ชาวสวนปาล์มน้ำมันยังคงเดือดร้อน ราคายังตกต่ำ
ปัจจุบัน ผู้รับหน้าที่ดูแลแก้ไขปัญหานี้โดยตรง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณชุติมา บุณยประภัศร
จากสถานการณ์ในวันนี้ โจทย์ปัญหาไม่ใช่ง่าย แต่ห้ามล้มเลิกความพยายามช่วยชาวบ้านอย่างเด็ดขาด
ขอเอาใจช่วย อย่าทิ้งชาวสวนปาล์ม
1. รัฐมนตรีชุติมา ได้เคยแสดงความคิดเห็นเรื่องปัญหาราคาปาล์มน้ำมันไว้น่าสนใจ บางตอนว่า
“...ปีที่ผ่านมา ราคาปาล์มตกต่ำหนัก เนื่องจากมาเลย์เซียและอินโดนีเซียที่เดิมเคยส่งปาล์มไปขายยุโรปได้ แต่ปีที่ผ่านมา ปาล์มจากทั้งสองประเทศติดปัญหาว่า การปลูกปาล์มทำลายป่า ทำให้ไม่สามารถส่งปาล์มไปขายยังยุโรปได้ ส่งผลให้สต๊อกในตลาดโลกล้นและราคาตกต่ำ
รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา
โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงานได้รับมอบให้จัดหาน้ำมันปาล์มดิบ 160,000 ตัน ส่งให้โรงไฟฟ้าบางประกง ใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า
แต่ในการขนส่งปาล์มทางเรือ มีผู้ขนส่งน้อยราย ทำให้เกิดการยกประเด็นว่า อาจมีไอ้โม่งได้รับผลประโยชน์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ระวังไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น โดยได้วางระบบตรวจสอบอย่างโปร่งใส เพื่อป้องกันไม่ให้มีการหาประโยชน์โดยมิชอบ และเพื่อให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์สูงสุด
ขอย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับนโยบายขับเคลื่อนการทำงานด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม รวมทั้งมีการรณรงค์เรื่อง Zero Corruption อย่างจริงจังต่อเนื่อง และมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดถือปฏิบัติและดำเนินการอย่างเคร่งครัด จึงขอให้มั่นใจในการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ และให้ทุกฝ่ายช่วยกันติดตามสอดส่องพฤติกรรมดังกล่าว หากพบว่ามีเบาะแสที่สามารถพิสูจน์ได้ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 ค่ะ”
นอกจากนี้ รมช.ชุติมา ยังระบุอีกว่า
“...ได้มีโอกาสมาที่ชุมพร เพื่อติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ต่อจากที่ไปสุราษฎร์ธานีมา เพราะว่าแหล่งผลิตปาล์มน้ำมันใหญ่ๆ ของประเทศประมาณ 70% อยู่ใน 3 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี ชุมพร และกระบี่
จากการลงพื้นที่ พบว่า ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันออกมากกว่าปกติ ดังนั้น มาตรการที่รัฐบาลพยายามดึงผลผลิตส่วนเกินในสต๊อกน้ำมันออกไป ก็ยังไม่สามารถดึงราคาได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ก็จะต้องหามาตรการเพิ่มเติมมาช่วยเหลือในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องหารือกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
รวมทั้งกระทรวงเกษตรฯ จะต้องเข้ามาคาดการณ์ผลผลิตในช่วงจากนี้ต่อไปอีก เพราะว่ารายงานในพื้นที่แจ้งว่า มีปริมาณผลปาล์มออกเร็วขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่คุณภาพไม่เป็นเช่นที่เห็น คือ ทะลายปาล์มสุก สีผลปาล์มสุกมีปาล์มร่วง แต่ปรากฏว่าลูกที่สุกในทะลาย เนื้อในไม่สุกจริง เป็นปัญหาเนื่องมาจากดินฟ้าอากาศ ส่งผลให้ปาล์มที่ออกเร็ว คุณภาพไม่ดี ในช่วงต่อไป กระทรวงเกษตรฯ ต้องมาดูว่าปริมาณปาล์มจะลดลงหรือไม่ หากยังไม่ลด ต้องหามาตรการเสริมมาช่วยอย่างเร่งด่วน
ความรู้ที่ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ เกษตรกรมีการตื่นตัวและช่วยเหลือตัวเองมาก ด้วยการทำศูนย์แบ่งปันน้ำมัน B100 เพื่อใช้กันในกลุ่มสมาชิกซึ่งเป็นการช่วยให้การนำผลปาล์มไปทำน้ำมัน B100 เพิ่มขึ้นและมีการใช้น้ำมัน B100 เพิ่มขึ้นในเครื่องจักรกลการเกษตร และรถยนต์ซึ่งกลุ่มเกษตรกรทดลองใช้ในกลุ่มของตน ทางนี้ก็จะเป็นทางออกอีกทางหนึ่งที่ช่วยดูดซับการใช้ ด้วยการนำเอา B100 มาแบ่งปันกันในกลุ่มซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่อนุญาตให้ทำได้ เพราะไม่ใช่เป็นการจำหน่าย
...การที่รัฐบาลดำเนินมาตรการปรับสมดุลปาล์ม โดยเอาไปทำไฟฟ้า เราทราบดีว่า มีปัญหาในบางพื้นที่ที่เกษตรกรรายย่อยเข้าไม่ถึง และในบางพื้นที่ เช่น ที่สุราษฎร์ธานี ในช่วงต้น ก็ไปกำหนดมาตรการ 300 กิโลกรัม/ไร่/เดือน ยิ่งทำให้เกิดปัญหา ซึ่งมาตรการนี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม โควตาน้ำมันปาล์มที่โรงงานสกัดแต่ละโรงเข้าร่วมโครงการก็ไม่ได้มีปริมาณมากพอที่จะรองรับผลผลิตจากเกษตรกรทุกรายได้ โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่เข้าไม่ถึง รัฐบาลจึงได้มีมาตรการเสริมมาช่วยเหลือรายย่อย ด้วยการให้เงินช่วยเหลือชาวสวนปาล์ม 1,500 บาทต่อไร่ ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ไร่โดยจ่ายเข้าตรงบัญชีของเกษตรกรเลย เพื่อให้อย่างน้อย เกษตรกรมีรายได้จำนวนหนึ่งเพื่อจะใช้ในการครองชีพในช่วงที่ผลผลิตราคาตกต่ำอย่างมาก รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามที่จะหามาตรการที่จะมาช่วยเหลือ ที่จะมาแก้ปัญหาระยะยาวที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
…พยายามช่วยแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ขอยืนยันว่า ไม่มีการทุจริตภายใต้โครงการของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ติดตามดูแลอย่างแน่นอน รวมทั้ง ต้องเชิญชวนประชาชนผู้ใช้รถ ถ้าเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถกระบะ ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า สามารถเติม B20 ได้ สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ประกาศของกรมธุรกิจพลังงานหน้าเว็บไซต์กรมการค้าภายใน www.dit.go.th
ถ้าเราช่วยกันใช้ B20 ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรได้ส่วนหนึ่ง และยังจะช่วยแก้ไขปัญหามลภาวะด้วย เพราะน้ำมัน B20 จะช่วยลดฝุ่น PM2.5 แต่ต้องมั่นใจว่า น้ำมันที่กลุ่มผลิตได้มีมาตรฐานเทียบเท่ามาตรฐานของโรงงานที่ได้รับอนุญาตผลิตหรือ อาจจะซื้อน้ำมัน B100 จากโรงงานที่ได้รับอนุญาต มาแบ่งปันกันในกลุ่ม และขอย้ำนะคะ เป็นศูนย์แบ่งปัน B100 ระหว่างสมาชิกในกลุ่ม ไม่ใช่การจำหน่ายนะคะ…”
2. นอกจากนี้ รมช. หญิงท่านนี้ ยังอุตส่าห์ตอบคำถามของผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นสะท้อนความเดือดร้อนเพิ่มเติมด้วยตนเองอีก ในเฟซบุ๊ค ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เช่น
“ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น หลายอย่างที่สะท้อนมา ทำให้ทราบว่า เรายังต้องปรับความเข้าใจกันอีกมาก เช่น รัฐบาลช่วยเหลือไร่ละ 1,500 บาท แต่ราคาปาล์มก็ยังไม่ขึ้น ขอชี้แจงว่ามาตรการนี้วัตถุประสงค์ของการช่วยเหลือเพื่อให้เกษตรกรรายย่อยมีรายได้บรรเทาภาวะการครองชีพ ในสถานการณ์ที่ราคาตกต่ำ เราทราบดีว่ามาตรการนี้ไม่สามารถช่วยดึงราคาปาล์มให้สูงขึ้นได้ค่ะ ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งในรัฐบาล ที่ต้องดูแลเรื่องราคาสินค้าเกษตร ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามหาวิธีแก้ไข ขอบคุณผู้ที่เสนอแนะความเห็นเชิงสร้างสรรค์ทุกท่านนะคะ”
“ขอให้มั่นใจว่า ตั้งใจช่วยแก้ปัญหา สำหรับพณ. ภายใต้การกำกับดูแลของดิฉัน ไม่มีเรื่องคิดจะโกงกิน ใครมีหลักฐาน วานบอก จะจัดการขั้นเด็ดขาดค่ะ”
“รับทราบ ปัญหาที่สะท้อนมา ได้แก้ไขแล้ว เป็นการดำเนินการในพื้นที่ มีจังหวัดเดียวที่กำหนด 300 กก./ไร่/คน/เดือน รัฐบาลรับทราบว่า รายย่อยเข้าไม่ถึง กระทรวงเกษตรฯ จึงมีมาตรการเงินช่วยเหลือชาวสวนปาล์ม 1,500 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ ออกมาเสริมค่ะ” ฯลฯ
3. ทั้งหมด สะท้อนให้เห็นความตั้งใจ ความจริงใจของรัฐมนตรีที่เข้ามารับผิดชอบดูแลแก้ไขปัญหา “เผือกร้อน” ว่าด้วยราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำในยุคนี้
จึงอยากจะให้กำลังใจ และขอเพิ่มความกดดัน เพื่อให้ท่านเร่งแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านอย่างเต็มที่ ทำให้สุดกำลัง
ทุกข์ของชาวสวนปาล์มในยามนี้ หนักหนาสาหัสมาก
ท่านรัฐมนตรี และรัฐบาล คสช. มีเวลาเหลืออยู่จำกัด
ไม่รู้ว่านานหรือสั้นแค่ไหน
ควรใช้เวลาที่มีอยู่นี้ แสดงออกให้เห็นถึงความมุ่งมั่น จริงจัง จริงใจ ที่จะทำทุกอย่างในการผลักดันการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม จับต้องได้อย่างแท้จริง
หากรัฐบาลทำให้เห็นได้ว่า ได้ทำเต็มที่ ไม่มีวาระแอบแฝง ทำสุดเรี่ยวแรง สุดกำลัง ทำทุกวิถีทาง พิจารณาทุกทางเลือกข้อเสนอของ
ผู้เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุด้วยผลอย่างไร ก็ควรสื่อสารให้เข้าใจกับชาวสวนปาล์ม ในลักษณะที่ทำให้รู้สึกได้ว่า ร่วมทุกข์ไปกับชาวบ้าน เชื่อว่า สถานการณ์ของปัญหาจะดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี