เมื่อ 4 ปีที่แล้ว The Oxford Dictionary ของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดได้เลือกคำว่า “post-truth” เป็น Word of the Year 2016 ปัจจุบันคำว่า post-truth ได้ถูกนำมาใช้แพร่หลายมากขึ้น เพื่อบ่งบอกถึงลักษณะหรือสภาวการณ์ของโลกยุคปัจจุบันอันเนื่องมาจากปรากฏการณ์ข่าวปลอม (fake news) วีดีโอหรือคลิปปลอม (deepfakes)ในเรื่องราวต่างๆ นานา ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในโลกออนไลน์ ผ่านช่องทางการสื่อสารแบบโซเชียลมีเดียในทุกรูปแบบทำให้โลกยุคนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “โลกยุคหลังความจริง” (the post-truth world)
อย่างไรก็ตาม การสร้างข่าวปลอมนั้นมีมานานแล้วเพราะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การทำศึกสงครามตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ระหว่างชนเผ่า อาณาจักรหรือรัฐต่างๆ แต่พึ่งเริ่มมีการสร้างกันอย่างจริงจังเป็นระบบก็สักประมาณช่วงโลกยุคสงครามเย็น (The Cold War world) โดยการสร้างข่าวปลอมกรณีคลาสสิกแรกๆ นั้น เป็นฝีมือของหน่วยงาน KGB หรือองค์กรสืบราชการลับของสหภาพโซเวียต (ชื่อเรียกในเวลานั้น) ภายใต้ชื่อ โครงการ Operation Infection......
ย้อนกลับไปในปี 1983 (๒๕๒๖) เมื่อเชื้อไวรัส HIVกำลังเริ่มแพร่ระบาดไปทั่วโลก หนังสือพิมพ์ The Patriot ของอินเดีย ฉบับวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม รายงานข่าวว่า…ไวรัสชนิดนี้ได้ถูกผลิตขึ้นอย่างลับๆ โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอเมริกัน เพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ เนื้อข่าวยังระบุอีกว่าการผลิตเชื้อไวรัสตัวนี้ทำมาตั้งแต่ปี 1977 ในห้องทดลองของกองทัพสหรัฐ ที่ Fort Detrick มลรัฐแมรี่แลนด์…สองปีต่อมา ข่าวดังกล่าวเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีปแอฟริกาทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว การรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่สามารถรู้ได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเหมือนยุคปัจจุบัน
ในปี 1986 ดร. Jakob และ ดร. Lilli Segal นักชีววิทยาสองสามี-ภรรยา ชาวเยอรมันตะวันออก จากมหาวิทยาลัยฮุมโบลท์ในเมืองเบอร์ลินตะวันออก ได้ตีพิมพ์บทความว่า…เขาทั้งสองสามารถพิสูจน์ได้ว่าเชื้อ HIV นั้นถูกผลิตขึ้นในสหรัฐอเมริกา…ต่อมาหนังสือพิมพ์ของหลายๆ ประเทศก็รายงานข่าวเรื่องนี้โดยอ้างอิงจากบทความของ Mr. และ Mrs. Segal มากกว่า 200 ฉบับ ใน 80 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึง Daily Express ของอังกฤษ
และปลายเดือนมีนาคม 1987 แผนการ Operation Infection ของ KGB ก็บรรลุเป้าหมายเมื่อ Dan Ratherผู้ประกาศข่าวชื่อดังของอเมริกาในเวลานั้น ได้รายงานข่าวให้คนอเมริกันฟังสดๆ ในรายการข่าวภาคค่ำของเขาว่า...เชื้อไวรัส HIV ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ทั่วโลกในเวลานั้นรั่วไหลมาจากห้องทดลองของกองทัพสหรัฐที่กำลังทำการทดลองสร้างอาวุธชีวภาพอยู่....ซึ่งชาวอเมริกันหลายล้านคนรวมไปถึงรัฐบาลของหลายๆ ประเทศต่างก็เชื่อว่าเป็นความจริง และนำไปบอกเล่ากันปากต่อปากต่อไปอีกว่าไวรัสชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อกำจัดคนดำพวกรักร่วมเพศและชาวยิว.....
ภายหลังจากข่าวดังกล่าวถูกรายงานออกอากาศโดย Dan Rather ผู้อ่านข่าวชื่อดัง รัฐบาลสหรัฐได้ตั้งทีมงานเฉพาะกิจขึ้นมาชุดหนึ่งชื่อ Truth Squad หรือ หน่วยตามล่าหาความจริงในกรณีดังกล่าว จนได้รายงานสรุปออกมาว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่เป็นการสร้างข่าวปลอมของ KGB เพื่อทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาลสหรัฐในเวทีโลกและต่อมาประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต นายมิคาอิล กอร์บาชอพ ก็ได้ออกมายอมรับและขอโทษกับนายโรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดี สหรัฐ ในเรื่องโครงการ Operation Infection ของ KGB ระหว่างการมาเยือนประเทศสหรัฐ ในปลายปี 1987 พร้อมกับรับปากว่าจะสั่งให้ KGB หยุดการแพร่กระจายข่าวปลอมเรื่องไวรัส HIV
KGB เป็นองค์การสืบราชการลับที่ให้ความสำคัญกับงานด้านการปลูกฝังความคิดปั่นหัวผู้คน กลุ่มเป้าหมายหรือฝ่ายตรงข้ามมากกว่างานด้านการจารกรรมข้อมูลหรือ
ปฏิบัติการลับภาคสนามสายลับที่เข้าร่วมงานกับ KGB ทุกคนจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งในสี่ของเวลาทำงาน ไปนั่งครุ่นคิดกับการสร้างข่าวปลอมเพื่อไปเป่าหัว ล้างสมอง เปลี่ยนความคิดฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะสหรัฐ อันมีวัตถุประสงค์เพื่อเปลี่ยนความรับรู้ของคนอเมริกันทุกระดับไปในทิศทางต่างๆ ซึ่งถึงแม้พวกเขาจะเข้าถึงแหล่งข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาลได้ แต่ก็จะไม่มีใครสามารถหาคำอธิบายอันสมเหตุสมผลให้กับตัวเองได้ในการที่จะปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัว ครอบครัว ชุมชนหรือแม้กระทั่งของประเทศสหรัฐเอง
ทุกๆ สิ้นปี เจ้าหน้าที่KGB ทุกคนจะถูกประเมินประสิทธิภาพการทำงานด้วยจำนวนร่างเค้าโครงการสร้างข่าวปลอมที่แต่ละคนคิดออกมาได้ภายในหนึ่งปี ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะเคยได้ยินทฤษฎีการสมรู้ร่วมคิด (conspiracytheory) มากมายเกี่ยวกับการลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ไม่ว่าจะเป็นแผนสังหารของ CIA เอง, มาเฟียอเมริกันร่วมลงขันกัน, รัฐบาลคิวบา โดย ฟิโดล คาสโตร หรือแม้กระทั่งรองประธานาธิบดีลินดอน จอห์นสัน ของสหรัฐเองที่อยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงแผนการลอบสังหารพระสันตะปาปาหรือการซื้ออวัยวะของคนยากจนในละตินอเมริกันเพื่อนำไปปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ให้กับมหาเศรษฐีอเมริกัน
เจ้าหน้าที่ KGB ทุกคนจะต้องจะต้องฝึกศิลปะการตลบแตลงบิดเบือนข้อมูลสร้างเอกสารหลักฐานปลอมเสกสรรปั้นแต่งเรื่องราวโกหกอันนำไปสู่ทักษะการสร้างทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดที่น่าเชื่อถือ เพื่อการเป็น ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างข่าวปลอม (Master of Deception)...และหนึ่งในนั้น..คือเจ้าหน้าที่หนุ่มวัย 23 จากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่พึ่งจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยเลนินกราด ที่ได้มาเข้าร่วมงานกับ KGB ในปี 1975 นาม...วลาดีมีร์ ปูติน..
และเหตุการณ์ความวุ่นวาย การประท้วงของกลุ่มต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาทุกวันนี้ ก็เพราะแต่ละกลุ่มต่างก็มีทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดของกลุ่มตัวเองเพื่ออ้างความชอบธรรมในการออกมาประท้วงหรือเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น ทฤษฎี Pizzagate ที่ต่อมาถูกนำมาขยายต่อเป็นทฤษฎี QAnon อันเป็นทฤษฎีที่กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ เช่น กลุ่ม American Wolf (หมาป่าอเมริกัน) กลุ่ม Proud Boys (เด็กทระนง) กลุ่มมนต์รักชาติ (Patriot Prayer) กลุ่ม Washington Three Percenters (ข้าคือ 3% ของนายพลวอชิงตัน) ใช้ออกมางัดกับกลุ่มผู้ต่อต้านทรัมป์เช่น กลุ่ม Black Lives Matter (ชีวิตของคนดำก็มีคุณค่า) หรือ กลุ่ม Antifa ซึ่งเป็นขบวนการต่อต้านการเหยียดผิวและเหยียดหยามผู้คน (ยังมีต่อ)
ดร.ธิติ สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี