การกระทำของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ทั้งนายธนาธร นายปิยบุตร และนางสาวพรรณิการ์
คือ สิ่งที่ลอกคราบ เปลือยตัวเองออกมาทั้งหมด
ทำให้สังคมเห็น “ธาตุแท้”
ว่าก่อนเลือกตั้ง เคยสร้างภาพว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ภาพลักษณ์ใสสะอาด ทำงานการเมืองสร้างสรรค์ ไม่ทำลายล้าง ไม่เล่นสกปรก เป็นประชาธิปไตย ใจกว้าง รับฟังเสียงของผู้เห็นต่าง
มาบัดนี้ เป็นการเมืองสร้างสรรค์อย่างที่เคยสร้างภาพ หรือการเมืองน้ำเน่า โสโครก โสมม มุ่งทำลายล้างคนที่ไม่ตอบสนองความต้องการของตนเอง ใจแคบ เอาแต่ความต้องการของตนเป็นความถูกต้อง พร้อมทำลายทุกสถาบันเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง?
เป็นพระเอก-นางเอกละครเกาหลี หรือแท้จริงแล้ว ก็คือ “ตัวร้าย”-“นางอิจฉา” ?
เหตุการณ์ที่เปลือยตัวตนออกจนล่อนจ้อน แม้แต่ผู้ที่เคยสนับสนุนก็เอือมระอาสุดจะทน คือ กรณีที่กระทำกับ สส.พรรคอนาคตใหม่ 4 คน และการเสี้ยมให้คนรุ่นใหม่เป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์
1. การประชุมขับ สส.พ้นพรรค 4 คนเสร็จ แถลงข่าว ออกข่าว ให้สัมภาษณ์ซ้ำเติมอีกหลายวัน ให้มวลชนไปเผาหุ่น เหยียบทึ้งรูปใบหน้า สส. ตั้งโต๊ะไล่ล่าให้ลาออก ฯลฯ
พอ สส.เหล่านั้น ทยอยไปเปิดตัวกับพรรคการเมืองใหม่ บางคนสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่แล้ว บางคนยังไม่ได้สมัคร เพราะรอเอกสารลายลักษณ์อักษรว่าได้ขับออกจากสมาชิกพรรคอนาคตใหม่แล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะมีการเล่นตุกติก
แต่พอมาถึงเส้นตาย 30 วัน ที่ สส.เหล่านั้นต้องหาสังกัดใหม่ตามรัฐธรรมนูญ แกนนำพรรคอนาคตใหม่กลับอ้างว่า จะต้องตรวจสอบความถูกต้องขององค์ประชุมก่อน แถมส่งรายงานอัพเดทสมาชิกพรรคล่าสุดไปให้ กกต.ว่าคนเหล่านั้นยังเป็นสส.พรรคอนาคตใหม่อยู่
เรื่องนี้ แค่เด็กมัธยมก็ดูออกว่า เป็นการเล่นเกมการเมือง กลั่นแกล้ง วางยาวางกับดัก ไร้ยางอายที่สุด
หวังให้ สส.ที่ถูกขับออกไปแล้วนั้น เมื่อไปสมัครพรรคการเมืองอื่น แล้วแกนนำพรรคอนาคตใหม่ก็อ้างว่ายังเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่อยู่ เพื่อให้เกิดปมปัญหาเป็นสมาชิกซ้ำซ้อนกันสองพรรค เพื่อให้เกิดปัญหาไปสู่ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญต่อไปอีกไม่หยุดหย่อน
นักการเมือง พรรคการเมือง ที่สร้างภาพว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เล่นการเมืองสร้างสรรค์ ทำกันอย่างนี้หรือ?
เล่นแบบนี้ แท้จริงเป็นบทพระเอก-นางเอกละคร หรือบท “ตัวร้าย” -
“นางอิจฉา” ?
2. สส.กวินนาถ ตาคีย์ ผู้ไปสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไทแล้ว ล่าสุดโพสต์คลิปเหตุการณ์ในวันประชุม ที่นายปิยบุตรเป็นประธานการประชุมและดำเนินการประชุมเองทั้งหมด พร้อมระบุว่า
“ผมหาคลิปการลงมติในวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ที่มีการขับ สส. 4 คนออกมาให้ดู ซึ่งในวันดังกล่าวท่านเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อ.ปิยบุตร) ได้นับองค์ประชุมก่อนที่จะมีการลงมติชัดเจน งานนี้จะมีเรื่องแจ้งเอกสารเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือไม่รอดูกันต่อไปครับ”
3. เจ๊ดา อนาคตจันท์ อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีผู้เคยสัมผัสเล่ห์เหลี่ยมและความไม่ตรงไปตรงมาของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ด้วยตัวเองมาก่อนแล้ว ระบุว่า
“... เห็นอาการดีอกดีใจของท่านเลขาธิการพรรค ที่ให้ข่าวถึง สส.ทั้ง 4 ท่าน เกิดอาการวิตกว่าจะเข้าสังกัดพรรคไม่ทันภายใน 30 วัน จึงทำให้หวนนึกถึงในวันที่เจ๊ดาและทีมงานอนาคตจันท์ทำการกรอกข้อมูลในระบบออนไลน์ของทางพรรค เพื่อทำการสมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นในสังกัดพรรคอนาคตใหม่ ตามวันและเวลาที่ทางพรรคได้กำหนดไว้
มันเป็นไปไม่ได้ที่พรรคของคนรุ่นใหม่อย่างพรรคอนาคตใหม่จะเกิดการผิดพลาดได้อย่างเหมือนมีการจัดวางไว้ ทั้งๆที่ทีมงานเราได้ทำการสมัครตามระเบียบระบบและตามขั้นตอนอย่างถูกต้องทุกประการ จนถึงในขั้นตอนของการกรอกข้อมูลการสมัครผ่านระบบออนไลน์ ลูกทีมเจ๊ดาสามารถกรอกข้อมูลได้หมด จะมีปัญหาก็เว้นแต่ตัวหัวหน้าทีม คือ ตัวเจ๊ดาเพียงคนเดียวที่กรอกข้อมูล แต่ไม่สามารถบันทึกข้อมูลในระบบได้ เหมือนมีการบล็อกไว้ในระบบ #เพื่อจงใจที่จะให้เลยกำหนดการรับสมัคร
เมื่อวันนี้มีข่าวออกมาเรื่องของสส.ทั้ง 4 ท่าน มันตรงกับที่เคยเกิดขึ้นกับเราเช่นกัน
ทำให้รู้เลยว่า “ความคิดเด็กๆ” ของพวกคุณในวันนั้น คงยิ้มเหมือนท่านเลขาธิการพรรคอนค.ในวันนี้
มันเป็นเพียงอารมณ์ของคนที่ต้องการจะเอาชนะ แบบสกปรก
จะให้คิดเป็นประเด็นอื่นไม่ได้แน่ !!!
พวกคุณและคณะกรรมการของคุณรู้จักคำว่า “วิบากกรรมมั้ย?”
สิ่งที่พวกคุณทำกับพวกเราทุกคนที่ผ่านมา จนวินาทีนี้
ที่พวกคุณผลักให้เป็นสนิมบ้าง ขยะบ้าง
พวกเรากำลังนั่งดูความหายนะของพวกคุณอยู่ !!!
ถ้าพวกคุณยังไม่หยุดสร้างความวุ่นวาย ความแตกแยกให้กับคนในชาติ เชื่อเถอะ ว่าวิบากกรรมครั้งนี้
มันจะย้อนกลับเข้าไปหาตัวพวกคุณอย่างสาหัสสากรรจ์ !!!...”
4. อาจารย์ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกตว่า
“...กรณีของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ที่กระทำต่อ สส. 4 คน ที่กรรมการบริหารและ สส.ของพรรคมีมติให้ไล่ออกจากพรรคนั้น ถ้าเกิดขึ้นในภาคใต้คนใต้เขาถือว่าเป็นการเหยียดหยามดูหมิ่นศักดิ์ศรีกันมากเกินไปแล้ว เขาคงไม่ยอมให้เป็นฝ่ายถูกกระทำข้างเดียว...”
และ อ.ชูชาติยังรู้ทันต่อไปอีกด้วยว่า
“...นายปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมเพื่อพิจารณาลงมติขับ 4 สส. ของพรรคอนาคตใหม่ กล่าวชัดเจนว่าองค์ประชุมครบตามกฎหมาย
แต่พรรคอนาคตใหม่ทำหนังสือแจ้ง กกต. กลับอ้างว่าต้องตรวจสอบก่อนองค์ประชุมครบหรือไม่
การกระทำดังกล่าวนอกจากแสดงให้เห็นถึงการเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้แล้วยังเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานด้วย
ถ้ามีคนร้องขอให้ กกต.ดำเนินคดี พรรคอนาคตใหม่ก็คงออกมาโวยวายอีกว่าถูกผู้มีอำนาจกลั่นแกล้ง ต้องการกำจัดพรรคอนาคตใหม่ในลักษณะเป็นแผ่นเสียงตกร่องอีก”
5. พฤติกรรมเหล่านี้ ถ้าย้อนกลับไปอ่านข้อเขียนของอดีตผู้สมัคร สส.พรรคอนาคตใหม่ ดร.โจ-ชาญวิทย์ ใจสว่าง จะยิ่งตอกย้ำทำให้เห็นชัดเจนว่า แกนนำพรรคอนาคตใหม่นั้น อุดมไปด้วย “วิชามาร” ขนาดไหน
หาได้สดใส สร้างสรรค์ ตามแบบคนรุ่นใหม่ ฯลฯ ตามที่พยายามสร้างภาพกันไม่
ดร.โจ-ชาญวิทย์ ใจสว่าง เคยชี้ว่า
“...สังคมอยากเห็นความก้าวหน้าระบบประชาธิปไตย เหมือนที่ผมวาดหวังไว้ แต่ผมไม่เชื่อว่า อนาคตใหม่ จะทำอย่างตรงไปตรงมา อนาคตใหม่จะทำเหมือนพระยันตระ คือเทศน์ดีมีคุณธรรม แต่มั่วสีกา โดยแสดงธรรมสวยๆ เหมือนจะพาให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด…
…อนาคตใหม่มารูปแบบนี้ ไปที่ไหนจะสร้างประชาธิปไตยที่นั่น แสดงหลักประชาธิปไตยสวยๆ กระจายอำนาจ ป้องกันผูกขาด ทำลายระบบอุปถัมภ์ ปรามปราบคอร์รัปชัน แต่ทั้งหมดดำรงอยู่ในพรรคอนาคตใหม่อย่างเหนียวแน่น กรรมการบริหารพรรค 5 คน กุมอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จ โดยมีบัญชีรายชื่อ 20 อันดับแรกรับใช้อย่างใกล้ชิด เขาตีวงบริหารพรรคกันแค่นี้ ปัจจุบันยังเป็นแบบนี้
ไม่มี สส. ผช.สส. คนไหน ปฏิเสธว่าสิ่งที่ผมพูดไม่เป็นความจริง ที่โทร.มาและนัดพบยังบอกว่า นับวันมีแต่บ้าอำนาจมากกว่าเดิม โดยเฉพาะ “ตี๋เล็กนักกฎหมายจอมกร่าง รวบอำนาจในพรรคไว้คนเดียว ส่วนสาขาจังหวัด “ติ่งส้ม” ควบคุม
โดยเอก หัวหน้า ลอยตัว ไม่เข้ามารับรู้เรื่องการใช้อำนาจของเพื่อน มีหน้าที่พูดประชาธิปไตยสวยๆ อยู่ข้างนอก แต่รับรู้การใช้อำนาจเผด็จการของเพื่อนทุกคนเป็นอย่างดี รู้หมดใคร ที่เพื่อนกำจัดและกดหัวใครไปแล้วบ้าง เอก คนนี้ล่ะ ที่ทีมสร้างภาพลักษณ์กลบความเป็นเผด็จการเบอร์ 1 ด้วยการให้อุ้มลูกออกสื่ออยู่กับครอบครัว
พาวิ่ง ออกกำลังกาย แลดูอ่อนโยน...
เป็นวิชามาร สร้างประชาธิปไตยลวงตาประชาชน เมื่อกลุ่มนี้เข้าไปบริหารจัดการประเทศ อธิบดี กระทรวง บทวง กรม สำนักงานต่างๆ ตำรวจ ทหาร ผู้ว่าฯนายอำเภอ จะต้องก้มหัวตัวตรงกันหรือไม่ ประมวลผลกันดู ว่าประชาธิปไตยเพื่อกระจายอำนาจอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมจะเกิดขึ้นได้หรือไม่เมื่อเผด็จการยังมีอำนาจอยู่ในพรรค ผมจึงไม่เชื่อว่าพรรคนี้จะสร้างประชาธิปไตยได้
สังคมอย่าหลงพระธรรมประชาธิปไตยหวานๆ จากนักเทศน์อนาคตใหม่
ดูกันไปยาวๆ โดยเฉพาะหลังศาล รธน. ตัดสิน ทุกพรรคการเมืองเก่าและใหม่จะสร้างประชาธิปไตยไปทางไหน ค่อยว่ากันต่อไป”
6. แต่ที่ร้ายที่สุด คือ การบังอาจเสี้ยมให้คนรุ่นใหม่เป็นปฏิปักษ์กับสถาบัน
พรุ่งนี้ มาว่ากันต่อ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี