เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2516 นิสิตนักศึกษาหลายสถาบันได้รวมกลุ่มรณรงค์เรียกร้องรัฐธรรมนูญ ซึ่งนำโดยนายธีรยุทธ บุญมี อดีตเลขาศูนย์กลางนิสิตนักศึกษา เดินแจกใบปลิวที่มีข้อความเรียกร้องรัฐธรรมนูญที่ท้องสนามหลวงและถูกตำรวจจับในข้อหา “บ่อนทำลายความมั่นคงในราชอาณาจักร” นั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งการล่มสลายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี จอมพลถนอม กิตติขจร โดยผู้ถูกจับกุมทั้งหมด จำนวน 12 คน เป็นเหตุการณ์เริ่มต้นที่ลุกลามจนเป็นเหตุจลาจลไปทั่วประเทศ
การแจกใบปลิวที่ท้องสนามหลวงและลุกลามไปทั่วแม้แต่บนสถานีตำรวจเพราะมีประชาชนที่ไม่ใช่นิสิตนักศึกษาเข้าร่วมด้วยมากขึ้นทุกที ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหาร จากนั้นได้ออกแถลงการณ์ตำหนิการกระทำของรัฐบาลที่จับกุมผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ
ต่อมาบรรดานิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัย นักเรียน และประชาชนทั่วประเทศได้รวมกลุ่มประกาศสนับสนุนการเรียกร้องรัฐธรรมนูญในเช้าวันที่ 8 ตุลาคม 2516 เพราะเห็นว่ากลุ่มนิสิตนักศึกษาที่เรียกร้องรัฐธรรมนูญทำไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เหตุการณ์ต่อมามีโปสเตอร์และมีการปราศรัยโจมตีการกระทำของรัฐบาลที่ท้องสนามหลวงอย่างรุนแรง ต่อมามีแถลงการณ์ร่วมของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โจมตีการจับกุมนักศึกษาทั้ง ๆ ที่เขาเหล่านั้นเพียงแสดงออกซึ่งความรักชาติและต่อสู้ด้วยสันติวิธี การจับกุมนักศึกษากลายเป็นการกระตุ้นให้บรรดานักศึกษาประชาชนโดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัยร่วมกันประท้วงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ข้อหาที่จับกุมผู้เดินแจกใบปลิวไม่ใช่การมั่วสุมทางการเมืองตามกฎหมาย เพราะการที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาที่ต่างคนต่างเดินแจกใบปลิวไม่ใช่เป็นการมั่วสุมจึงเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ผลจากการกระทำของรัฐบาลยิ่งก่อให้เกิดการรวมกลุ่มประท้วงเพิ่มขึ้น กล่าวคือ ผู้สนับสนุนผู้ถูกจับกุมได้รวมตัวกันทั้งคณาจารย์ นิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพิ่มขึ้นทุกทีมีการปราศรัยโจมตีพฤติกรรมของรัฐบาล
ต่อมาคณาจารย์จำนวนเกือบ 200 คน ได้ทำหนังสือถึงจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 ตุลาคม 2516 ขอให้ปล่อยผู้ถูกจับกุมซึ่งเป็นครั้งแรกที่คณาจารย์เข้าร่วมต่อมามีนักเรียน นักศึกษาและประชาชนจำนวนกว่าแสนคนเข้าร่วมชุมนุม ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย โดย นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เลขาธิการ ได้ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลปล่อยผู้ถูกจับกุม ภายในวันที่ 13 ตุลาคม 2516 รัฐบาลได้ให้ประกันผู้ต้องหาแต่ทางนักศึกษาต้องการให้ปล่อยโดยไม่มีเงื่อนไข ในวันที่ 13 ตุลาคม 2516 การเดินขบวนครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมออกเดินจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สู่ถนนราชดำเนินและปักหลักที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดยตั้งข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ ปล่อยผู้ต้องหาโดยไม่มีเงื่อนไข และต้องกำหนดประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่เรียกร้อง การชุมนุมของนิสิตนักศึกษา นักเรียน และประชาชนเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนเต็มถนนราชดำเนินถึงสะพานผ่านฟ้าขณะเดียวกันกรรมการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยได้ขอพระราชทาน เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ซึ่งในเวลา 16.00 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าและพระราชทานพระบรมราโชวาทว่า เมื่อนิสิตนักศึกษาได้ดำเนินการมาตรงเป้าหมายแล้วก็ขอให้กลับคืนสู่สภาพปกติเพื่อความสงบเรียบร้อย
เมื่อเวลาประมาณหนึ่งทุ่มขบวนนิสิตนักศึกษาและประชาชนได้เคลื่อนขบวนผ่านพระบรมรูปทรงม้า มีผู้ร่วมชุมนุมประมาณหนึ่งล้านคนและไม่ยอมเลิกชุมนุมจนเวลาใกล้รุ่งของวันที่ 14 ตุลาคม 2516 การชุมนุมเริ่มสลายตัวหลังจากศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาได้ประกาศผลการเข้าเฝ้าฯ หลังจากนั้นเกิดการปะทะกับตำรวจทำให้มีการเสียชีวิตส่งผลให้กองทัพประชาชนต่อสู้กับตำรวจจึงเกิดวันมหาวิปโยคที่เริ่มต้นด้วยการปราบปรามของฝ่ายรัฐบาลอย่างรุนแรงทำให้เกิดการก่อวินาศกรรมโดยกองทัพประชาชนขึ้นหลายแห่ง เช่น การเผาสำนักงานสลากกินแบ่ง ยึดโรงพักชนะสงครามเผากรมประชาสัมพันธ์ เผาตึก ก.ต.ป. ยึดและเผารถดับเพลิงฯลฯ เป็นต้น การจลาจลเกิดขึ้นรัฐบาลโฆษณาโจมตีว่ากองทัพประชาชนมีผู้ก่อการร้ายร่วมอยู่ด้วยแต่ไม่มีใครเชื่อฟัง ในที่สุด จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งพร้อมคณะรัฐบาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ สงบลง
สุดท้ายนี้ขออัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บางตอนเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2516 เวลา 19.30 น. โดยรับสั่งว่า “วันนี้เป็นวันมหาวิปโยคที่น่าเศร้าสลดยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย.....”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี