ในช่วงวันอังคารที่ 1 กันยายน 2563 สื่อมวลชนทุกสำนักและโซเชียลมีเดียสำคัญๆ ของประเทศก็ได้รายงานข่าวตรงกันหมดว่านายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ขอลาออกจากตำแหน่ง โดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ
ทั้ง ๆ ที่นายปรีดี ดาวฉาย นั้นมีชื่อติดทำเนียบรัฐมนตรีมาตั้งแต่การปรับปรุงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐแล้ว โดยมีชื่อชั้นตอนต้นถึงระดับควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วย
และในที่สุดนายปรีดี ดาวฉาย ก็ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมีเครดิตความเป็นนักกฎหมาย นักบัญชีและนักการเงิน
โดยเฉพาะชื่อชั้นผู้บริหารที่เก่งกล้าของสถาบันการเงินเป็นประกันอยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้ผิดโผหรือผิดฝาผิดตัวแต่ประการใด
แต่หลังจากได้เข้ารับตำแหน่งไม่ทันไรก็มีข่าวคราวมาหลายปรากฏขึ้น โดยเฉพาะความตกต่ำทางเศรษฐกิจ ความขาดแคลนทางการเงินถึงขั้นที่ขาดเงินในการบริหารราชการแผ่นดิน ในขณะที่รายจ่ายกองอยู่ข้างหน้าเป็นพะเรอเกวียน
ที่สำคัญคือรายได้แผ่นดินประจักษ์ชัดว่าขาดเป้าหมายมากขึ้นและมีความรุนแรงมากขึ้น คงเหลือแต่หนทางกู้เงินมาใช้อย่างเดียว ซึ่งหนทางนี้ก็ตีบตันลงทุกที เพราะภาระการกู้เงินที่ต่อเนื่องจำนวนมากมาหลายปี โดยมีวงเงินใช้จ่ายไปแล้วประมาณ20 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติ จึงทำให้หนทางในการกู้เงินมาใช้ตีบตัน
ต่อมาก็มีการแสดงท่าทีที่ชัดเจนมากขึ้นทุกทีว่า กำลังขาดเงินที่จะใช้จ่ายในการบริหารราชการแผ่นดิน และมีการสั่งการให้หาทางปรับลดรายจ่ายประจำ โดยเฉพาะรายจ่ายเกี่ยวกับบุคลากรที่เพิ่มจำนวนขึ้นมากมาย และจำนวนเงินรายจ่ายที่เพิ่มให้แก่ข้าราชการหลากหลายหมู่เหล่า จนทำให้รายจ่ายประจำของแผ่นดินมีอัตราสูงสุดในประวัติศาสตร์
ดังนั้นจึงเป็นภาระอันหนักและตีบตันยิ่งของผู้เป็นขุนคลังของประเทศ เพราะยากที่จะหาเงินมาใช้จ่ายได้ ไม่ว่าการหาเงินตามระบบปกติจากภาษีอากร หรือรัฐพาณิชย์ จะเหลือหนทางเดียวก็คือการกู้ยืมเงินซึ่งก็ตีบตันจนแทบไม่มีทางเดินอีกแล้ว
สำหรับหนี้ต่างประเทศที่อยู่ในสภาพเอาประเทศไปจำนำไว้กับประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงประเทศเดียวก็มีอัตราส่วนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่มีประเทศใดชาติไหนเขาทำกัน เพราะนั่นหมายความว่ากำลังกลายเป็นประเทศราชทางการเงินของเจ้าหนี้ และจะถูกเจ้าหนี้วางเงื่อนไขบังคับนอกเหนือไปจากภาระในการชำระดอกเบี้ย
ซึ่งความตกลงเช่นว่านั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาและยากที่จะได้รับความเห็นชอบ นอกจากจะปกปิด ปิดบังไว้ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง
ในขณะเดียวกันภาระความรับผิดชอบของรัฐในการฟื้นระบบเศรษฐกิจและการให้การเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินก็กำลังประดังเข้ามา
การมุบมิบให้การช่วยเหลือเยียวยากับเอกชนบางรายเป็นเงินถึง 18,000 ล้านบาทต่อปี และมีผู้ไปร้องเรียนต่อ สตง. ให้ทำการตรวจสอบว่าเป็นการให้การเยียวยาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อยู่ในขณะนี้
แต่เรื่องนี้ได้กลายเป็นแบบอย่างให้บรรดาผู้ได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินได้เห็นแบบอย่างที่จะไปขอเยียวยาช่วยเหลือจากรัฐตามกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินมาตรา 16 และ 17 ซึ่งคงจะโหมประดังเข้ามายิ่งกว่าคลื่นใหญ่ในฤดูมรสุม และเป็นที่แน่นอนว่าก็จะมีคดีความขึ้นศาลยุติธรรมหรือศาลอาญาทุจริตเป็นจำนวนมาก
โบราณว่าผ้าขาวเช็ดพื้นไม่ได้ นักบริหารอาชีพจึงไม่อาจทนต่อสภาพเช่นนี้ได้ และนี่น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญของการลาออก
ที่สำคัญ ผลกระทบในทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในภาพรวมเพราะตำแหน่งรัฐมนตรีคลังเป็นตำแหน่งสำคัญ เป็นที่ตั้งของความเชื่อมั่นในเรื่องเศรษฐกิจการคลังของประเทศ การลาออกในสถานการณ์เช่นนี้จึงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่หนักหน่วงในยามที่รัฐนาวากำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่อยู่หลายลูก
และที่สำคัญ แม้ว่าการลาออกของรัฐมนตรีคนหนึ่ง รัฐบาลสามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีคนอื่นปฏิบัติหน้าที่ไปชั่วคราวได้ก็จริงอยู่ แต่จากรายนามรัฐมนตรีทั้งหลายในปัจจุบันนี้ก็ไม่เห็นมีใครที่จะเป็นที่ตั้งแห่งความเชื่อถือเชื่อมั่นในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศดังนั้นถึงแม้จะตั้งให้รัฐมนตรีคนใดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ในที่สุดก็ตั้งผู้ดำรงตำแหน่งคนใหม่อย่างแน่นอน และในสถานการณ์เช่นนี้ระยะเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวันเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อการแก้ไขปัญหา “ฉุกเฉิน” อันเป็นฐานที่ตั้งของการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายฉุกเฉินอยู่ในขณะนี้
ดังนั้นจะต้องติดตามจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าใครจะมาทำหน้าที่แทนนายปรีดี ดาวฉาย ทั้งในระยะเฉพาะหน้าและในตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งแน่นอนว่ายังคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 7-10 วัน และเมื่อนั้นสถานการณ์และสภาพการณ์ที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศจะรุดหน้าไปถึงไหน
สิ่งหนึ่งที่จะต้องตระหนักให้มากก็คือนักบริหารเศรษฐกิจการเงินการคลังมืออาชีพทุกคนนั้นย่อมตระหนักอยู่แก่ใจว่าการใช้ความสามารถและอำนาจหน้าที่ในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นถูกจำกัดโดยกฎหมายอย่างไร เพราะอำนาจทั้งหลายได้โอนไปอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถบริหารสั่งราชการในกระทรวงตามปกติได้ เว้นแต่นายกรัฐมนตรีจะมอบหมายเฉพาะเรื่องเฉพาะกิจ
ยิ่งความเชื่อถือและเกียรติภูมิในการปฏิบัติราชการกับต่างประเทศก็มีความอึดอัดขัดสนที่จะสบตากับรัฐมนตรีคลังของชาติต่างๆ และท่าทีของประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะทำจิตทำใจในเรื่องนี้ได้
ก็ได้แต่เอาใจช่วยขอให้มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังมาทำการเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองให้สำเร็จโดยไว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี