แรกเริ่มเกิดม็อบฮ่องกง สื่อบางพวกก็ขานรับกระแสสื่อจากต่างประเทศ ยกย่องสรรเสริญการก่อม็อบในลักษณะนั้นว่าเป็นม็อบประชาธิปไตย เป็นความหวังของชาวฮ่องกง และเป็นหนทางที่จะดำรงความเป็นอิสระของฮ่องกง โดยเฉพาะในช่วงเวลาของการจัดระบบการปกครองแบบหนึ่งประเทศ สองระบบ
แต่ไม่ช้านานม็อบฮ่องกงก็ออกอาการเผยโฉมหน้าที่แท้จริงที่พยายามปกปิดซ่อนเร้นอยู่ภายใต้หน้ากากสองอันคือหน้ากากประชาธิปไตยและหน้ากากสิทธิมนุษยชน
ไม่ใช่การเปลี่ยนสีแปรธาตุ แต่กรณีเป็นเรื่องหน้ากากประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่หลุดหรือถูกฉีกโดยลำดับ ที่สำคัญคือการฉีกโดยม็อบเองจึงทำให้เห็นหน้าจริงของการก่อม็อบครั้งนี้อย่างชัดเจน และทำให้สถานะของม็อบฮ่องกงเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
หลังจากการก่อม็อบไม่นาน ก็มีการเผยแพร่ภาพและข้อเท็จจริงให้เห็นว่าการก่อม็อบครั้งนี้มีต่างชาติอยู่เบื้องหลัง มีภาพการพบปะหารือกันระหว่างแกนนำม็อบกับตัวแทนสถานทูตต่างชาติในฮ่องกง ซึ่งเป็นการผิดข้อตกลงทางการทูตที่นักการทูตเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น
แค่ปรากฏภาพลักษณ์เช่นนั้น ทั่วโลกก็ตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยว่าม็อบฮ่องกงเป็นม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยบริสุทธิ์หรือเป็นม็อบขี้ข้าของต่างชาติกันแน่ แต่อาจเพราะความฮึกเหิมลำพองหรืออวดดื้อถือดีในการสนับสนุนของต่างชาติ แกนนำม็อบเหล่านั้นก็มองข้ามความรู้สึกของชาวโลกไป ยังคงเดินลึกเข้าไปในหุบเหวแห่งหายนะ นั่นคือการฉีกหน้ากากประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
จากนั้นก็มีการเรียกร้องให้สหรัฐและอังกฤษเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในฮ่องกง ถึงขนาดเอาธงชาติอังกฤษและสหรัฐมาใช้ในการเดินขบวนอย่างเปิดเผย ซึ่งต้องนับว่าเป็นปรากฏการณ์ไร้เดียงสาที่น่าสมเพชอย่างยิ่ง กระนั้นแล้วก็หาได้รู้สึกสำนึกไม่
ยังคงเดินหน้าต่อไป เรียกร้องให้สหรัฐและอังกฤษเข้ามายึดและปกครองฮ่องกง พร้อมทั้งได้ยกระดับการชุมนุมไปสู่ความรุนแรงขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
หวังยั่วยุให้จีนส่งกำลังเข้ามาปราบปราม ซึ่งจะเป็นการทำลายภาพลักษณ์หรือจังหวะก้าวสำคัญของการจัดงานฉลองการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนครบรอบ
70 ปี แต่จีนก็ยังคงนิ่งเฉย
อย่างมากที่สุดจีนก็แค่เตือนต่างชาติที่เข้าแทรกแซงหรืออยู่เบื้องหลังการชุมนุมม็อบว่าจีนไม่ยอมรับการแทรกแซงเช่นนั้น และจะไม่มีวันให้ต่างชาติประสบความสำเร็จในการบ่อนทำลายความมั่นคงของจีน จึงทำให้แผนการยั่วยุดังกล่าวล้มเหลวลง
ม็อบฮ่องกงได้ยกระดับความรุนแรงมากขึ้นโดยการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ โดยเฉพาะสิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ แต่ในที่สุดก็ถูกโต้แย้งจากคนฮ่องกงเอง เพราะการทำลายสิ่งสาธารณูปโภคผลก็คือการทำลายความสะดวกสบายของคนฮ่องกงนั่นเอง ยิ่งทำลายมากเท่าใดคนฮ่องกงก็ยิ่งลำบากมากเท่านั้น หรือถ้าถึงขั้นทำลายรถขนส่งสาธารณะสัก 4-5 สาย ฮ่องกงก็จะเป็นอัมพาต ทั่วทั้งเกาะฮ่องกงและเกาลูนก็คงต้องเดินเท้าในการไปไหนมาไหน
การยกระดับความรุนแรงถึงขั้นปิดสนามบินก็แล้ว ทำลายสิ่งสาธารณูปโภคบางแห่งก็แล้ว แต่รัฐบาลจีนและฮ่องกงก็ยังคงเฉย แผนพลิกตำราขาดเป็นทิวแถว แต่กระนั้นก็ไม่สำเหนียกว่าการก่อการร้ายด้วยแผนร้ายเช่นนี้นอกจากไม่ได้ผลแล้วกลับสร้างพิบัติใหญ่หลวงให้เกิดขึ้น
พิบัติใหญ่หลวงนั้นก็คือความยากลำบากและความเดือดร้อนของคนฮ่องกงที่เพิ่มมากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง การทำมาหากินต้องหยุดชะงักหมดสิ้น เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนกล้าไปฮ่องกง ร้านค้าต่างๆ พากันปิด สภาพร้างปรากฏให้เห็นในถนนหลายสาย ภาพร้างเหล่านั้นก็คือภาพการขาดรายได้ของคนฮ่องกงที่เป็นลูกจ้างกิจการทั้งหลายจึงกระทบเป็นวงกว้าง
เมื่อร้านค้าทั้งหลายปิดตัวลง คนฮ่องกงซึ่งมีปกติต้องกินอาหารนอกบ้านเพราะส่วนใหญ่ไม่ทำครัวหาอาหารกินเอง ความเดือดร้อนจึงขยายตัวลงลึกไปถึงแทบทุกครัวเรือน
แทนที่แกนนำม็อบฮ่องกงหรือผู้บงการเบื้องหลังจะสำเหนียกกลับถูกมิจฉาทิฐิครอบงำ ยกระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก นั่นคือการเผาสถานที่ประกอบการต่างๆ ของเอกชน โดยเฉพาะสถานที่ทำการของบริษัทจีนที่ลงทุนในฮ่องกง รวมทั้งการทำลายอาคารสถานที่และการปล้นสะดมของผู้ประกอบการในฮ่องกงด้วย
แสงไฟจากการเผาบ้านเผาเมืองลุกโชติช่วงอย่างต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว และถ้ายังคงเดินหน้าเผาบ้านเผาเมืองกันต่อไปแสงไฟก็จะแดงฉานให้เห็นเป็นประจำเช่นนี้ต่อไป และนั่นก็หมายถึงสภาพฮ่องกงร้างและพินาศวายวอดก็จะปรากฏขึ้น
กองบัญชาการกองทัพปลดแอกประชาชนจีนประจำฮ่องกงได้ส่งสัญญาณและออกคำเตือนห้ามไม่ให้ม็อบเข้าใกล้สถานที่ทำการของกองบัญชาการโดยเด็ดขาด ซึ่งไม่ใช่เป็นการแสดงท่าทีที่จะปฏิบัติการทางทหารแต่อย่างใด
ทว่าเป็นการส่งคำเตือนมิให้ม็อบเข้ามาใกล้ซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่สำนักงานของกองบัญชาการทหารดังกล่าว และแม้ว่าจะเป็นคำเตือนในระดับต่ำสุดคือ
ยังไม่ถึงขั้นยื่นคำขาด ก็มิได้หมายความว่าถ้าหากม็อบมุ่งจะทำอันตรายต่อกองบัญชาการนี้แล้ว ทหารจีนก็คงต้องใช้กำลังในการรักษากองบัญชาการนี้ไว้
และคงปล่อยให้คนฮ่องกงเผาผลาญทำลายฮ่องกงให้ราพณาสูรเองซึ่งจะไม่เปลืองแรงในการต้องรื้อถอน ในการ Refresh ฮ่องกงและเกาลูนใหม่แบบที่ปฏิบัติในเซินเจิ้น ในขณะเดียวกัน ก็โหมพัฒนาและดึงการลงทุนเข้าสู่เซินเจิ้นอย่างอึกทึกครึกโครม จนใครจะกินอาหารดีๆ หรือจะไปเที่ยวก็มุ่งไปเซินเจิ้นกันหมด
ก็คอยดูม็อบฮ่องกงช่วยจีนเผาบ้านเผาเมืองโดยที่จีนไม่ต้องรื้อถอนเองต่อไป!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี