้านแนวการพัฒนาที่จะสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2) ณ ปลาย Concourse A นั้น มีมาโดยตลอด ทั้งจากภาคประชาชนทั่วไป ผู้ทรงคุณวุฒิ และองค์กรวิชาชีพด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม รวมถึงอดีตที่ปรึกษาของ ทอท. ในปี 2557 โดยกลุ่ม
EPM Consortium ซึ่งทอท. ได้ทำสัญญาจ้างศึกษาด้วยงบประมาณเกือบพันล้านบาท แต่การคัดค้านกลับมีผลให้ถูกบอกเลิกสัญญาจ้างในเวลาต่อมา
ที่ประชุมองค์กรวิชาชีพและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง จึงได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ เห็นควรเสนอนายกรัฐมนตรี พิจารณาสั่งการ ให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ชะลอเพื่อให้มีการทบทวนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Ter-2) ณ ตำแหน่งใหม่ปลาย Concourse A นอกพิกัดแผนแม่บท โดยเสนอแนะให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนแม่บทเดิมโดยเร็ว
5. ปัจจุบัน รัฐบาล คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่ในมือ หากใช้อำนาจเพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม สาธารณชนย่อมสรรเสริญ แต่หากใช้อำนาจนั้นปกป้องการดำเนินการที่ถูกคัดค้านด้วยเสียงอันรอบด้าน บนพื้นฐานของเหตุผลข้อเท็จจริง ก็จะลากเอา คสช.ตกหล่มการไร้ซึ่งความชอบธรรม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี