ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศกำลังขยายตัวทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ และถ้าขืนเป็นไปเช่นนี้อีกไม่นานคงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ขึ้นในประเทศไทยเป็นแท้
แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นธรรมดาธรรมชาติของสรรพสิ่งตามกฎแห่งพระไตรลักษณ์ แต่ถ้าความเปลี่ยนแปลงนั้นวิปริตผิดธรรมชาติอันควรเป็นก็จะเกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่คนทั้งหลาย
ดังนั้นจึงถึงเวลาที่เราท่านทั้งหลายจะได้ตั้งสติตั้งสัมมาทิฐิหรือความคิดให้ถูกต้องเที่ยงตรงโดยถือเอาชาติบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎรเป็นที่ตั้งแล้วร่วมจิตร่วมใจปรองดองสมานฉันท์ ร่วมกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้สำเร็จลุล่วงไป
ประเทศไทยยามนี้มีหลายวิกฤติประดังเข้ามาพร้อมกัน คือวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ผู้คนยากจนยากไร้ ไม่มีงานทำ ไม่มีกิน ต้องดิ้นรนกันทั้งประเทศ แม้ระดับประเทศก็ไม่มีรายได้พอกับรายจ่าย ต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้ จนกำลังกลายเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว
ยังมีวิกฤติทางการเมืองที่ความขัดแย้งทางการเมืองกำลังยกระดับขยายตัวอย่างกว้างขวาง ซึ่งโดยทั่วไปความขัดแย้งทางการเมืองนั้นเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างฝ่ายที่เป็นรัฐบาลกับฝ่ายที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ซึ่งถ้าได้ดำเนินไปตามวิถีทางโดยหลักนิติรัฐ นิติธรรม โดยถือเอาประโยชน์แห่งชาติและราษฎรเป็นที่ตั้ง ความขัดแย้งนี้ก็จะเป็นปกติธรรมดาของพัฒนาการทางสังคม
แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการยึดมั่นถือมั่นในอำนาจจนกระทั่งเกิดความหลงผิดคิดว่าอำนาจนั้นเป็นของตนหรือเฉพาะพวกของตน คนอื่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ดีหรือถึงขนาดยกระดับเป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากอำนาจมากขึ้นเท่าใดความขัดแย้งก็ยิ่งมากขึ้น ถ้าถึงขนาดถืออำนาจหรือถือความเป็นรัฐบาลว่าเป็นชาติเสียเอง เมื่อนั้นความขัดแย้งก็จะยกระดับจนไม่อาจแก้ไขได้
เมื่อความขัดแย้งยกระดับจนไม่อาจแก้ไขได้โดยวิถีทางการเมืองก็จำเป็นอยู่เองที่ต้องแก้ไขโดยวิถีทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าเมื่อใดที่กฎหมายและความยุติธรรมไม่เป็นที่เชื่อถือในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งก็เป็นอันหมดเครื่องมือที่จะแก้ไขความขัดแย้งนั้น
และเมื่อนั้นความขัดแย้งก็จะยกระดับและกลายพันธุ์เป็นความขัดแย้งที่เป็นปรปักษ์ คือเป็นความขัดแย้งประเภทที่ต้องทำลายล้างให้วายวอดกันไปข้างหนึ่งซึ่งเคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทำให้เป็นตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้าและความผาสุกของราษฎรมาช้านานแล้ว
ยังมีวิกฤติโรคระบาดซึ่งหยุดยั้งทำลายความเป็นปกติของบ้านเมืองไปจนแทบหมดสิ้น นั่นถ้าหากเป็นวิกฤติโรคระบาดธรรมดาก็หนักหนาสาหัสมากพออยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อใดที่มีการบิดเบือนใช้วิกฤติของโรคระบาดเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือคณะตนก็จะกลายเป็นความขัดแย้งซ้ำเติมขึ้นมาอีกมิติหนึ่ง
ทั้งยังมีวิกฤติการแทรกแซงจากต่างชาติ โดยเฉพาะจากนักล่าอาณานิคมที่เป็นเจ้าของทฤษฎีบ่อนทำลายหรือเลิกล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ที่กำลังหวนกลับเข้ามาล่าอาณานิคมแบบใหม่ และใช้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือผู้ที่หลงไปในความศิวิไลซ์จอมปลอมของนักล่าอาณานิคม ยอมตนเป็นทาสรับใช้ก็ยิ่งเป็นภยันตรายอย่างใหญ่หลวง
บ้านเมืองของเราในวันนี้ทั้งสี่วิกฤติกำลังโหมประดังเข้ามาดุจพายุใหญ่ที่บ้าคลั่งพัดเข้าถล่มทลายบ้านเมืองระลอกแล้วระลอกเล่า ซึ่งตั้งสติใคร่ครวญพิจารณากันให้จงดีก็จะเห็นชัดถึงพายุปีศาจดังกล่าว
ดังนั้นเราท่านทั้งหลายจึงพึงตั้งสติให้มั่นแล้วรีบปรับความคิด ปรับการกระทำของตน เพื่อให้หยุดยั้งความแตกแยกแตกสามัคคีให้ได้โดยเร็วที่สุด แล้วสามัคคีปรองดองกันพิทักษ์รักษาชาติบ้านเมืองของเราให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว
สำหรับผู้มีอำนาจพึงสังวรไว้ว่าบัณฑิตนั้นเมื่อมีอำนาจแล้วต้องเตรียมตัวเตรียมใจในการลงจากอำนาจให้ถูกต้องงดงามก็จะเป็นวีรกรรมแห่งชีวิตไปเป็นนิรันดร์ แต่ถ้าเมื่อใดหลงผิดไปในทางตรงกันข้าม มีอำนาจแล้วคิดแต่จะเป็นเจ้าของอำนาจไปตลอดกัลปาวสานย่อมไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้ และจะตกเป็นอันตรายดังตัวอย่างที่มีมาแล้วในประวัติศาสตร์
สำหรับผู้ที่ไม่มีอำนาจก็ต้องสังวรไว้ว่าบัณฑิตนั้นแม้ไม่ต้องมีอำนาจแต่ก็สามารถทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและราษฎรได้ตามกำลังสติปัญญาของตน ไม่จำเป็นต้องแย่งชิงหรือทำลายล้างหรือขัดขวางผู้มีอำนาจไม่ให้ทำการตามอำนาจหน้าที่ก็จะมีความสวัสดีเป็นเบื้องหน้า
แต่บัดนี้สภาพการณ์ทั้งหลายกลับกลายเป็นว่าสติความยั้งคิดและความเป็นบัณฑิตในใจคนได้เลือนหายไปจนน่าตระหนกตกใจ ดังนั้นแม้พระมหากษัตริย์จะทรงชี้ไว้อย่างชัดเจนในสองประการ กลับมีการปฏิบัติที่อ่อนด้อยหรือเลอะเลือนไปเป็นอันมาก
ประการแรก พระมหากษัตริย์ทรงชี้ไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 อย่างแจ่มชัดแล้วว่าต้นเหตุแห่งวิกฤตินั้นมีมาแต่เหตุสี่สถาน คือการทุจริต การฉ้อฉลการบิดเบือนการใช้อำนาจ และการไม่นำพาต่อความเดือดร้อนทุกข์เข็ญของราษฎร ก็มีการละเลยเพิกเฉยไม่นำพาน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ
ประการที่สอง พระมหากษัตริย์ทรงสอนทรงเตือนตลอดมาทุกรัชกาลว่าต้องสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ภายในชาติ แต่กลับมีพฤติกรรมเล่นพรรคเล่นพวกไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดี
อันความขัดแย้งนั้นประดุจดังไฟ ไม่อาจใช้ไฟดับไฟได้ ถ้าขืนใช้ไฟดับไฟในที่สุดก็จะกลายเป็นว่าไฟดวงไหนจะทำลายบ้านเมืองและราษฎรได้มากกว่ากันเท่านั้น!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี