พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้งดการพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในปีนี้ ด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาคุณต่อพสกนิกรและบรรดาข้าราชบริพาร ตลอดจนผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ให้มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นครั้งแรก อันเป็นที่ซาบซึ้งแก่อาณาประชาราษฎรทั่วประเทศ ที่ทรงห่วงหาอาทรพสกนิกรของพระองค์ถึงปานนี้
แต่แม้กระนั้นก็ยังคงให้ดำรงหัวใจสำคัญของการพระราชพิธีทั้งสองไว้อย่างครบถ้วน เพราะเป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎรที่ต่อเนื่องสืบทอดกันมาแต่ครั้งประวัติศาสตร์
โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระสังฆราชฯทรงเป็นประธานในการพิธีปลุกเสกพันธุ์พืชสำหรับพระราชทานแก่ผู้เกี่ยวข้องในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามแบบแผนการพระราชพิธีพืชมงคล และโปรดให้นำพันธุ์พืชบางส่วนไปไถหว่านปลูกในที่นาสาธิตพระตำหนักสวนจิตรลดาอันเป็นหัวใจของการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และพระราชทานพืชพันธุ์ที่เหลือแก่ภาคส่วนการเกษตรทั่วประเทศ
เมื่อวันการพระราชพิธีพืชมงคลคือวันที่ 10 พฤษภาคม 2563 และวันการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญคือวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 มาถึงแล้วก็เป็นสัญญาณหมายอย่างเป็นทางการต่อปวงชนชาวไทยให้ได้รับทราบโดยทั่วกันว่า บัดนี้เวลาของการเตรียมการเพาะปลูกฤดูกาลใหม่ของพี่น้องเกษตรกรทั่วพระราชอาณาจักรมาถึงแล้ว
ขอให้เตรียมการทั้งปวงให้พร้อม เพราะเมื่อการพระราชพิธีพืชมงคลผ่านไปแล้ว อีกไม่นานวันก็จะถึงวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตอันเป็นการประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ และเมื่อนั้นการลงมือหว่าน ลงมือปลูกพืชผลทางเกษตรทั่วประเทศก็จะต้องเริ่มต้น
ให้ทันท่วงที
ดังนั้นนับแต่วันดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่พี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศจะต้องเตรียมที่ดิน เตรียมปุ๋ย เตรียมพืชพันธุ์ เตรียมไถ เตรียมพรวนดิน ยกร่อง (สำหรับการทำไร่สวน) ไว้ให้พร้อมสรรพ
วันเวลาใดที่ฝนแรกแห่งฤดูฝนปีนี้มาถึง วันนั้นก็จะได้ลงมือปลูกหว่านได้ทันที ก็จะทำให้พืชพันธุ์ที่เพาะปลูกขึ้นนั้นได้อาศัยน้ำฝนโดยไม่ต้องซื้อไม่ต้องหาเพื่อจะได้มีความเจริญเติบโตได้ทันเวลาก่อนที่ฤดูฝนจะสิ้นสุดลง
การเพาะปลูกในช่วงฤดูฝนเป็นความฉลาดของบรรพบุรุษไทยมาแต่อดีตกาล เพราะไม่ต้องลงทุนหาน้ำมารดหรือมาหล่อเลี้ยงพืชผลที่เพาะปลูกขึ้นนั้น ท่านจึงเรียกว่าชาวไทยนั้นมีบุญมากที่ได้เกิดมาใต้ร่มธงมหาราชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในผืนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ที่บรรพชนได้สั่งสมไว้ให้จนถึงรุ่นเราท่านทั้งหลาย
และพึงเป็นสติเตือนใจไว้ด้วยว่าการไปเพาะปลูกผิดฤดูกาลตามแรงโฆษณาชวนเชื่อทำให้ต้นทุนสูงขึ้น เพราะต้องไปขุดบ่อ ไปสูบน้ำ ไปเดินท่อน้ำ ต้องเพิ่มปุ๋ยและต้องมียาฆ่าแมลงที่จะมาเบียดเบียนอันเกิดจากการผิดฤดูกาล ผลกำไรที่คาดว่าจะได้จึงมลายหายไปเพราะต้นทุนที่สูงขึ้นนั้น จนทำให้เกิดผลขาดทุนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
วันการพระราชพิธีพืชมงคลนั้นสอดคล้องอย่างยิ่งกับหลักการทางชีววิทยาอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะบัดนี้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ยอมรับนับถือตรงกันแล้วว่าช่วงฤดูกาลดังกล่าว 4 เดือนนี้เป็นห้วงเวลาที่พืชทั้งหลายเจริญเติบโตดีที่สุด เซลล์ทั้งหลายของพืชพันธุ์จะแตกตัวขยายตัว ตรงกันข้ามกับฤดูแล้งหรือฤดูหนาวที่เซลล์ต่างๆ ของพืชจะประคองไม่ขยายตัว ถึงจะบำรุงรักษาอย่างไรก็ไม่เจริญเติบโต เว้นแต่จะลงทุนสร้างฤดูกาลเทียมขึ้นมาด้วยการลงทุนมหาศาล ซึ่งอาจไม่คุ้มทุนสำหรับชาวบ้านอย่างเราท่าน
ดังนั้นการตั้งการพระราชพิธีพืชมงคลจึงเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ต่ออาณาประชาราษฎร ซึ่งถ้าหากจำเริญตามโบราณราชประเพณีนี้แล้ว แผ่นดินประเทศไทยก็จะกลับคืนสู่ยุคสมัยแห่งความอุดมสมบูรณ์ ที่ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
ไม่ใช่สภาพในน้ำมีสารพิษ ในนามีสารพิษ ที่สามารถปลิดชีวิตชาวไร่ชาวนาอย่างเลือดเย็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันดังที่เป็นอยู่
แต่ทว่าการในฟ้าอากาศในช่วง 4 เดือนของฤดูฝนแต่ละปีนั้นฝนก็มิได้ตกอย่างสม่ำเสมอกันทุกวัน บางปีต้นฝนก็ตกมาก กลางฝนก็ตกน้อย หรือปลายฝนตกกลางๆ สุดแท้แต่ความผันแปรแห่งฤดูกาล ซึ่งผู้รู้ก็สามารถหยั่งคาดคำนวณได้ตามเกณฑ์พิรุณศาสตร์และเกณฑ์ธาราธิคุณ ซึ่งมีแบบแผนมาแต่โบราณและใช้ได้ผลมาเป็นที่ประจักษ์
ครั้นมาถึงยุคเดินตามก้นคนผิวขาวในยุคถิ่นกาขาว ภูมิปัญญาโบราณแห่งชาติก็เลือนหายไปจนหมดสิ้น จะมีผู้รู้สักกี่คนที่สามารถคำนวณเกณฑ์พิรุณศาสตร์และเกณฑ์ธาราธิคุณได้ถูกต้องแม่นยำ เพราะกรมโหรหลวงก็ถูกยกเลิกไปนานแล้ว เอะอะก็จะใช้การดูสภาพอากาศจากดาวเทียมซึ่งถูกบ้าง ผิดบ้าง ให้เกิดความเสียหายไม่เว้นแต่ละปี
ดังนั้นในปีนี้เพื่อความไม่ประมาท พี่น้องเกษตรกรทั้งหลายจึงต้องช่วงชิงลงมือทำการเสียตั้งแต่วันการพระราชพิธีพืชมงคล เพื่อให้เริ่มเพาะปลูกได้ในวันถัดจากวันที่ฝนแรกมาถึง ก็จักได้รับผลสมปรารถนาทุกประการ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี