ความจริงยาสูบนั้นแต่โบราณกาลมาถือว่าเป็นยาหรือโอสถชนิดหนึ่งในจำพวกคิลานะโอสถ คือยาที่สูบซึ่งมีอยู่สองชนิด คือที่สูบทางปากชนิดหนึ่ง ได้แก่บุหรี่และยาสูบในปัจจุบันนี้ กับอีกชนิดหนึ่งคือที่สูบทางจมูก ได้แก่ ยาสูบจำพวกที่ใช้ในการรักษาโรคริดสีดวงโพรงจมูก ไมเกรน โรคไซนัส รวมทั้งโรคมะเร็งในโพรงจมูกและกะโหลกศีรษะส่วนหน้าด้วย
ต้องจัดเป็นทรัพย์สมบัติของชาติชนิดหนึ่ง แต่ประชาชนไม่มีสิทธิ์ใช้สอยตามปกติธรรมชาติมานานแล้ว เพราะมีการสมคบสมรู้กันให้เป็นสินค้าผูกขาด
แต่โชคดีหน่อยหนึ่งตรงที่รัฐเป็นผู้ผูกขาดบุหรี่และยาสูบ โดยมีโรงงานยาสูบอันเป็นรัฐวิสาหกิจในกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือสิทธิ์ผูกขาดนี้ ดังนั้นผลประโยชน์จึงตกได้แก่ชาติบ้านเมืองบ้าง ต่างกับเรื่องกัญชาซึ่งกำลังใช้เล่ห์กลสารพัดหลอกลวงประชาชาติไทย แต่เพื่อการยกสมบัติชาตินี้ให้กับต่างชาติและเจ้าสัวโดยกีดกันไม่ให้ประชาชนใช้สอยตามสิทธิ์ที่พึงมี
รัฐบาลมีรายได้จากบุหรี่และยาสูบสามสถานคือ จากภาษีสรรพสามิตที่เก็บจากบุหรี่และยาสูบอย่างหนึ่ง จากการนำส่งกำไรของโรงงานยาสูบเป็นรายได้แผ่นดินอย่างหนึ่ง และจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับกรณีอนุญาตให้นำเข้าบุหรี่ต่างประเทศอีกอย่างหนึ่ง
และเป็นรายได้ที่เป็นล่ำเป็นสันประเภทหนึ่งในจำพวกรายได้จากรัฐพาณิชย์ ซึ่งมีการระบุตัวเลขในเอกสารประกอบงบประมาณประจำปีทุกปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ถือกันว่าใครได้รับช่วงสิทธิ์หรือเป็นเอเย่นต์หรือสัมปทานเกี่ยวกับบุหรี่ก็เหมือนเสือนอนกินที่มีแต่ความร่ำรวย
และเมื่อถึงยุคสมัยหนึ่งที่คนชั่วครองเมืองก็คิดอ่านผลาญชาติปล้นชาติอย่างเป็นระบบชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาเลย นั่นคือการใช้กลวิธีทำให้รัฐวิสาหกิจขาดทุน แล้วเลหลังขายสมบัติชาติ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ที่รัฐวิสาหกิจนั้นถือครองอยู่ในราคาถูกๆ แล้วขบวนการปล้นชาติก็นำไปทำมาหากินกันอย่างสำราญใจ
ในปัจจุบันนี้ก็มีข่าวว่าชะตากรรมของโรงงานยาสูบและองค์การเภสัชกรรม รวมทั้งการบินไทยก็มีชะตากรรมที่น่าวิตกห่วงใยอย่างยิ่งว่ากำลังตกอยู่ในค่ายกลที่จะมีผลทำให้เกิดการขาดทุนมหาศาลอย่างต่อเนื่อง จนมีความเสี่ยงที่จะต้องถูกเลหลังขายออกไปถูกๆ เหมือนหลายกรณีที่ผ่านมาก็ได้
นั่นเป็นเรื่องของสถานการณ์โกงชาติปล้นชาติที่กำลังแพร่ขยายยิ่งกว่าเชื้อหวัดในฤดูฝน แต่ก็โชคดีหน่อยหนึ่งที่บ้านเมืองนี้ศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏการณ์โกงชาติปล้นชาติทั้งหลายกำลังถูกจับตามองอย่างกว้างขวางทั่วทั้งฟ้าดินแล้ว คนทั้งหลายจึงตั้งตาคอยเหตุการณ์ฟ้าผ่าขบวนการปล้นชาติโกงชาติเหล่านี้ในสักวันหนึ่ง
แต่อีกเรื่องหนึ่งซึ่งกำลังทำให้สถานการณ์เกี่ยวกับบุหรี่และยาสูบเปลี่ยนแปลงไปอันเป็นผลมาจากพัฒนาการและนวัตกรรมใหม่ของโลก อันเกิดจากผลวิจัยที่เล็งเห็นว่า บุหรี่และยาสูบนั้นมีสารพิษเป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกายอย่างร้ายแรงแฝงฝังอยู่ และยากที่จะแก้ไขได้
จึงเกิดการคิดอ่านสรรหาวิธีให้มีการสูบบุหรี่แบบใหม่ขึ้นหรือที่เรียกว่าบุหรี่ไฟฟ้า ที่ใช้ประจุไฟฟ้าเป็นปัจจัยในการทำให้น้ำยาที่สกัดขึ้นบังเกิดควัน กลิ่น และรสเหมือนกับบุหรี่และยาสูบ โดยไม่มีนิโคตินหรือสารอันเป็นพิษหรือมลภาวะอันเป็นพิษติดมาด้วย
มิหนำซ้ำ ยังมีการสร้างกลิ่นได้หลากหลายชนิด แม้กระทั่งนำกลิ่นยาเส้นที่ใช้สูบกับไปป์หรือใช้ยาสูบที่ใช้ทำเป็นซิการ์ แม้กระทั่งทำเป็นกลิ่นรสผลไม้หลากหลายชนิดสุดแท้แต่จะเลือก ซึ่งเมื่อสูบแล้วก็จะสูบแบบบุหรี่หรือจะสูบแบบซิการ์หรือจะสูบแบบไปป์ก็ได้ตามใจชอบ
จะให้อารมณ์ความรู้สึกและสัมผัสต่างๆ เหมือนกับการสูบบุหรี่ยาสูบทั้งหลาย ที่ดีกว่าก็คือสามารถเลือกรสเลือกกลิ่นได้ มิหนำซ้ำ ควันที่เกิดขึ้นก็ไม่เกาะติดให้เหม็นเสื้อผ้าและสิ่งแวดล้อมใกล้เคียง จึงสามารถสูบในที่ทำงานหรือในห้องได้อย่างสบายใจเฉิบๆ
ทั้งราคาก็ไม่แพงนัก ทั้งชุดราคาพอๆ กับบุหรี่แค่ 10 ซองเท่านั้น แต่สามารถสูบได้ถึง 10 วัน โดยสามารถเปลี่ยนน้ำยาได้ในราคาราว 300 บาท แล้วก็ใช้สูบไปได้อีกราว 10 วันตามมากตามน้อย
ดังนั้นไม่ทันนานบุหรี่ไฟฟ้าก็แพร่หลายไปทั่วประเทศ ทำให้ผู้สูบบุหรี่ยาสูบทั้งหลายลดหรือเลิกการสูบบุหรี่ธรรมดาลงแล้วหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน ซึ่งสะดวกกว่า เท่กว่า ถูกกว่าและปลอดภัยกว่า
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กระทบต่อรายได้ของโรงงานยาสูบและรายได้ของรัฐด้วย ดังนั้น จึงได้ออกมาตรการเพื่อหวังจะรักษารายได้ดังกล่าวไว้ นั่นคือได้กำหนดเป็นความผิดที่มีโทษอาญาร้ายแรงพอๆ กับการปล้นทรัพย์หรือข่มขืนกระทำชำเรา
โดยกำหนดโทษให้ผู้ผลิต ผู้ขาย มีโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี สำหรับผู้ใช้มีโทษจำคุก 5 ปี อันสะท้อนให้เห็นว่าการพิจารณาและกำหนดเรื่องนี้ขาดความรู้ความเข้าใจอย่างยิ่ง ทั้งในหลักอาชญาวิทยาคือการลงโทษที่ผิดพลาดไม่เหมาะสมกับความผิด และขาดความรู้ในการบริหารรายได้ของรัฐอย่างร้ายแรง จนน่าวิตกว่าเมื่อเรื่องแค่นี้ยังไม่เข้าใจและทำความผิดพลาดแล้วเรื่องใหญ่โตกว่านี้จะไม่พาบ้านเมืองพินาศดอกหรือ
ก็ต้องกล่าวว่าโดยลักษณะของบุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่ใช่ของผิดกฎหมาย แต่กลับไปทำให้ผิดกฎหมายซึ่งจะเกิดปัญหาสังคมร้ายแรงตามมาในภายหลัง และกฎหมายใดที่ไร้ความเป็นธรรม กฎหมายนั้นก็ไม่มีทางบังคับได้ ดังนั้น เจตนาและกำหนดโทษในเรื่องนี้จึงคงไม่มีผล ซึ่งจะต้องคอยดูกันต่อไป
ก็ในเมื่อเรื่องนี้เป็นแค่ปัญหารายได้ของรัฐ ไฉนเล่าจึงไม่ใช้วิธีเรียกเก็บภาษีอากรให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพ ที่สำคัญคือต้องยอมรับความจริงของบุหรี่และยาสูบว่ากำลังเปลี่ยนแปลงไปแล้ว อย่าทำเป็นไดโนเสาร์แล้วจะยืนอยู่ในยุคใหม่นี้เลย!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี