สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยสิ้นสุดลงแล้ว ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศเลยมาเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยไม่เคยมีการระบาดและไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 หลงเหลืออยู่เลยล่าสุดมีผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างการรักษาเพียง80 กว่าคน
เป็นผู้ป่วยระหว่างการรักษาที่เกิดขึ้นจากการอิมพอร์ตทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศเข้ามา
ในประเทศไทยและเข้ามากักตรวจไว้ในพื้นที่ควบคุมกักตรวจ หลังจากนั้นก็ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องนับเป็นผู้ป่วยและต้องรับการรักษาพยาบาล
ดังนั้นจึงต้องทำความรู้ทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า ประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นานแล้ว ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยระหว่างการรักษาราว 80 กว่าคนนั้นเป็นผู้ป่วยที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และไม่มีผลทำให้ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแพร่ระบาดของโควิด-19อีกต่อไป
แต่มีความพยายามสร้างความตกอกตกใจ ความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ ประหนึ่งว่าประเทศไทยกำลังเป็นแหล่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และนำเอาตัวเลขการป่วยในต่างประเทศที่สะสมเพิ่มขึ้นมาข่มขู่ข่มขวัญอยู่ทุกวันเวลา กระทั่งข่มขู่ว่าจะมีการแพร่ระบาดรอบสอง รอบสามซึ่งจะทำให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตยกกำลังสองยกกำลังสาม
การกระทำเช่นนั้นน่าจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศชาติ และทำให้เกิดความระส่ำระสายขึ้นในหมู่ประชาชน จึงต้องระมัดระวังให้จงหนัก
และแท้จริงแล้วคนที่สร้างกระแสเรื่องเหล่านี้ไม่เคยศึกษา ไม่เคยวิจัย ไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 มาก่อนเลยเพราะเป็นโรคระบาดชนิดใหม่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการระบาดรอบสอง รอบสาม ซึ่งไม่มีอยู่ในโลกนี้ในปัจจุบัน
สิ่งที่นำมาพูดจึงเป็นเรื่องน่าขันเพราะเป็นการทำให้เข้าใจว่าพูดตามที่ฝรั่งต้องการให้พูด และพูดตามที่ฝรั่งต้องการป่วนโลกกันอยู่เพื่อหวังขายวัคซีน ฝังชิพ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อมวลมนุษย์
ประเทศไทยได้ผ่านห้วงเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาเกือบ 6 เดือนแล้ว แม้จะมีผู้ที่เสมือนหนึ่งน่าเชื่อถือได้แจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่าภายในวันที่ 15 เมษายน 2563 จะมีผู้ป่วยในประเทศไทยถึง 350,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 25,000 คน ซึ่งบัดนี้ข้อความที่พูดนั้นได้ถูกความจริงพิสูจน์อย่างชัดเจนไปแล้ว
ความจริงได้ให้ข้อพิสูจน์ว่านับแต่เกิดเหตุระบาดเป็นเวลาเกือบ 6 เดือนแล้ว จำนวนผู้ป่วยสะสมสูงสุดอยู่ที่ระดับ 3,000 คนเท่านั้น และจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ระดับ 50 กว่าคนเท่านั้น
และพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศก็ไม่ได้มีการแพร่ระบาด ต้นเหตุของการแพร่ระบาดไม่ได้เกิดขึ้นมาในประเทศและไม่ได้เกิดจากการรับคนไทยกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่เกิดจากการแพร่
ระบาดใหญ่ที่เกิดที่สนามมวยลุมพินีและที่มีผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศโดยไม่ผ่านการกักตรวจในตอนต้นเท่านั้น และหลังจากกระบวนการกักตรวจตามแนวชายแดนและการเข้าเมืองเข้มงวดขึ้นก็ไม่มีเหตุระบาดในประเทศอีกเลย
จำนวนผู้ป่วยและจำนวนผู้เสียชีวิตในระยะเวลาเกือบ 6 เดือนที่ผ่านมานี้ ยังน้อยกว่าผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในเวลาวันเดียวด้วยซ้ำไป และทั้งที่ผู้เจ็บและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมีมากมายหลายเท่านัก แต่กลับไม่มีผู้ใดสนใจไยดีเพราะไม่มีทางทำมาหากินกับอุบัติเหตุนั้น หรือถ้าหากจะมีบ้างก็ปลีกย่อยที่เกี่ยวข้องกับการขายความยุติธรรมเท่านั้น
จำนวนผู้ป่วยสูงสุดถึงระดับ 3,000 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตระดับ 50 กว่าคน แต่เมื่อมีการปั่นกระแสให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจกลัวอย่างกว้างขวางชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจึงเกิดความเสียหายเกินความเป็นจริงสุดคณานับ
รัฐอาจต้องใช้เงินงบประมาณหลายล้านล้านบาทซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้งบประมาณกันต่อไปอีกสักเท่าใด กระทั่งมีคนเอาไปอ้างว่าไม่มีเงินแม้แต่จะใช้จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นให้ถูกเยาะเย้ยหยามหยันกันทั่วเมืองมาแล้ว
ยังไม่รวมผลกระทบและความเสียหายของภาคผู้ประกอบการธุรกิจและผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศที่อาจได้รับความเสียหายรวมกันถึง 10 ล้านล้านบาทและอาจกระทบต่อการลงทุนทั้งหมดของประเทศไทยที่กำลังได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่
สภาพเช่นนี้เป็นเรื่องน่าวิตกอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อมีการปลดล็อกประเทศจึงต้องกระทำการด้วยความเข้าใจและด้วยความถูกต้อง ไม่ใช่กระทำแบบที่จะเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมขึ้นอีกหรือที่เรียกว่าเจ๊งรอบสอง
การฟื้นฟูเศรษฐกิจของชาติจากวิกฤตินี้ไม่ได้อยู่ที่การกู้เงินมาแจกหรือมาตรการอื่นใด แต่อยู่ที่การดำเนินการทั้งหลายเพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถประกอบการได้ตามปกติ สามารถทำให้
ผู้ใช้แรงงานทั้งหมดกลับเข้าทำงานปกติโดยเร็วที่สุด
จะต้องใช้มาตรการและเงินไปเพื่อการดังกล่าวนี้ มิฉะนั้นการเจ๊งรอบสองซึ่งจะเจ๊งกันทั้งประเทศก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี