l ในชีวิตของแต่ละผู้ รูปนามของแต่ละคน จะมีระยะผ่านสำคัญ คือ จุดหรือสถานี ที่เรียกว่า หลักไมล์ บางคน ยึดเอาวันที่สูงสุดของชีวิตการงาน บ้างเอาวันเกษียณอายุ ๖๐ ปี ที่ได้หยุดจากหน้าที่การงานไม่น้อยคนหยุดทุกอย่าง แล้วมุ่งหน้าใช้ชีวิต ท่องเที่ยวไปทั่วโลกทำในสิ่งที่ปรารถนาจะทำ ก่อนจะจากไปบอกว่า“งานสืบทอดต่อไป ทั้งเรื่องงานของตัว ครอบครัว งานบริษัท เป็นของลูกหลาน เราพอแล้วบ้านเมืองมิใช่ของเราคนเดียว เราทำมาอย่างดีที่สุด ทุ่มเททุกอย่างให้ เราจึงควรจะหาความสุขใส่ตัวบ้าง”
@ ขณะที่คนส่วนน้อย วัย ๗๐-๘๐ และใกล้จะถึงเลข ๙ ยังคงทำ เดินหน้าต่อไปไม่หยุด...“บ้านเมืองยังวิกฤติ ลูกหลานเยาวชน จะอยู่ในสังคมได้อย่างไร?“แม้ว่าเราก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย! แล้วเราจะตอบ “ตัวเอง” หรือเงยหน้าเผชิญกับบรรพบุรุษ ที่กอบกู้บ้านเมืองมา ให้เรามีชีวิตที่สุขได้อย่างไร?
@ อะไร คือ ความเหมือนและความต่างของทางสองสาย ที่สองชราชน คิดต่อชีวิตของตนจิตสำนึกของตน คำสั่งสอนของพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ และพระหรือนักบวช ที่เราเคารพนับถือ แม้ว่า “คนเราเลือกเกิดไม่ได้”แต่เราเลือก “ตาย” ได้ ตายอย่างไร? ตายเพื่อใคร?เป็น อัตต วินิจฉัยของแต่ละคนที่จักกำหนดเส้นทางเดิน ปลายทางของชีวิตอตฺตพฺยาพาธายได้แก่ เพื่อให้ตนเองลำบาก
ปรพฺยาพาธาย ได้แก่ เพื่อให้บุคคลอื่นลำบาก ฯลฯ
(อัตตสูตรที่ ๗)
“อัตตาหิ อัตโนนาโถ” - ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
+ “ผู้ที่ฝึกตนไว้ดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งอันหาได้ยาก”
ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนญฺญสรณา : มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นสรณะ ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะดังนี้
@ ตัวเองกำหนดเส้นทางเดินของชีวิตไว้แล้ว
เป็นเส้นทางเดิม ที่เคยเดินมาตลอดชีวิต ผ่านเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประชาธิปไตยมาทุกครั้งนับตั้งแต่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖...สู้มาทุกสมรภูมิ ตั้งแต่เริ่มต้นเหตุการณ์ ระหว่างและอยู่จนเหตุการณ์จบลงผ่านการเกือบตาย มาหลายครั้ง ทั้งในเมือง ในชนบท ที่ไม่เคยคิดเคยฝัน ว่า “มันมิใช่นิยาย แต่เป็นเรื่องจริง!เป็นสงครามในท้องถนน ในทุ่งกว้าง ป่าเขาลำเนาไพร เป็นสงคราม คดีความยุติธรรมในโรงศาล หน้าบัลลังก์เห็นคนหนุ่มสาว ล้มลงต่อหน้าต่อตา เช็ดเหงื่อเช็ดน้ำตาเชือดเลือดต่อหน้าวีรชนคนกล้าฯ ของแผ่นดินเห็น“คนจริง” น้อมรับคำตัดสินของฟ้าดิน เดินอย่างสง่า ทระนงองอาจ เข้าสู่เรือนจำ ที่มีไว้ขังคนผิดแต่ “สำหรับเพื่อนเรา” ที่ต่อสู้เพื่อผดุงรักษาความยุติธรรม สิทธิเสรีภาพของบ้านเมือง “กลับมาโดนเองไม่หนี ไม่กล่าวหากระบวนการยุติธรรม เหมือนใครบางคน บางฝ่ายบางพรรค บางพวก
มันเป็นเรื่องอะไร? จิตใจกล้าต่อสู้เพื่อมวลชน หรือตะโกนให้มวลชนไปสู้ไปรบ แต่ตัวเองอยู่ข้างหลังเอาตัวรอด
เราเห็นภาพ “ขาวดำตัดกันอย่างชัดเจนต่อหน้าต่อตา” เข้าใจชัดแก่ใจ เพราะ “ตัวเรา เพื่อนเราน้องเรา” ก็ต้องมาโดน ความยุติธรรมที่ยังมาไม่ถึงกระทำ “ยืนสงบนิ่ง ใจก้มหัว คาราวะ” แล้วสัญญากับตัวเอง...ขึ้นไปบนภูสูง นั่งสงบนิ่ง รำลึกถึง“ผู้กล้า” ทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา : เน้น ข้ออ่อนความผิดพลาด บ่อน้ำใส สะอาด ที่สะท้อนความจริงแสงอาทิตย์แสงจันทร์ที่ สว่าง เหนือหัว ความสงบของป่าเขาลำเนาไพรถึงทิศทางที่จะเดินต่อไปข้างหน้า ที่ได้ผล แม้จะก้าวได้ช้าๆ เราก็จะเดิน อ้อ ได้เดิน แล้วจะเดินต่อไป
l สัจธรรมของชีวิต :
เกิดมาเป็น “คน” : สิ่งที่ประเสริฐที่สุด มีคุณค่าความหมายยิ่งกว่าสรรพสัตว์ใดๆ
เกิด แก่ เจ็บ ตาย
คือ “เราต้องตาย ไม่เร็ว ก็ช้า ในเวลาที่เหลืออยู่ อีกไม่มากนัก” ยามอยู่เราสามารถใช้ “ความคิด ชีวิตจิตวิญญาณ รูป กายใจ ของเรา ทำได้” แต่หากเราต้องการให้ “ความคิด จิตวิญญาณ ความทรงจำที่มีคุณค่า” ยังอยู่ได้ต่อไปเราต้องทำอะไร?
สิ่งที่คุ้นเคย เคยทำมาจนมีประสบการณ์ของชีวิต คือ “การทำหนังสือที่ทรงคุณค่า” ออกมาสักเล่มแต่“จะทำหนังสืออะไร? อย่างไร?” การเขียนบันทึก บนใบลาน เอ๋ย ในหนังสือเล่มเล็กๆ สัก ๑ เล่ม น่าจะดีนะจะนำเอา “บทความข้อเขียน ที่เขียนมากว่า ๑,๐๐๐ ชิ้นตามสื่อ นสพ. เฟซบุ๊คฯ” มาลง ก็คงใช้ได้ แต่มาสรุปว่า“อายุ ๗๐ มีครั้งเดียว และอาจจะ...เขียนเป็นครั้งสุดท้าย”ควรจะต้อง “เป็นเรื่องข้อคิดที่กลั่นมาจาก “ใจ” เพื่อให้ถึง “ใจ” คนที่รัก และดีต่อเราเสมอมา จึงเริ่มลงมือถ่ายทอดออกมาจากใจเป็นตัวหนังสือฯ ในทุกเช้า และ ทุกวัน ที่ไม่มีภารกิจฯ
l อีกประเด็นที่สำคัญยิ่ง และเป็นความตั้งใจ เป็นสิ่งที่ได้ทำมาตลอดชีวิต
คือ “การทำให้วัย ๗๐ และหนังสือนี้” มีคุณค่าความหมาย และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นฯ คือ “สิ่งที่ได้ทำมา คือ การคืนให้กับสังคม” ให้กับ “คนที่ยังทุกข์ยังขาดสุขฯ” เป็นการตอบแทนบุญคุณ น้ำมิตรน้ำจิตน้ำใจต่อคนที่มีอุดมคติ คนเล็กคนน้อย บนแผ่นดินเรา เติบโตพัฒนา ก้าวมาถึงวันนี้ เพราะ “มีคนรัก ปรารถนาดี และจริงใจ” มาตลอดเส้นทางชีวิตคือ : ปรารถนาจะหาเงินสักก้อน ตั้งเป็น “กองทุน : เพื่อนที่มีช่วยเพื่อนที่ขาด”
l ถัดมา เรื่องชื่อ หนังสือ จะตั้ง ชื่อ อะไร
“ถอด รูป กาย ใจ ชีวิต ความคิด จิตวิญญาณ ผ่านกงเกวียนกงกรรม ๗๐ รอบ ที่ก่อเกิดเป็นมนุษย์”เป็น ชื่อ หนังสือ เล่มล่าสุด ที่ภาคภูมิใจที่สุด ในชีวิต
l ติดตาม : ตามติด นะ ครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี