วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เป็นอันว่างบประมาณ 2564 ซึ่งปกติจะใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 นั้นจะไม่แล้วเสร็จตามกำหนด แต่จะเป็นความรับผิดชอบของใครก็ต้องติดตามตรวจสอบกันเอาเอง
เพราะความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายงบประมาณนั้นเป็นเรื่องใหญ่หลวง เป็นเรื่องความรับผิดชอบใหญ่หลวงที่จะปล่อยให้ผ่านเลยไปง่ายๆไม่ได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน และทำให้ราชการแผ่นดินวิปริตผันแปรไป
เนื่องจากมีกฎหมายบัญญัติบังคับไว้แน่ชัดว่าเงินแผ่นดินนั้นจะนำไปใช้ได้ก็แต่โดยที่บัญญัติไว้ในกฎหมายงบประมาณ แต่เพื่อป้องกันความเสียหาย
เฉพาะหน้าจึงกำหนดทางออกเอาไว้ว่าในกรณีที่กฎหมายงบประมาณไม่แล้วเสร็จตามกำหนดก็ให้นำกฎหมายงบประมาณปีที่ล่วงมาใช้บังคับไปพลางก่อนได้
ความหมายก็คือให้นำวงเงินงบประมาณปี 2563 มาใช้ไปพลางก่อนได้ ซึ่งงบประมาณ 2563 นั้นก็เหมือนกับงบประมาณปีอื่นๆ คือในกฎหมายงบประมาณจะระบุเอาไว้ชัดเจนว่าแต่ละกระทรวงได้รับการจัดสรรงบประมาณให้ไปใช้สอยเป็นเงินเท่าใด
ที่สำคัญก็คือรายละเอียดของการใช้งบประมาณดังกล่าวไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ตามใจชอบ เพราะต้องใช้ให้เป็นไปตามงบประมาณ 2563 ด้วย ซึ่งจะมีรายการจ่ายเงินตามงบประมาณอยู่เพียงสามประเภท คือ
ประเภทที่หนึ่ง ได้แก่เงินเดือน ค่าจ้างซึ่งเป็นรายจ่ายประจำ ดังนั้นจึงใช้จ่ายเงินงบประมาณปี 2564 ไปพลางก่อนได้ โดยไม่เกินจำนวนเงินเดือน ค่าจ้าง ที่กำหนดในงบประมาณปี 2563 ส่วนเงินเดือน ค่าจ้าง อะไรที่กำหนดขึ้นใหม่ตามกฎหมายงบประมาณปี 2564 ก็ไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้นรายจ่ายประเภทนี้หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายได้ประเภทนี้ก็ต้องชะเง้อแลชะแง้คอยกันไปก่อน
ประเภทที่สอง ได้แก่รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ ที่อาจมีการตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ในงบประมาณปี 2563 ซึ่งสามารถนำไปใช้หนี้ได้ตามจำนวนไม่เกินจำนวนดังกล่าวที่กำหนดไว้
ประเภทที่สาม ได้แก่รายจ่ายโครงการต่างๆ หรือที่เรียกว่างบพัฒนาหรืองบลงทุน ซึ่งรายการจ่ายประเภทนี้ถ้าได้จ่ายไปแล้วตามงบประมาณ 2563 และไม่มีการตั้งโครงการอย่างเดียวกันขึ้นมาใหม่ก็จะนำเงินดังกล่าวไปใช้ไม่ได้ โดยภาพรวมก็คือรายจ่ายโครงการทั้งหลายที่กำหนดไว้ในงบประมาณปี 2564 เป็นรายจ่ายที่ไม่สามารถใช้จ่ายจากงบประมาณปี 2563ไปพลางก่อนได้
ดังนั้นทางออกของกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหากรณีงบประมาณออกใช้บังคับไม่ทันตามกำหนดเวลาจึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปได้ก็เฉพาะเรื่องเงินเดือน ค่าจ้างข้าราชการ และพนักงานลูกจ้างเท่าที่ไม่เกินจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในงบประมาณปีที่ล่วงมาเท่านั้น
จะพอคล่องตัวอยู่บ้างก็วงเงินที่ตั้งไว้เป็นงบกลางในปี 2563 ซึ่งมีจำนวนมาก ดังนั้นจึงสามารถนำเงินไม่เกินวงเงินดังกล่าวใช้ไปพลางก่อนได้ ซึ่งถ้าหากกฎหมายงบประมาณ 2564 ล่าช้าไปสัก 30-45 วันก็คงไม่เกิดผลกระทบมาก
แต่ทว่าปัญหาใหญ่หลวงที่แท้จริงนั้นจะอยู่ที่เงินแผ่นดินที่จะนำมาใช้จ่ายตามงบประมาณ 2564 โดยรายได้แผ่นดินนั้นเกือบทั้งหมดเป็นรายได้จากภาษีอากร มีจำนวนหนึ่งที่เป็นรายได้จากเงินกู้ตามที่ได้ตั้งงบประมาณขาดดุลไว้
ดังนั้นความเป็นความตายของการใช้จ่ายเงินตามงบประมาณจึงอยู่ที่รายได้แผ่นดินประเภทภาษีอากร ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วงที่สุด
เพราะภาวะเศรษฐกิจบ้านเมืองที่วินาศวายวอดอยู่ในขณะนี้มีผลกระทบต่อรายได้แผ่นดิน เนื่องจากการจับจ่ายใช้สอยและผลประกอบการทั้งปวงตกต่ำยับเยิน
กิจการทั้งหลายมีผลขาดทุนจึงไม่มีเงินได้ต้องเสียภาษี ผู้คนตกงานนับล้านๆ คน จึงไม่มีเงินได้ที่จะถูกหักณ ที่จ่าย หรือที่จะนำไปเสียภาษี การค้าขายตกต่ำเพราะผลิตไม่ได้เนื่องจากส่งออกไม่ได้ ภาคบริการก็หยุดชะงักอย่างสิ้นเชิงเพราะไม่มีชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยว เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ทั่วทั้งประเทศ
ทำให้รายได้แผ่นดินประเภทภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งเป็นรายได้สำคัญมากรายการหนึ่งของรายได้จากภาษีอากรเก็บได้น้อยกว่าน้อย
นอกจากนั้น การลงทุนต่างๆ หยุดชะงักไปหมด เงินหมุนเวียนจากการลงทุนก็ขาดหายไปภาษีสารพัดชนิดหรือรายได้ของรัฐสารพัดชนิดที่จะได้จากการลงทุนก็หดหายไป
ดังนั้นเมื่อรายได้แผ่นดินจากภาษีอากรได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นนี้ก็ต้องไปตกหนักอยู่ที่จะต้องกู้เงินมาใช้ให้พอกับวงเงินที่ตั้งงบประมาณไว้ แต่ปรากฏว่าประเทศไทยได้กู้เงินก่อหนี้ยืมสินมากินมาใช้มาแจกจนล้นพ้นตัวไปแล้ว หนทางสายนี้ก็ตีบตันมากขึ้นทุกวัน
และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือแผ่นดินทุกวันนี้ไม่เห็นมีใครหน้าไหนที่จะคิดอ่านหารายได้แผ่นดินเพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอยตามงบประมาณ มีแต่พวกคิดอ่านจะใช้เงินกันทั้งสิ้น และส่วนใหญ่สติปัญญาความสามารถก็อยู่ในระดับที่กู้มาแจกหรือกู้มาผลาญกันเป็นส่วนใหญ่ ไหนเลยจะตกได้ไปพัฒนาบ้านเมืองตามกฎหมายงบประมาณ
แค่กฎหมายงบประมาณออกใช้ไม่ทันตามกำหนดก็เป็นข้อฟ้องร้องการทำหน้าที่ของผู้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชนิดที่ให้อภัยแทบไม่ได้อยู่แล้ว แต่คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะบ้านเมืองทุกวันนี้บรรดาความผิดชั่วทั้งหลายนั้นไม่มีการเอาเรื่องเอาความอะไรกันแล้ว!

'ปลอดประสพ'น้อมรำลึก 'สมเด็จพระพันปีหลวง' กับการประมงไทย(ตอนที่ 1)
'สงขลา' กำจัด 'ปลาหมอคางดำ' ควบคุมระบาดสัตว์น้ำต่างถิ่น
'กัมพูชา'แถลงเดือด! อ้างไทยขู่ยึดปราสาทตาควายโดยกำลังทหาร ลั่นสูญเสียความไว้วางใจแล้ว
'พิชิต'ฉะเดือด!!! กัมพูชาวางระเบิดใหม่ ช่องอานม้า ซัด'อนุทิน'ละเลย ทำสันติภาพสวนทาง
พท.สวน'อนุทิน' ปมกล่าวหารัฐบาลที่แล้ว ใช้อำนาจกีดกัน สวน รบ.ปัจจุบัน ย้ายเดือนเดียว เฉียด 100 ตำแหน่ง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี