เมื่อเดือนธันวาคม 2561 ได้มีการเปิดตัว (Launch) หนังสือชีวประวัติบุคคลสำคัญคนหนึ่งของสังคมไทยนามว่า อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำแคนาดา สหรัฐอเมริกา และสำนักงานผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ (ณ นครนิวยอร์ก) อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ดร.ถนัด คอมันตร์)
นอกจากนั้น คุณอานันท์ ยังเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในแวดวงธุรกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องการค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อแก้ปัญหาเหตุการณ์ในภาคใต้ รวมทั้งในเรื่องการปฏิรูปประเทศและในการยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 โดยช่วงหนึ่งคุณอานันท์ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะทำงานว่าด้วยการปรับปรุงสหประชาชาติ จวบจนบัดนี้ ก็ยังเป็นที่ปรึกษาในหลายองค์กรชั้นนำ รวมถึงการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตพิเศษประจำองค์การยูนิเซฟ
จัดได้ว่า คุณอานันท์ ปันยารชุน เป็นผู้มีตำแหน่งและความรับผิดชอบมากที่สุดคนหนึ่งของไทยและของโลกก็ว่าได้ เรียกได้ว่า ถ้าเป็นทหารผ่านศึก ก็คงมีเหรียญตราเชิดชูเกียรติมากมาย ติดเต็มทั้งข้างหน้าข้างหลัง
หนังสือภาษาอังกฤษมีชื่อว่า “Anand Panyarachun and The Making of Modern Thailand” เขียนโดย นาย Dominic Faulder ผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษ ชื่อหนังสือแปลเป็นภาษาไทยก็ประมาณว่า “อานันท์ ปันยารชุน กับการสร้างประเทศไทยให้ทันสมัย” หรือนัยหนึ่งก็คือการมีบทบาทต่อความก้าวหน้าของประเทศไทยของคุณอานันท์ ปันยารชุน ในเหตุการณ์สำคัญๆ ของประเทศไทยช่วงปี พ.ศ. 2502-2535 โดยประมาณ
หลังจากการเปิดตัวหนังสือดังกล่าวแล้ว คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เพิ่งจะได้จัดวงเสวนาเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2562 ที่อาคารเกษม อุทยานิน โดยนายดอมินิค เฟาวเดอร์ ผู้เขียน ได้เป็นผู้เปิดตัวหนังสือ เล่าความเป็นมาและสาระเนื้อหาสำคัญๆ ของชีวิตคุณอานันท์ ปันยารชุน โดยใช้ภาพสไลด์ประกอบการบรรยาย
ผมเองได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่เป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์หนังสือเล่มนี้ ซึ่งก็เป็นภาระหนักหน่วงไม่ใช่น้อย ตั้งแต่ต้องรีบอ่านหนังสือให้แล้วเสร็จ ซึ่งยาวกว่า 500 หน้า น้ำหนักเป็นกิโลกรัม (ต้องอ่านแบบเร่งรัด ชนิดท่องหนังสือเพื่อสอบกันเลยทีเดียว) การต้องรับผิดชอบการวิพากษ์วิจารณ์นั้น ไม่มีผู้ร่วมอื่นๆ ผมต้องว่าไปคนเดียว
แต่ที่ทำให้หนักใจขึ้นไปอีกขั้นก็คือ งานนี้ คุณอานันท์ ปันยารชุน พร้อมด้วยบุตรคนที่สอง คุณดารณี ได้ให้เกียรติมาเข้าร่วมรับฟังด้วย โดยที่ผมไม่ทราบมาก่อน ซึ่งการพูดเกี่ยวกับบุคคลหนึ่งต่อสาธารณะ เป็นคนละเรื่องกับการพูดเกี่ยวกับบุคคลหนึ่งต่อหน้าบุคคลนั้น ผมก็เลยต้องปรับกระบวนยุทธ์สาระเนื้อหาจากที่ตระเตรียมมากันหน้างาน
โดยในการวิพากษ์วิจารณ์ครั้งนี้ ผมกล่าวโดยสรุปว่า คุณอานันท์ ปันยารชุน คือผู้นำที่มีพลังทางศีลธรรม (Moral Authority) ของสังคมไทย และตัวตนที่โดดเด่น และความสำเร็จในชีวิตของคุณอานันท์นั้น น่าจะได้รับอิทธิพล และได้รับการบ่มเพาะมาจากบิดามารดา (คุณเสริญ และคุณปฤกษ์) รวมทั้งครูใหญ่ (Mr.Christopher Herman Gilkes) ที่โรงเรียนประจำ Dulwich College ประเทศอังกฤษ อันได้แก่ คุณสมบัติของการดำรงชีวิตอยู่ในศีลในธรรม รับฟัง รับใช้ ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่เอาแต่ได้ ไม่เห็นแก่ตัว ทำการใดก็ทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และคิดถึงส่วนรวมเป็นหลัก ทั้งหมดนี้ทำให้คุณอานันท์ ปันยารชุน ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ไม่ว่าจะแตะต้องวงการใด ไม่ว่าทางภาคราชการ ภาคธุรกิจ ภาคการเมือง และภาคประชาสังคม
นอกจากนั้น ผมเลือกที่จะเชื่อมโยงคุณสมบัติต่างๆ ของคุณอานันท์ ปันยารชุน กับสภาวะการบ้านการเมืองของไทยในขณะนี้ เพื่อที่จะสะท้อนถึงประเด็น คุณสมบัติของผู้นำที่สังคมไทยต้องการอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในวันนี้ที่คนไทยมองไปทางไหน ก็เห็นแต่บรรดาผู้นำสังคมการเมืองและระบบราชการที่เต็มไปด้วยอัตตา โลภ หลง ยึดมั่นถือมั่นเพื่อตนเองเท่านั้น โดยไม่สนใจว่า มันจะนำมาซึ่งความเสียหาย (ฉิบหายวายวอด) ของสังคมไทยและทำให้การเมืองการปกครองล้มเหลวซ้ำซาก
หลังจากนั้น คุณอานันท์เองได้กรุณาเล่าความในใจให้ผู้ร่วมเสวนาได้ฟังกัน ซึ่งประกอบด้วยคณะทูต ภาควิชาการ และบุคคลทั่วไป โดยมีประเด็นว่า การจะรับใช้ประเทศ หรือองค์กรหนึ่งใดให้ได้ดี ให้ประสบความสำเร็จนั้น ผู้นำจะต้องได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ (Trust) และการจะได้มาซึ่ง Trust นั้น ก็ต้องไม่มีนอกมีใน ไม่มุ่งหวัง ทะเยอทะยานเป็นอื่น จะต้องทำงานการด้วยความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเท่านั้น กิจการงานใดเมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ก็เสร็จกัน ไม่พะวักพะวง รีๆ รอๆ หาอำนาจ หาเวทีกันต่อไปอีก
ด้วยคุณความดีต่อประเทศชาติและสังคมไทยเหล่านี้ ผมจึงขออวยพรให้คุณอานันท์ ปันยารชุน มีสุขภาพร่างกาย จิตใจแข็งแรง เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตให้กับเยาวชนชาวไทย และเป็นประกายให้สังคมไทยต่อไปนานๆ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี