อีกแป๊บเดียวพี่น้องคนไทยจะได้ร่วมฉลองงานส่งท้ายปีเก่า 2562 ต้อนรับปีใหม่2563 อย่างทั่วหน้า น่าสนใจก็คือว่าพี่น้องประชาชนจะเดินทางกลับต่างจังหวัดค่อนประเทศ หลายหน่วยงานจึงเตรียมพร้อมเรื่องการจราจรให้เดินทางอย่างปลอดภัยโดยเฉพาะพระเอกของงาน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแผนเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563
โดย เตรียมรถโดยสารสาธารณะและซ่อมแซมถนนไปล่วงหน้าแล้ว ให้มีสภาพดีพร้อมใช้งาน จัดทำป้ายรณรงค์ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อช่องทางต่างๆ ช่วงระหว่างเทศกาล 8 วัน (26 ธันวาคม2562-2 มกราคม 2563) อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนทั้งขาไปและกลับได้อย่างเพียงพอ ไม่ล่าช้า ไม่เกินราคา ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง อำนวยความปลอดภัยการบริการขนส่งสาธารณะ บริเวณสถานีขนส่งโดยสารอย่างเข้มข้น จริงจัง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
สำหรับกำหนดมาตรการอำนวยความสะดวก 5 มาตรการ คือ 1.แผนการให้บริการและอำนวยความสะดวก โดยจัดเตรียมและเพิ่มจำนวนขนส่งสาธารณะให้เพียงพอ2.อำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายการเดินทาง โดยยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง การเพิ่มเที่ยวและรอบบริการ 3.จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานี พร้อมเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชนภายในสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟ และสถานีรถไฟฟ้าให้มีความพร้อม 4.อำนวยความสะดวกด้านข้อมูลการจราจรและเรื่องร้องเรียน ผ่านศูนย์ปฏิบัติการคมนาคม (MOTOC)สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารช่วงเทศกาล และแอพพลิเคชั่นรับเรื่องร้องเรียน 5.จัดให้บริการประชาชน โดยตั้งจุดบริการในสถานี เส้นทางสำคัญ เพื่อให้บริการแก่ผู้เดินทางตลอด 24 ชั่วโมง
รวมทั้งมีจุดบริการร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อให้บริการช่วยเหลือผู้เดินทางกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน บริการที่พักผ่อน น้ำดื่ม บริการข้อมูลต่างๆ และการตรวจสภาพรถและเปลี่ยนอะไหล่บางรายการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมมีแผนที่จะเสนอมาตรการลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน เช่น ลดราคาระบบรถไฟฟ้าต่างๆ ถือเป็นของขวัญให้แก่ประชาชน เนื่องจากมาตรการเหล่านี้จะออกก่อนเทศกาลปีใหม่นั้น จะต้องขอความเห็นชอบจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11 ธันวาคม 2562 หรือไม่เกินวันที่ 17 ธันวาคมนี้
ครับก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการลดค่าครองชีพของประชาชน ที่ล่าสุดนายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า การทางพิเศษฯ จะเสนอมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชน ตามนโยบายของ นายศักดิ์สยามชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาในวันที่ 24 ธันวาคม 2562
มาตรการดังกล่าวเป็นการลดค่าผ่านทางให้ผู้ถือบัตร Easy Pass 10% จากอัตราปกติ โดยจะปรับลดรวม 6 ด่าน บน 2 ทางพิเศษ (ทางด่วน) ได้แก่ สายเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) และสายศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ตลอดทั้งวัน แบบไม่มีเงื่อนไขเวลา จากเดิมเคยเสนอไปจะปรับลดเฉพาะช่วงเวลา 04.00-07.00 น. เท่านั้น
“หากบอร์ดเห็นชอบก็น่าจะประกาศใช้ได้เลยในวันที่ 27 ธันวาคม 2562 โดยนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต้องการให้ปรับลดแบบไม่มีเงื่อนไขเวลา ดังนั้น การทางพิเศษฯ จะปรับลดค่าผ่านทาง Easy Pass ให้ทั้งวัน จากเดิมที่เคยเสนอไปจะปรับลดเฉพาะช่วงตี 4 ถึง 7 โมงเช้า รวมทั้งจะปรับลดตลอด 7 วัน และทดลองก่อนเป็นระยะเวลา 30 วัน”นายสุชาติกล่าว
สำหรับมาตรการดังกล่าว การทางพิเศษฯประเมินว่าจะทำให้สูญเสียรายได้ราว 18-19 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากข้อเสนอเดิมที่จะสูญเสียรายได้เพียง 3.3 ล้านบาทต่อเดือน แต่ก็จะไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของการทางพิเศษฯ เนื่องจากสามารถนำดอกเบี้ยที่อยู่ในวงเงินบัตร Easy Pass มาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้ โดยปัจจุบันการทางพิเศษฯ มีสมาชิกบัตร Easy Pass จำนวน 1 ล้านบัญชี และมีประชาชนใช้บริการ Easy Pass อยู่ราว 1 แสนคันต่อวัน
ครับงานนี้ถือว่าชัดเจนมาก เป็นการลดภาระค่าครองชีพ ค่าใช้จ่าย ให้ประชาชนจริงๆตามนโยบายของพรรคภูมิใจไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี