ก่อนหน้านี้ ผมได้สรุปสาระสำคัญของผลการสำรวจข้อคิดเห็นของกลุ่มผู้มีปัญญารวม 1,300 คน จาก10 ประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน เกี่ยวกับความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)ที่จัดทำโดย ศูนย์อาเซียนศึกษา ภายใต้สถาบันการศึกษาว่าด้วย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยูซูฟ อิชัคสิงคโปร์ ซึ่งได้เปิดตัวที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 16 มกราคมนี้ ไว้ในคอลัมน์ เวทีอิสระ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 30 มกราคม 2563 หน้า 2
และในวันนี้ ผมขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการสำรวจว่าด้วย ข้อห่วงกังวลสูงสุดของกลุ่มผู้ถูกสำรวจดังกล่าวว่า มันสะท้อนอะไรกันบ้าง ซึ่งก็มีอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน คือ
1. การไร้เสถียรภาพทางการเมือง (Instability)
2. การถดถอยของเศรษฐกิจ (Economic Downturn)
3. การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (Climate Change)
เรื่องที่น่าแปลกใจก็คือ สิงคโปร์ที่ใครๆ ก็ดูว่ามีเสถียรภาพ ยิ่งรัฐบาลมั่นคงและ บริการประชาชนอย่างดีเยี่ยม ควบคู่ไปกับการคุมผู้คนอย่างเข้มข้น แต่ผู้ตอบคำถามสำรวจในสิงคโปร์กลับมีความห่วงกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองสัดส่วนมากที่สุด เมื่อเทียบกับผู้ตอบคำถามสำรวจจากอีก 9 ประเทศต่อแต่ละประเทศของตนเอง
แต่อย่างไรก็ดี การที่กลุ่มปัญญาชนของทั้ง10 ประเทศ แสดงความห่วงกังวลกับเสถียรภาพทางการเมืองภายในเป็นเรื่องต้นๆ โดยไม่ได้นัดหมายกันนั้น เป็นการสะท้อนบางสิ่งบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
1. เสถียรภาพบ้านเมืองที่ได้มาด้วยการใช้อำนาจกดขี่ จำกัดจำเขี่ยการคิดอ่าน และการแสดงออกฉะนั้น ได้สร้างความอึดอัดใจให้กับประชาชนทั้ง 10 ประเทศอาเซียน ซึ่งมีความไม่ชอบใจแฝงอยู่ รอวันเวลาที่จะระเบิดออกมา ฉะนั้น ก็เท่ากับว่า เสถียรภาพที่เห็นอยู่นั้นเป็นเพียงแค่ “ผิวน้ำ”
2. ในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนยังมีปัญหาความมั่นคงภายใน อาทิ ชนกลุ่มน้อย กลุ่มหัวรุนแรงด้านศาสนา กลุ่มหัวรุนแรงด้านชาติพันธุ์นิยม ที่การแก้ไขมีแนวโน้มไปในทิศทางการใช้ความรุนแรงแทนการพูดจากัน
3. ระบบระบอบการเมืองที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง และผู้นำผู้ปกครองเหินห่างประชาชน เป็นปัจจัยที่จะนำความรู้สึกของประชาชนไปสู่จุดเดือด และปะทุขึ้นได้
4. การถดถอยทางเศรษฐกิจ ในแง่หนึ่งก็เป็นเรื่องระดับประเทศ แต่ในระดับประชาชนพลเมืองก็ถือเป็นเรื่องการถดถอยของคุณภาพชีวิตประจำวัน และความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน รวมทั้งการกระจุกตัวของความมั่งคั่ง มั่งมี ของนายทุนชนชั้นนำไม่กี่ตระกูลก็จะนำประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไปสู่ความอดสู อยู่เดียวดาย และเจ็บปวด เฝ้ารอความยุติธรรมเที่ยงธรรม
5. ในเรื่องสภาพแวดล้อมธรรมชาติ อันได้แก่ โลกร้อนได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทั้งคุณภาพอากาศ น้ำ และผลกระทบต่อสุขภาพ และความรู้สึกนึกคิดว่า ผู้นำ ผู้ปกครองประเทศดูไม่ขะมักเขม้นเอาจริงเอาจังแต่อย่างใด ปล่อยให้ประชาชนพลเมืองเผชิญชะตากรรมไปวันๆ หนึ่ง
ข้อห่วงกังวลของผู้ถูกสำรวจทั้ง 10 ประเทศที่คล้องจองกันก็คือ การเมือง เศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม นั้นเป็นเรื่องใหญ่
การแก้ไขต้องเริ่มจากผู้นำ ผู้ปกครองประเทศ ซึ่งหากนิ่งเฉย ไม่กระตือรือร้น อาเซียนโดยรวมก็จะถดถอย ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น และนำสังคมไปสู่การไร้เสถียรภาพ จึงเป็นเรื่องที่บรรดาผู้นำ ผู้บริหารประเทศ จะต้อง “ตื่นเถิด” เลิกฝันเฟื่อง เลิกหลงระเริงไปกับภาพลวงตาว่า สังคมนั้นสงบเรียบร้อยภายใต้การบังคับใช้อำนาจของตน
ผลสำรวจดังกล่าว มิใช่เรื่องไกลตัว เพราะเป็นของคนอาเซียนด้วยกันเอง สถาบันผู้จัดทำนั้นมิได้เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือมิได้ฝักใฝ่อำนาจการเมืองหากแต่กระทำกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยองค์ความรู้ด้วยสติปัญญา เพื่อความก้าวหน้าของประชาคมอาเซียนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักการเมือง และข้าราชการของประเทศอาเซียน ก็ควรจะต้องรับฟังให้ดีและนำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง
ก็ขึ้นกับว่า บรรดาผู้นำประเทศจะรับฟัง รับไปปรับปรุงแก้ไข หรือว่าจะยังเพลิดเพลินกับผลงานของตนว่า ทำเสถียรภาพทางการเมืองได้ เศรษฐกิจยังไม่เลวร้าย โลกร้อนก็ยังไม่หนักหน่วง ซึ่งเป็นการคิดอ่านเข้าข้างตัวเองต่อไปว่า บ้านเมืองก็ดูเรียบร้อย ราบรื่นดี โดยไม่สังหรณ์ใจว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น และมีคลื่นใต้น้ำกันอยู่ทั่วไป มิได้ตระหนักว่าต้นเหตุของความห่วงกังวลก็คือ ตัวเอง ผู้กุมอำนาจรัฐ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี