วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ได้กล่าวมาในตอนที่แล้วว่า ขณะนี้ทหารที่ดีๆในกองทัพรู้ดีว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ดี และเป็นไปในทิศทางลบต่อทหารกำลังเกิดขึ้นมากในขณะนี้ เพราะจากการกระทำของทหารที่ไม่ดีแต่กำลังมีอำนาจ ทั้งที่อยู่นอกกองประจำการ หรือยังอยู่ในกองประจำการ ซึ่งประพฤติตนไม่เหมาะสมกับความเป็นทหารของประเทศชาติ
การเป็นทหารที่ดีและเหมาะสมนั้นเป็นอย่างไร ก็ขอให้ระลึกถึงพระบรมราโชวาทของ “จอมทัพ” สมัยล้นเกล้าฯ ร.9 ซึ่งได้พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2499 อันเป็นวันกองทัพบก ดังต่อไปนี้
“...เมื่อทหารมีไว้สำหรับประเทศชาติ ทหารต้องเป็นของประเทศชาติ หาใช่ของบุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ โดยเฉพาะไม่ ...ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ปกครองทหารในทางที่ชอบที่ควร โดยระลึกถึงความเที่ยงธรรมและหน้าที่อันมีเกียรติของทหาร ทั้งนี้เพราะทหารได้รับเกียรติและเอกสิทธิ์เป็นผู้กุมอาวุธ และกำลังรบของประเทศ เป็นที่เคารพ เกรงขาม ในหมู่ชนทั่วไป ทหารจึงต้องปฏิบัติให้สมกับที่ตนได้รับความไว้วางใจ ไม่ควรไปทำหรือเกี่ยวข้องในกิจการที่มิใช่อยู่ในหน้าที่โดยเฉพาะของตน เช่น ไปเล่นการเมือง ดังนี้เป็นต้น กระทำเช่นนั้นจะทำให้บุคคลเสื่อมความเชื่อถือในทหาร โดยเข้าใจว่าเอาอิทธิพลไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
เวลานี้สภาพการณ์ทั่วโลกยังไม่อยู่ในระดับปกติ ความจำเป็นและสำคัญของทหารย่อมมีมากขึ้นทหารจึงควรรักษาวินัยโดยเคร่งครัด ประพฤติตนให้เที่ยงธรรม ปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่ในขอบเขตของตนโดยเฉพาะ เพื่อเป็นที่พึ่งที่เคารพของประชาชน...”
นี่เป็นพระบรมราโชวาทของในหลวง ร.9
เนื้อหาดังกล่าวยังคงทันสมัยเหมาะสมในทุกวันนี้
โดยเฉพาะในเรื่องที่ไม่ควรทำในกิจการที่ไม่อยู่ในหน้าที่ของทหาร หรือใช้อิทธิพลไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว อย่างที่กำลังเห็นกันอยู่ในหลายเรื่องขณะนี้
ถ้าจะว่าไปแล้ว ทหารในกองทัพได้รับความเสียหายมาอย่างหนักตั้งแต่สมัย “นักโทษหนีคุก”คนนั้นมีอำนาจทางการเมือง เพราะถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ทางการเมืองของตน หรือใช้เป็นฐานอำนาจคอยสนับสนุนการทำงานของตนให้แข็งแกร่ง ด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อร่วมรุ่นและพรรคพวกที่ตนไว้ใจให้เข้าไปดำรงตำแหน่งหน้าที่สำคัญในกองทัพ ใครไม่ใช่พวกจะถูกเตะโด่งไปอยู่ที่อื่น จนกองทัพของประเทศชาติกลายเป็นกองทัพของตน
รวมทั้งองค์กรต่างๆ ของรัฐในขณะนั้นด้วย ที่มีการขยายฐานแห่งอำนาจของตนเข้าไปใช้เป็นประโยชน์ตนและพรรคพวกตน โดยไม่คำนึงถึงความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม ตลอดจนหลักการแห่งธรรมาภิบาลในการบริหารปกครองประเทศ
บ้านเมืองของเราขณะนี้ดูแล้วกำลังเป็นอย่างนี้อีก
มีการกระทำหลายอย่างคล้ายคลึงกันในการบริหารบ้านเมือง โดยเฉพาะการแต่งตั้ง โยกย้าย ในการปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรต่างๆ ของรัฐ รวมทั้งองค์กรทหาร ในสมัยของ “นักโทษหนีคุก” คนนั้น ซึ่งทำให้องค์กรต่างๆ ของรัฐ โดยเฉพาะองค์กรทหารได้รับความเสียหายจนทุกวันนี้
การปฏิบัติรูปกองทัพจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรทำ
เพื่อให้คู่ขนานกันไปกับการปฏิรูปองค์กรต่างๆขณะนี้
การปฏิรูปกองทัพก็เพื่อทำให้กองทัพเป็นกองทัพที่ประกอบไปด้วยคุณสมบัติที่ดีต่างๆ ดังพระบรมราโชวาทของในหลวง ร.9 ทรงให้ไว้ดังที่ยกมาให้ฟังข้างต้นโดยเฉพาะในเรื่องของการเป็น “ทหารอาชีพ”ที่ไม่ควรไปทำหรือเกี่ยวข้องกับกิจการอื่นที่ไม่ใช้อยู่ในหน้าที่ตน และปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่ในขอบเขตของตนโดยเฉพาะ
ต้องปรับปรุงกระบวนการสำคัญๆบางอย่างในกองทัพ เพื่อให้กองทัพยืนอยู่บนขาตนเอง และทำงานตามภารกิจ หรือตามพันธกิจของกองทัพ โดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้
1. การจัดสรรงบประมาณของเหล่าทัพ
ไม่ใช่การผูกติดอยู่กับขนาดของกำลังพลในเหล่าทัพแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่การใช้งบประมาณต้องมุ่งประเด็นการพัฒนากองทัพด้วย และต้องวางน้ำหนักในเชิงนโยบายให้ได้ว่า ในแต่ละช่วงเวลานั้นกองทัพมุ่งใช้งบประมาณเพื่อสนองตอบอะไร เหมาะสมหรือไม่กับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเป็นอยู่ ต้องไม่เป็นไป “ตามใจนาย”
2. การแต่งตั้ง และการให้ความดีความชอบ
ในความเป็นกองทัพของทหารอาชีพนั้น การแต่งตั้งและการให้ความดีความชอบ ทหารทุกคนถูกคัดเลือกจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จาก “ลูกนาย”“ลูกเพื่อน” หรือ “ลูกพี่” อย่างที่ได้ยินได้ฟังมาโดยตลอดนี้ การปฏิรูปกองทัพจะต้องทำให้เกิดระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งหรือการเลื่อนยศ ปลดย้ายความเป็นทหารอาชีพจึงเกิด
3. ระบบสวัสดิการ
กองทัพประจำการย่อมมีระบบการจ่ายค่าตอบแทนและระบบสวัสดิภาพรองรับ ไม่ใช่เฉพาะแต่เรื่องเงินเดือนเท่านั้น เพราะกำลังพลจะต้องมีหลักประกันความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ดูแลครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ของพวกเขา หรือมีหลักประกันในเรื่องสวัสดิการและที่สำคัญที่สุดก็คือ ผลประโยชน์ในกองทัพจะต้องไม่ถูกแบ่งปันเฉพาะกลุ่มทหารในระดับสูงเท่านั้น
ทั้ง 3 ประการเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกในการปฏิรูปกองทัพที่อย่างน้อยสมควรกระทำ ซึ่งอาจจะมีเรื่องอื่นๆตามมาอีกก็ได้ในการทำให้กองทัพเป็นกองทัพของทหารอาชีพ
พูดเรื่องนี้ก็เพราะเห็นว่ากองทัพสมควรปฏิรูปด้วยขณะนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ

ผ่ากลยุทธ์'ค่ายสีน้ำเงิน' ไม่เร้าอารมณ์! เน้นทำได้ทำจริง
ปลัดนนท์ ยื่นใบลาออก ลงสมัครชิง สส.นนทบุรี พรรคภูมิใจไทย ลั่นเปลี่ยนเวลาราชการเป็นเวลาราษฎร
นักวิชาการ มธ. วิเคราะห์กระแสเลือกตั้ง ชี้ผลโพล'คนกรุงเกือบครึ่งยังลังเล' พบได้ไม่บ่อย
ไม่น่าเชื่อ พนง ถึงกับร้องไห้หนักมาก เมื่อเห็นสิ่งที่ลูกค้าทำ ชมคลิป
(คลิป) แพทองธาร หน้าเจื่อน! ตอบคำถามสื่อ ยศชนัน คะแนนดีขึ้น!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี