ในขณะที่ขบวนการโคขวิดเหลิงระเริงในอำนาจรวบอำนาจของทุกกระทรวง ของรัฐมนตรีทุกคน มาบริหารจัดการตามกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่โดยสภาพความเป็นจริงนั้นไม่สามารถที่จะบริหารสั่งการราชการทุกกระทรวงให้เป็นไปตามปกติได้จึงทำให้ราชการแผ่นดินวิปริตผันแปรไป
ในความเป็นจริงก็คือเกิดสภาพเกียร์ว่างขึ้นโดยทั่วไป สารพัดสารเพปัญหาสุมทับยิ่งกว่าภูเขาเลากาในขณะที่ประชาชนก็กดดันเรียกร้องเอากับนายกรัฐมนตรีแต่ผู้เดียว จนในที่สุดรายได้แผ่นดินก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ปัญหาความทุกข์ร้อนของราษฎรก็โหมประดังเข้ามาทุกทิศทาง
สภาพการปิดกิจการ การตกงาน การขาดทุน การไม่มีรายได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศ เพราะกลไกเศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงักไปทั้งหมด
จนในที่สุดแม้ว่าจะมีผู้โหวกเหวกโวยวายเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดประเทศรับต่างชาติเข้าประเทศโดยผ่านกระบวนการกักตรวจตามมาตรฐาน แล้วส่งไปพำนักหรือรักษาตัวหรือไปท่องเที่ยวในทุกจังหวัดทั่วประเทศมานานหลายเดือนแล้ว แต่กลับถูกปฏิเสธและถูกมองไปในแง่ร้าย จนกระทั่งในที่สุดก็ไม่อาจหนีความจริงไปได้
คณะรัฐมนตรีจึงต้องมีมติในวันอังคารที่ผ่านมานี้ให้เปิดประเทศ ให้รับชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยได้โดยผ่านกระบวนการกักตรวจตามมาตรฐาน ซึ่งนั่นคือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
เพราะเมื่อผ่านกระบวนการกักตรวจตามมาตรฐานแล้ว ชาวต่างประเทศทั้งหลายที่เดินทางเข้ามาในประเทศก็จะผ่านการตรวจและมีความปลอดภัย โดยเฉพาะพวกที่หนีข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติทั้งหลายซึ่งเสี่ยงและมีอันตรายใหญ่หลวงก็ไม่ต้องใช้พฤติกรรมเช่นนั้นอีกต่อไป เพราะสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตามมาตรการที่รัฐบาลได้เปิดนั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไม่ว่าโดยทางเครื่องบิน รถยนต์ หรือโดยช่องทางธรรมชาติก็จะเข้าสู่ระบบผ่านกระบวนการตรวจสอบและกักตัวตามมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้ประเทศทั้งหลายก็ได้ใช้วิธีการนี้โดยทั่วไป
ใครป่วยก็ส่งเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งประเทศไทยมีมาตรฐานการรักษาที่ยอดเยี่ยมของโลกถ้าใช้พลาสมาในการรักษาก็หายได้ในเวลา 24 ชั่วโมง ถ้ารักษาด้วยยาค็อกเทลก็จะหายได้ในเวลาไม่เกิน 4 วัน ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ประจักษ์ชัด จนทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตติดต่อกันมาเป็นเวลาช้านานแล้ว
ควรจะได้ตั้งเป้าหมายรับชาวต่างชาติเข้ามาในระยะเริ่มแรกให้ได้จำนวน 700,000 คน เมื่อผ่านกระบวนการกักตรวจแล้วก็จัดส่งไปพำนักในจังหวัดต่างๆ ประมาณการ
ว่าจังหวัดละ 10,000 คน จังหวัดใดรองรับได้ไม่หมดก็ปรับไปเพิ่มให้กับจังหวัดที่รองรับได้
ประมาณการการใช้จ่ายของชาวต่างชาติแต่ละคนจะอยู่ระหว่าง 100,000-300,000 บาทต่อเดือน ก็จะมีเงินไหลเวียนไปทั่วประเทศถึงเดือนละ 70,000 ล้านบาท
ต่อเดือน และเมื่อเกิดการปริวรรตในระบบเศรษฐกิจก็จะเกิดการไหลเวียนขึ้นถึงเดือนละ 700,000 ล้านบาทภาคบริการท่องเที่ยว กิจการโรงพยาบาล และผู้คนในแวดวงบริการท่องเที่ยวก็จะได้กลับเข้าสู่การทำงาน มีงานทำมีรายได้ และจะเพิ่มรายได้แผ่นดินโดยอัตโนมัติ
เพราะเหตุที่ประเทศไทยเป็นที่เชื่อมั่นและเป็นที่ต้องการของต่างชาติที่จะต้องการเข้ามาพำนักเพื่อความปลอดภัยและเพื่อความสุขสบาย ดังนั้น เมื่อเป้าแรก 700,000 คน สำเร็จแล้วก็สมควรปรับเป้าระลอกที่สองอีก 700,000 คน ก็จะเป็นจำนวนรวมถึง 1,400,000 คนและเมื่อเป็นการพำนักระยะยาวก็จะชดเชยนักท่องเที่ยวที่ขาดหายไปกว่า 10 ล้านคนได้ ทุกอย่างก็จะฟื้นคืนเป็นปกติ ไม่ต้องคิดแต่การปิดงาน งดจ้าง ยุยงให้คนกู้หนี้ยืมสินไปเที่ยวเตร่ อันเป็นภาระแก่ผู้ประกอบการที่ต้องจ่ายค่าจ้างในขณะที่ไม่ได้ทำงานเหมือนดังที่เป็นมา
แต่เพียงเท่านี้ยังไม่พอ รัฐบาลจะต้องรีบคืนอำนาจให้แก่รัฐมนตรีทุกกระทรวงเพื่อบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามปกติ กลไกอำนาจรัฐทั้งหลายก็จะขับเคลื่อนไปนั่นก็คือต้องเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันทีเพื่อให้ทุกกระทรวงและรัฐมนตรีทุกคนได้แก้ไขปัญหาที่สั่งสมมาตลอดระยะเวลา 9 เดือน ให้ลุล่วงไปโดยเร็วที่สุด
นอกจากนั้นจะต้องรีบตั้งผู้แทนการค้าเป็นตัวแทนของนายกรัฐมนตรีออกไปทำมาค้าขายให้ได้ยอดส่งออกไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาทโดยเร็ว ซึ่งจะก่อให้เกิดการผลิตฟื้นคืนเป็นปกติ ภาคอุตสาหกรรมและการแปรรูปทั้งหลายก็จะฟื้นคืนเป็นปกติ รายได้แผ่นดินจากการนี้ก็จะได้มาไม่ต้องเป็นภาระกู้หนี้ยืมสินอย่างไม่ลืมหูลืมตาอีกต่อไป
เพราะประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคในภูมิยุทธศาสตร์อันล้ำเลิศ จึงถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจการค้าพิเศษชายแดน 9 เขต ดังที่ริเริ่มไว้เมื่อครั้งที่ คสช. ยึดอำนาจใหม่ๆ ให้ปรากฏเป็นจริงขึ้น และให้คณะผู้บริหารเขตเศรษฐกิจเหล่านั้นรับผิดชอบแสวงหาการลงทุนและการค้าในเขตเศรษฐกิจนั้น
ให้เป็นจริง การฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วประเทศที่จะเป็นผลประโยชน์แก่ประชาชนทั่วประเทศก็จะเกิดขึ้น
แผ่นดินไทยอันเป็นสุวรรณภูมิหรือแผ่นดินทองก็จะไม่กลายเป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยคนลำบากยากจนและดิ้นรนทุรนทุรายเหมือนกับที่ผ่านมาอีกต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี